JJNY : ธุรกิจกุมขมับ บาทแข็งโป๊ก│อดีตเลขาฯสมช. วอนตะวัน-แบม│‘เพื่อไทย’ บุกพังงา│"เพื่อไทย" เปิดตัว "อ๋อม สกาวใจ" วันนี้

ธุรกิจกุมขมับ บาทแข็งโป๊ก ส่งออกไทยตกขอบ สะกิดแผลเศรษฐกิจ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3808218
 
 
ผู้เขียน ทีมข่าวเศรษฐกิจ

ธุรกิจกุมขมับ บาทแข็งโป๊ก ส่งออกไทยตกขอบ สะกิดแผลเศรษฐกิจ
 
ตั้งแต่ต้นปี 2566 สถานการณ์ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง อีกทั้งผันผวนรวดเร็ว โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปิดตลาดที่ 32.97 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่าในรอบ 9 ปี นับจากวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 เงินบาทแข็งค่าระดับ 32.90 บาทต่อเหรียญสหรัฐ หากนับตั้งแต่ต้นปีนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่า 5.7% และแข็งค่าขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นในเอเชีย โดยสกุลวอน (เกาหลีใต้) แข็งค่า 3.2% ดอลลาร์ไต้หวัน แข็งค่า 3.6% ดอลลาร์สิงคโปร์ แข็งค่า 2.8% เงินรูปีของอินเดีย แข็งค่า 1.1% เงินเยนของญี่ปุ่น แข็งค่า 2.6% เงินริงกิตของมาเลเซีย แข็งค่า 3.9% เงินหยวนของจีน แข็งค่า 2.8% เงินเปโซของฟิลิปปินส์ แข็งค่า 3.1% ขณะที่เงินด่องของเวียดนาม แข็งค่า 0.6%
 
ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่น เป็นผลจากเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่า หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีท่าทีว่าการใช้นโยบายการเงินใกล้ถึงจุดสิ้นสุด อีกทั้งตลาดเชื่อว่าเศรษฐกิจไทย จะคืนชีพได้จากนักเที่ยวจีนเข้าไทยสนับสนุนให้ท่องเที่ยวบูม รวมถึงฟันด์โฟลว์ไหลเข้าไทยกดดันให้เงินบาทแข็ง กลับกันการแข็งค่าเงินบาท เป็นตัวเร่งให้ภาคการส่งออกหดตัว
 
⦁ เงินบาทเคลื่อนตามกลไกตลาด
 
ภาพรวมค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น เคลื่อนไหวตามกลไกตลาด ปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจงว่า การเคลื่อนไหวของเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น สะท้อนปัจจัยพื้นฐานภายในที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง และปัจจัยภายนอกที่ธนาคารกลางหลักเริ่มลดขนาดการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเป็นไปตามพื้นฐานเศรษฐกิจ จึงถือว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น สมเหตุสมผลและยังไม่พบปัจจัยผิดปกติ
 
ทั้งนี้ เงินบาทแข็งเป็นปัจจัยเล็กๆ ที่กระทบการส่งออก แต่สิ่งที่ส่งผลกระทบหนักคือปัจจัยจากประเทศคู่ค้าที่เศรษฐกิจชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม แม้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากท่องเที่ยวฟื้นตัว รวมถึงนักลงทุนคาดหวังให้เศรษฐกิจจีนดีขึ้น แต่ท่ามกลางความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกชะลอตัวยังวางใจไม่ได้ ดังนั้น เงินบาทยังเสี่ยงผันผวน หากผันผวนมากจนมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ธปท.จะเข้าดูแล
 
⦁ หวั่นผันผวนเร็วเสียโอกาสแข่งขัน
 
ขณะที่ภาคเอกชนโดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ส่งสัญญาณผ่านข้อกังวลว่าเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วไม่เป็นผลดีต่อการส่งออก โดยประเมินการส่งออกปี 2566 ขยายตัวเพียง 1-2% หลังส่งสัญญาณชะลอตัวในเดือนธันวาคม 2565 ติดลบ 14.6% ติดลบเป็นเดือนที่ 3นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 สะท้อนเศรษฐกิจโลกเริ่มถดถอยชัดเจนและมีผลต่อประเทศไทยแล้ว
 
