กระทู้ระบายและอยากได้คำแนะนำ
ตอนนี้เครียดหนักเรื่องบ้านที่กำลังก่อสร้างและเรื่องแฟน จนจะเป็นโรคซึมเศร้า
เราอายุ 35 ตำแหน่งรองผจก.แผนกบัญชีอยู่ในโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ แฟนอายุ 50 เป็นProject manager ไซด์ก่อสร้าง เราอยู่กันคนละจังหวัด เราคบกันมาเกือบ6ปี ยังไม่ได้แต่งงานกัน เพราะเราไม่อยากแต่งไม่ชอบงานพิธี เขาก็โอเค ที่ผ่านมาก็มีทะเลาะ ผิดใจกันบ้างแต่ก็ไม่ใหญ่โตบานปลาย แต่...ลึกๆในใจเราก็รู้สึกอึดอัดมาตลอดเรื่องที่เขามักจะบังคับให้เราทำในสิ่งที่เขาต้องการ ส่วนใหญ่เราจะต้องปรับตัวเข้าหาเขา
ตั้งแต่เริ่มปลูกบ้านก็มีปัญหาทะเลาะกันบ่อยมาก เขาชอบว่าเราไม่ใส่ใจ คิดเองไม่ได้ ไม่เคยใช้วิจารณญาณอย่างมีเหตุผลคุยกัน, หาว่าเราชอบเถียง, ยอกย้อน มีปัญหาแล้วชอบเงียบไม่พูดไม่แก้ไขปัญหาชอบหนีปัญหา เราก็บอกไปแล้วว่าเราไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาจะสื่อ อยากได้อะไรก็พูดมาตรงๆเช่น หิวก็บอกว่าหิวไปกันข้าวกันแวะร้านข้าวหน่อยก็ว่าไป แต่เขามักจะทำอะไรพูดอะไรอ้อมๆ เช่นตอนซัพพลายเออเอาแผ่นพื้นมาส่งแล้ววางแผนพื้นใกล้ตัวบ้าน เขาถ่ายรูปมาแล้วส่งให้เราดูแล้วบอกเราว่าวางแผ่นพื้นแบบนี้เวลาเครนยกมันอาจจะโดนตัวบ้านโดนเสา เราก็ตอบเขาไปว่าโอเค เดี๋ยวบอกลุงให้ระวังตอนยกแผ่นพื้น เขาก็ว่าเราไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ แล้วก็บ่นเรามายกใหญ่แล้วก็ค่อยบอกว่าสิ่งที่ต้องการให้เข้าใจคือการเตรียมการวางแผนก่อนที่จะดำเนินงาน การหาพื้นที่ในการวางของก็เป็นส่วนสำคัญ ซึ่งเราก็บอกเขาไปแล้วนะว่าเราไม่มีความรู้เรื่องก่อนสร้าง เราไม่รู้หรอกว่าจุดสังเกต จุดระวัง ต้องเตรียมอะไรยังไงก่อนเริ่มงาน อยากให้ทำอะไรก็บอกมาตรงๆ ถ้าบอกตรงๆแล้วยังไม่เข้าใจอีก ก็ให้คิดซะว่าเราโง่เองที่ตามไม่ทัน เขาก็หาว่าเถียง ยอกย้อนเขา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตั้งแต่เริ่มปลูกบ้าน ซึ่งปลูกในที่ดิน1ไร่ของเราที่แม่ยกให้ซึ่งเราอยากมีบ้าน 2 ชั้น 5ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 200ตรม. อยากใช้งบประมาณ1.5-2ล้าน แฟนเราก็ช่วยออกแบบให้มี5ห้องนอน 6ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 430ตรม. ตอนแรกเราก็บอกว่ามันใหญ่ไป เขาก็บอกว่าเล็กๆมันอึดอัด เราก็โอเคตามนั้นไม่ว่าอะไร แต่พอคิดBOQมาแล้ว จากตอนแรก 2ล้าน ก็เริ่มเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนกลายเป็น 3 ล้าน โดยที่เขาบอกว่าจริงๆมัน4ล้านกว่านะ จะทำแบบประหยัดเอาแค่3ล้านพอ เราแอบคิดในใจนะว่าจะได้จริงหรอ ตอนไปยื่นกู้ธนาคารเลยขอไป 3.5ล้าน ( ธนาคารประเมินบ้านรวมที่ดินแล้ว 8 ล้าน ) จากที่ต้องผ่อนเดือนละหมื่นต้นๆ กลายเป็น 2หมื่น เราก็คิดหนักนะ เพราะรายได้เราถ้าผ่อนขนาดนี้ก็หนักมากๆสาหัสเลย เขาก็บอกจะช่วยผ่อนเดือนละ10000 เราก็เลยโอเค