เรื่องนี้ เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะคณะกรรมการ กกร. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกสูง เป็นสัดส่วน 60% ต่อจีดีพี เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้นและแข็งค่าที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ย่อมทำให้เสียเปรียบความสามารถแข่งขันด้านราคา ประกอบกับเศรษฐกิจโลกยังหดตัว ดูจากการสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง ระยะต่อไปยังเจอปัญหาหลังจีนเปิดเมือง สินค้าจีนก็จะออกมาดัมพ์ราคาโลกอีกครั้ง กลับมาเป็นคู่แข่งเจ้าใหญ่ของอาเซียนและตลาดโลก จะปิดโอกาสให้ส่งออกไทยที่ตั้งไว้บวก 1-2% อาจติดลบได้ ขณะเดียวกัน จากเงินบาทแข็งการนำเข้าสินค้าจะสูง โดยเฉพาะการสั่งตรงจากจีน เพราะราคาถูก เป็นปัจจัยหนึ่งทำให้ผู้ผลิตในไทยถูกแย่งลูกค้าและตลาดถูกครองโดยต่างชาติ
“ระดับค่าเงินที่ทั้งผู้นำเข้าและส่งออกรับได้ มองว่าเหมาะสมในขณะนี้อยู่ที่ 33-34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มองว่าเป็นจุดตรงกลางที่สร้างสมดุลระหว่างกันได้ดี แต่ถ้าหลุดกรอบจากนี้ และยิ่งค่าเงินไม่นิ่ง จะทำให้ธุรกิจเสียหายจากการคาดการณ์ที่ผิดคาด” เกรียงไกรกล่าว

⦁ ภาคเกษตร-อาหารกุมขมับ
 
แวดวงการส่งออกอย่าง ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) มองว่า ค่าเงินผันผวนในช่วง 32.5-33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ยังเคลื่อนไหวฝั่งแข็งค่าโดยจุดสำคัญที่สุดคือแข็งค่ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ขีดความสามารถการแข่งขันไทยด้อยกว่าคู่แข่งประมาณ 7%  ประกอบกับต้นทุนการผลิตด้านอื่นๆ อาทิ ค่าไฟฟ้า แรงงาน ดอกเบี้ยของไทยสูงขึ้น โดยกลุ่มที่น่าเป็นห่วง คือ สินค้าเกษตร และอาหารที่ในไตรมาส 2/2566 จะมีผลผลิตออกมากแต่การส่งออกต่ำลงและมีรายได้จากกำไรที่ลดลงจากค่าเงินแข็ง เพราะกลุ่มเกษตรมีต้นทุนด้านวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าราคาแพง นอกจากนี้ ปัญหาสำคัญอีกข้อคือ นักลงทุน เล็งการตั้งถิ่นฐานการผลิต หรือธุรกิจอื่นๆ จะพิจารณาภาพรวมต้นทุนสุดท้ายแย่ที่สุด นักลงทุนคงเลือกไปประเทศอื่นที่มีต้นทุนต่ำกว่า
 
อีกมุมมอง วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์อาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า การส่งออกได้รับผลกระทบ 2 ด้าน โดยประเด็นแรกเป็นปัจจัยผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงของประเทศมหาอำนาจช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดภาวะความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายของประชาชน รวมถึงเรื่องเศรษฐกิจจะชะลอตัวที่ยังมีสัญญาณรุนแรง จึงเป็นผลที่ทำให้การส่งออกแผ่วลง ประกอบกับค่าเงินบาทแข็งค่า เข้ามาเป็นปัจจัยซ้ำเติมให้การส่งออกขยับเดินหน้าไปได้ยากขึ้น
 
โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเกษตรอาหารที่ผลิตในประเทศไทยและใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก เพราะผู้ประกอบการไม่ได้ซื้อหรือขายได้คล่องตัวเหมือนช่วงต้นปี 2565 ขณะที่ผลผลิตเตรียมออกตามฤดูกาล เมื่อผลผลิตออกมามากแต่ไม่สามารถส่งออกได้จะส่งผลให้ธุรกิจเกิดความเสียหายชัดเจนที่สุด เพราะผู้ส่งออกขายราคาเดิม แต่ตลาดผู้รับซื้อหากค่าเงินอ่อนเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทจะทำให้การตัดสินใจซื้อสินค้าไทยได้ยากขึ้น หรือผู้รับซื้อจะเลือกสินค้าประเภทเดียวกันของประเทศอื่นที่ค่าเงินอ่อนกว่าแทน

⦁ ธุรกิจนำเข้ายังขาดทุน
 
วิศิษฐ์ยืนยันว่า ฟากผู้นำเข้าอาจไม่ได้ประโยชน์อย่างที่คิด โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร ที่ยังมีวัตถุดิบหลายชนิดต้องพึ่งพานำเข้า และเป็นแหล่งผลิต อย่างรัสเซีย ยูเครน เมื่อ 2 ประเทศเกิดสงครามผลผลิตสู่ตลาดโลกจะหายไปอาทิ ข้าวสาลี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 2 ประเทศนี้ผลิตเป็นสัดส่วน 20-30% ของโลก หาตลาดทดแทนไม่ทัน ส่งผลราคานำเข้าสูงกว่าปกติมาก กรณีนี้บาทแข็งไม่ส่งประโยชน์ตรงนี้กับการนำเข้า
 
สุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ยืนยันว่า เงินบาทแข็งค่าอาจไม่ช่วยให้การนำเข้าสินค้ามีต้นทุนลดลง เนื่องจากปัจจุบันผู้เลี้ยงสุกรต้องเผชิญกับต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้นและมีการนำเข้าปริมาณสูง แม้เงินบาทแข็ง ก็ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อวัตถุดิบในราคาแพงอยู่ดี ส่งผลให้การส่งขายในประเทศผู้เลี้ยงสัตว์อาจได้กำไรน้อยลง หากขึ้นราคาสูงมากจะมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชน จนเกิดผลกระทบต่อห่วงโซ่ธุรกิจ ตอนนี้ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มทรงตัวเฉลี่ย 96-100 บาท/กิโลกรัม จากราคาต้นทุน อาทิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ 13.35 บาท/กิโลกรัม ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้น 30% ขายได้ 9 บาท/กิโลกรัม แต่ตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ส่งมอบเดือนมีนาคม 2566 ปรับสูงขึ้นอยู่ที่ 9.198 บาท/กิโลกรัม อาจเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นหากสภาพภูมิอากาศของประเทศแปรปรวน
 
⦁ ฝากโจทย์รัฐตั้งรับเศรษฐกิจ
 
ปัจจัยเศรษฐกิจโลกกดดันค่าเงินบาทล้วนมาจากการเคลื่อนไหวเศรษฐกิจโลก เรื่องนี้ อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุ การแก้ตรงจุดคือแก้ปัญหาจาก ธปท.เป็นหลัก แต่ด้วยเศรษฐกิจยังไม่นิ่ง รวมถึงภาวะเศรษฐกิจกดดัน ทำให้ใช้เครื่องมือทางการเงิน หรือการเข้าแทรกแซงเงิน อาจทำได้ไม่มาก เพราะฝืนตลาด หากพยุงค่าเงิน 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ธปท.ต้องขึ้นดอกเบี้ย เพื่อไม่ให้เงินบาทอ่อน แต่การทำเช่นนี้ประชาชนจะเจ็บตัวหนักเพราะภาระหนี้มากขึ้น ทั้งนี้ โครงสร้างการเงินไทยสามารถเคลื่อนไหวโดยไม่กระทบต่อการส่งออก สามารถเปลี่ยนได้แต่อยู่ที่การคิดของทีมผู้นำจะพาประเทศไปสู่ทิศทางใดยังต้องติดตาม
 