ตอนไปยื่นกู้ก็ทะเลาะกันด้วยเรื่องประกันสินเชื่อ เราจะทำประกันแค่75% 20 ปี แต่แฟนจะให้ทำ 100%30ปี ซึ่งเบี้ยประกัน ต่างกันหลักแสน เขาคิดว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจะได้มีเงินจ่ายค่าบ้านที่เหลือ เราก็บอกว่าเกิดอะไรขึ้นนั่นคือเราตายนะ ไม่งั้นก็ไม่ได้อะไร ซึ่งเราหาข้อมูลก่อนจะไปคุยกับธนาคารแล้ว และคิดว่าเอาเงินส่วนต่าง1แสนไปซื้อประกันที่ได้เงินคืนในอนาคตดีกว่า เขาก็เลยยอม แต่ก่อนที่จะยอมรับความคิดเห็นเรา ก็บ่นเรายกใหญ่
เริ่มก่อสร้าง ก่อนลงเสาเอก เราก็หาข้อมูลการลงเสาเอกต้องใช้อะไร ทำยังไง หาดูร้านสำหรับซื้อชุดไหว้ นั่งดูคลิปคนที่เขาลงเสาเอกทำอะไรยังไง แฟนก็บอกว่าที่เธอดูมันของวางศิลาฤกษ์ เธอต้องเข้าใจก่อนว่าวางเสาเอก กับ วางศิลาฤกษ์คืออะไร เธอจะไปดูคลิปพวกนั้นทำไม ไม่ไปหาอ่านให้เข้าใจก่อน เรื่องดูคลิปเราก็สวนกลับไปว่าดูเขาทำจะผิดอะไร เราก็เลยหาข้อมูลส่งให้เขาดูเลยจ้า มันคือพิธีเดียวกันแต่ถ้าใช้กับบ้านเรือนใช้คำว่าวางเสาเอก ถ้าใช้กับอาคารอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ใช้คำว่าวางศิลาฤกษ์ (http://www.mckeller.co.th/th/knowledge-and-experience-/construction-ceremony-1)
เขาก็เลยเงียบ ไม่ตอบโต้
เราคิดว่าจะทำพิธีแบบเรียบง่ายๆ ของไหว้ไม่ต้องเยอะ ตอนแรกก็ตกลงกันไว้แบบนั้น แต่พอเอาเข้าจริง แฟนบอกทำแล้วก็ทำให้มันดีๆไปเลย เราก็โอเคไม่ว่าอะไร ตอนไปซื้อของก็ทะเลาะกันไปยกนึง พอวันยกเสาเอกก็มาอีกแล้วจ้า ตอนไหว้เสร็จ เขาก็ติดธุระคุยงานอยู่เป็นครึ่งชม. ฤกษ์ยกเสามันก็เลื่อนไปเรื่อยๆ ลุงเราที่เป็นคนมารับงานปลูกบ้านก็บอกให้เราเอาข้าวตอกดอกไม้ไปโรยในเสา เราก็เดินไปโรย แฟนก็บอกว่าไม่ต้องด้วยสีหน้าไม่พอใจ แล้วก็ให้เราลงไปตอกไม้มงคล ฝังพลอยฝังแผ่นเงินแผ่นทอง ตอนทำแฟนก็บ่นเราอีก ทำไมไม่ทำตามขั้นตอนบ่นนู่นนี่นั่นบ่นๆๆๆๆๆ จนเรารู้สึกรำคาญมากๆแต่ก็เก็บความรู้สึกไว้
พอเริ่มปลูกไปได้สักพัก งานไม่เดินตามแผนที่เขาตั้งไว้เขาก็บ่นอีก เราก็บอกว่าให้ชาวบ้านมาทำก็ต้องทำใจเขาไม่ได้มีระเบียบวินัยถ้าอยากได้ดั่งใจก็ต้องจ้างบริษัทผุ้รับเหมา จากนั้นแฟนก็จัดชุดใหญ่มาเลยจ้า หาว่าเราไปสั่งสอนเขา แล้วทีนี้ก็ลากยาวเลยหาว่าเราไม่สนใจไม่ตามงาน ขุดอะไรไม่รุ้มาพูดหนักหนา จนทะเลาะกันยกใหญ่ หาว่าเราเถียง ว่าเราไม่สนับสนุนความคิดเขาแล้วก็พาล เราเลยบอกว่า เราเป็นเมีย ไม่ใช่ลูกน้องหรือทาสเขาที่จะบอกและออกความเห็นอะไรไม่ได้ ทีนี้พาลใหญ่เลยจ้า บ่นว่าใครกันแน่เป็นทาสถูกใช้งาน เราคิดนะว่าไม่ได้บังคับให้เขาทำบ้านหลังนี้นะเขาเต็มใจทำแล้วพูดทำไม ถ้าไม่อยากทำก็ไม่เป็นไร แล้วก็พาลบอกว่าเราสองคนน่าจะไปกันไม่ได้เพราะความคิดไม่เกื้อหนุนกัน แล้วก็บอกจะช่วยทำถึงแค่เสร็จหลังคา เราก็บอกโอเคแล้วก็ขอบคุณเขา ทีนี้โมโหใหญ่เลยใส่มาเป็นชุดอีกจนเราขี้เกียจอ่าน (ทะเลาะกันทางไลน์ซะส่วนใหญ่)
แล้วหลังจากนั้นก็ทะเลาะกันบ่อยมากๆ ส่วนใหญ่เขาจะว่าเราไม่สนใจบ้าน ไม่โทรไปตามจี้หน้างาน ไม่ถ่ายรูปรายงานไม่บลาๆ ไม่ว่าเราก็บ่นช่างก่อสร้างว่าทำงานช้าบ้าง ทำงานไม่เรียบร้อย ทำงานไม่ตรงตามแบบ
เราเคยบอกเขาไปนะว่าเราไม่มีความรุ้ก่อสร้าง ไม่สามารถตัดสินได้หรอกว่าสิ่งที่ช่างทำถูกหรือผิด เวลาที่ใช้ก่อสร้างเหมาะสมหรือไม่ โทรตามจี้งานกับลุง ลุงเราก็บอกว่ารอแฟนเราแจ้งว่าจะให้ทำอะไร ไม่อยากทำเกินคำสั่งเดี๋ยวทำผิดอีกก็สั่งให้รื้ออีกเสียเวลา ลุงกับช่างหน้างานก็บ่นเรื่องแฟนเราชอบเปลี่ยนนู่นนี่นั่น เปลี่ยนแล้วก็ลืม วันนี้สั่งอย่างพรุ่งนี้สั่งอีกอย่าง สั่งแล้วก็ลืม บางทีก็เอาแบบงานอื่นมาให้ช่าง ช่างก็งงกันไปซิ
ตอนนี้เราที่อยู่จุดกึ่งกลาง ต้องฟังเสียงบ่นของแฟน พอไปหน้างานก็ต้องฟังพวกลุงกับช่างหน้างานบ่นเรื่องแฟนเราอีก จนเครียดมากจะเป็นโรคซึมเศร้า รู้สึกไม่มีความสุขเอามากๆจนไม่อยากทำอะไรเลย
วันนั้นเขาบ่นเยอะมากๆๆๆๆจนเราประสาทจะรับประทาน เราก็บอกว่างั้นเปลี่ยนเอาผุ้รับเหมาอื่นมาทำเลยจะได้ถูกใจพี่ เขาก็สวนกลับมาว่าเปลี่ยนผุ้รับเหมามันไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ มันต้องบลาๆๆๆๆๆ แล้วก็บ่นอีก จนเรากำมือแน่แบบ ทนไม่ไหวแล้ว
เราก็เลยบอกไปว่า “รำคาญจะบ่นอะไรนักหนา” เขาก็ยังไม่หยุดนะ เขาสวนมาว่าบ่นแต่ก็หาวิธีแก้ไข ไม่เหมือนกันเธอไม่เคยช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย เอาแต่เงียบ แค่รับฟังยังไม่รับฟังเลย แล้วแบบนี้จะอยู่ด้วยกันได้ยังไง ไม่เคยเกื้อหนุนอะไรกันเลย ทีนี้ก็โทษแต่เราอย่างเดียวเลยว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเรา
หลังจากนั้นเขาก็ไม่บ่นเงียบกับเราโทรไปก็ไม่พูด ถามคำตอบคำ ทุกวันอาทิตย์เรากับแฟนจะไปตรวจหน้างาน แฟนก็จะไปทำท่อประปา จากที่เคยไปพร้อมกัน เขาก็ไปคนเดียว แบบนี้มาเป็นเดือน