เรื่องค่าเงินนั้น ผู้ประกอบการสะท้อนมาตลอด อย่ามองว่าบาทควรแข็งหรืออ่อนเท่าไหร่ ขออย่างเดียวอย่าผันผวนเร็ว แก้ปัญหานี้ตกได้ อย่างอื่นก็คลี่คลาย



อดีตเลขาฯสมช. วอนตะวัน-แบม มีชีวิตไว้รอดูชัยชนะ ยกหลานทั้ง 2 ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3808619

อดีตเลขาฯสมช. วอนตะวัน–แบม มีชีวิตไว้รอดูชัยชนะ ยกหลานทั้ง 2 ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แล้ว
 
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงสถานการณ์การอดอาหารของแบมกับตะวัน ว่า ตนอยากขอส่งกำลังใจและสื่อสารไปยังหลานเยาวชนทั้งสองคนแม้การที่นายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจแสดงท่าทีประสงค์จะสืบทอดอำนาจต่อไป จะเป็นท่าทีที่น่ารำคาญใจสุดๆของสังคมไทย แต่ผลการเลือกตั้งส.ส.แลนด์สไลด์ของปีกประชาธิปไตยที่กำลังจะเกิดขึ้นจะส่งผลให้นายกฯคนนี้ต้องพ้นไปแน่นอนพร้อมกับการส่งผลบวกต่อการคลี่คลายสถานการณ์การอดอาหารประท้วงเพื่อต่อกรกับม.112 ของสองเยาวชนอีกด้วย ดังนั้นตนคิดว่า การต่อสู้ของหลานต้องใช้รูปแบบของการทำงานเป็นทีมจึงจะบรรลุเป้าหมาย เปรียบเสมือนการแข่งขันวิ่งผลัดสี่คูณร้อย โดยหลานวิ่งเป็นไม้หนึ่งและหลานได้ทำหน้าที่นั้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้วคือได้จุดกระแสให้คนรุ่นใหม่ผู้มารับวิ่งไม้สองกระหายที่จะออกมาใช้สิทธิการเลือกตั้งส.ส.ที่ใกล้จะเกิดขึ้น
 
หลานจึงต้องรักษาชีวิตไว้เพื่อออกมาคอยดูผลของการวิ่งเข้าเส้นชัยสู่ชัยชนะของทีม เห็นไม้สองเขาวิ่งสร้างแลนด์สไลด์ได้ส.ส.ปีกประชาธิปไตยมารับไม้สามต่อ แล้วไม้สามเขาจะวิ่งส่งต่อให้รัฐบาลประชาธิปไตยรับเป็นไม้สี่วิ่งเข้าสู่เส้นชัยของผู้ชนะในท้ายสุด เมื่อรัฐบาลใหม่ประชาธิปไตยเกิดขึ้นการเปลี่ยนใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยย่อมเกิดขึ้น ฝันของหลานทั้งสองก็จะเป็นจริงสมความมุ่งหมาย” พล.ท.ภราดร กล่าว และว่า ไม้หนึ่งของหลานมันออกตัวแรงฤทธิ์ทำให้สังคมไทยตาสว่างโร่ว่าการแก้ปัญหาปากท้องเร่งด่วนของประชาชนนั้นมันสำคัญก็จริงอยู่ แต่สิทธิเสรีภาพความมั่นคงของมนุษย์มันต้องเกิดขึ้นก่อน ซึ่งจะเป็นรูปธรรมขึ้นได้ก็คือรัฐบาลใหม่จะต้องปฏิรูปการจัดการงานความมั่นคงทั้งระบบอย่างเร่งด่วน บรรยากาศสีเทาในทุกมิติของประเทศที่เกิดจากน้ำมือของรัฐบาลหน้ากากผู้ดี นายกฯแปดเปื้อน ก็จะกลายมาเป็นบรรยากาศประชาวิไลสีขาวแทน ขอหลานทั้งสองรักษาชีวิตไว้เพื่อได้เห็นชัยชนะในเวลาอันใกล้นี้ร่วมกันกับเพื่อนพ้องน้องเถอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่