ตอนนี้มุงหลังคาเสร็จแล้ว ก่ออิฐเกิน80% เหลืองานฝังท่อร้อยสายไฟและงานท่อประปา เราก็ถามเขาว่างานฝังท่อร้อยสายไฟถึงไหนแล้ว เขาบอกถามผิดคนแล้ว เราตอบกลับไปว่าก็คุณบอกจะรับผิดชอบส่วนนี้ เขาบอกว่าถ้าอยากได้เร็วก็ไปหาคนอื่นมาทำ แล้วก็บ่นใส่เรามาอีก ว่าทีกับคนอื่นไม่กล้ายอกย้อนไม่กล้าถามไม่กล้าเถียง ทีกับเขากล้าทำ แล้วก็บ่นมาชุดใหญ่มากๆ
ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยใจมากค่ะคิดว่าคงไปต่อไม่ไหวจริงๆเราควรทำยังไงกับตัวเองดี จึงอยากได้ความคิดเห็นของผู้มีประสบการณ์ช่วยแนะนำ
1. ตอนนี้ปลูกบ้านมา ตั้งแต่ กันยายน-มกราคมก็ 5 เดือนนิดๆ หลังคามุงเสร็จแล้วรอติดฝ้าติดระแนง ก่ออิฐได้เกือบ80%แล้ว (พื้นที่ใช้สอย 430ตรม. คนงานช่วงเดือนแรกมีแค่5คน ช่วงหลังก็เพิ่มขึ้นมาเป็น10คน ช่วงทำหลังคาก็เพิ่มมาเป็น17คน คนงานทำงานแค่8.30-16.30น. ค่าจ้างรายวันเฉลี่ยคนละ570บาท) ฝังท่อประปาบางส่วนแล้ว (แฟนทำเอง) ถือว่างานช้าไหมคะ ค่าแรงเฉลี่ยถือว่าสูงหรือไม่ (แฟนบอกว่างานช้าและค่าแรงแพงทำงานไม่คุ้ม)
2. เจ้าของบ้านต้องคอยเข้าไปตรวจสอบหน้างานบ่อยๆหรือไม่ (เราก็เข้าไปดูวันเสาร์ที่เราหยุดงาน คุยกับลุงกับช่างว่าติดขัดอะไร แล้วก็เล่นกับหลานอายุ3ขวบซึ่งเป็นลูกของน้องชายเราที่มาช่วยปลูกบ้าน ) (แฟนบอกว่าเราไม่ใส่ใจหน้างานไม่ตามงาน วันที่ไปก็เอาแต่เล่นกับหลาน ไม่รายงานความคืบหน้า)
3. การที่เราโอเคกับการออกแบบของแฟน และให้เขาตัดสินใจเลือกของต่างๆเราทำเหมาะสมไหมคะ เราเคยออกความเห็นไปแล้วเขาก็มักจะบอกว่ามันไม่ดี ไม่เหมาะ เอาไว้คิดดูก่อน หลังๆเราบอกเขาว่าพี่ตัดสินใจเองแล้วกัน พอตอนนี้เขาก็หาว่าเราโยนความรับผิดชอบให้เขาหมดไม่ร่วมความคิดเห็น (เคยส่งรูปตัวอย่างสีบ้านที่ชอบกับแบบห้องครัวไปในไลน์ เขายังไม่พอใจเลยหาว่าไม่มีปากพูดหรออยู่ด้วยกันแค่นี้ เราคิดว่าส่งรูปให้ดูมันน่าจะเข้าใจง่ายกว่าการพูดอธิบาย )
4. การที่เราถามความคืบหน้าหน้างานกับแฟนที่เป็นคนดูแลการก่อสร้าง (เขาทำงานประจำด้วยเวลาว่างเขาก็จะมาดูหน้างาน) มันเป็นการจี้งานเขาหรอคะ (เราก็แค่ถามงานในส่วนที่เขารับผิดชอบคืองานฝังท่อร้อยสายไฟ ท่อประปา)
5. ตอนนี้คุยอะไรกับแฟนไม่ได้เลย เขานิ่งเฉยไม่คุยด้วย ถ้าถามเรื่องหน้างานต้องบ่นว่าเราไม่ก็ว่าคนงานตลอด
ความสัมพันธ์กับแฟนควรทำยังไงดี รู้สึกไม่มีความสุขมากๆเลย ถ้าเลิกกันมีแนวทางที่จะทำให้บ้านสร้างเสร็จอย่างราบรื่นไหมคะ เราควรปรับปรุงตัวด้านไหนเพิ่มขึ้นเพื่อให้บ้านสร้างเสร็จ
เรื่องผ่อนน่าจะพอไหวหลัง3ปีค่อยรีไฟแนนซ์
ปล.เงินทุนตั้งต้นที่ใช้ก่อสร้างคือเงินเก็บเราคนเดียว แฟนออกแรงอย่างเดียวค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อยากได้คำแนะนำ เครียดหนักเรื่องสร้างบ้านและเรื่องแฟน จนจะเป็นโรคซึมเศร้า
ตอนนี้เครียดหนักเรื่องบ้านที่กำลังก่อสร้างและเรื่องแฟน จนจะเป็นโรคซึมเศร้า
เราอายุ 35 ตำแหน่งรองผจก.แผนกบัญชีอยู่ในโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ แฟนอายุ 50 เป็นProject manager ไซด์ก่อสร้าง เราอยู่กันคนละจังหวัด เราคบกันมาเกือบ6ปี ยังไม่ได้แต่งงานกัน เพราะเราไม่อยากแต่งไม่ชอบงานพิธี เขาก็โอเค ที่ผ่านมาก็มีทะเลาะ ผิดใจกันบ้างแต่ก็ไม่ใหญ่โตบานปลาย แต่...ลึกๆในใจเราก็รู้สึกอึดอัดมาตลอดเรื่องที่เขามักจะบังคับให้เราทำในสิ่งที่เขาต้องการ ส่วนใหญ่เราจะต้องปรับตัวเข้าหาเขา
ตั้งแต่เริ่มปลูกบ้านก็มีปัญหาทะเลาะกันบ่อยมาก เขาชอบว่าเราไม่ใส่ใจ คิดเองไม่ได้ ไม่เคยใช้วิจารณญาณอย่างมีเหตุผลคุยกัน, หาว่าเราชอบเถียง, ยอกย้อน มีปัญหาแล้วชอบเงียบไม่พูดไม่แก้ไขปัญหาชอบหนีปัญหา เราก็บอกไปแล้วว่าเราไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาจะสื่อ อยากได้อะไรก็พูดมาตรงๆเช่น หิวก็บอกว่าหิวไปกันข้าวกันแวะร้านข้าวหน่อยก็ว่าไป แต่เขามักจะทำอะไรพูดอะไรอ้อมๆ เช่นตอนซัพพลายเออเอาแผ่นพื้นมาส่งแล้ววางแผนพื้นใกล้ตัวบ้าน เขาถ่ายรูปมาแล้วส่งให้เราดูแล้วบอกเราว่าวางแผ่นพื้นแบบนี้เวลาเครนยกมันอาจจะโดนตัวบ้านโดนเสา เราก็ตอบเขาไปว่าโอเค เดี๋ยวบอกลุงให้ระวังตอนยกแผ่นพื้น เขาก็ว่าเราไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ แล้วก็บ่นเรามายกใหญ่แล้วก็ค่อยบอกว่าสิ่งที่ต้องการให้เข้าใจคือการเตรียมการวางแผนก่อนที่จะดำเนินงาน การหาพื้นที่ในการวางของก็เป็นส่วนสำคัญ ซึ่งเราก็บอกเขาไปแล้วนะว่าเราไม่มีความรู้เรื่องก่อนสร้าง เราไม่รู้หรอกว่าจุดสังเกต จุดระวัง ต้องเตรียมอะไรยังไงก่อนเริ่มงาน อยากให้ทำอะไรก็บอกมาตรงๆ ถ้าบอกตรงๆแล้วยังไม่เข้าใจอีก ก็ให้คิดซะว่าเราโง่เองที่ตามไม่ทัน เขาก็หาว่าเถียง ยอกย้อนเขา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยใจมากค่ะคิดว่าคงไปต่อไม่ไหวจริงๆเราควรทำยังไงกับตัวเองดี จึงอยากได้ความคิดเห็นของผู้มีประสบการณ์ช่วยแนะนำ
1. ตอนนี้ปลูกบ้านมา ตั้งแต่ กันยายน-มกราคมก็ 5 เดือนนิดๆ หลังคามุงเสร็จแล้วรอติดฝ้าติดระแนง ก่ออิฐได้เกือบ80%แล้ว (พื้นที่ใช้สอย 430ตรม. คนงานช่วงเดือนแรกมีแค่5คน ช่วงหลังก็เพิ่มขึ้นมาเป็น10คน ช่วงทำหลังคาก็เพิ่มมาเป็น17คน คนงานทำงานแค่8.30-16.30น. ค่าจ้างรายวันเฉลี่ยคนละ570บาท) ฝังท่อประปาบางส่วนแล้ว (แฟนทำเอง) ถือว่างานช้าไหมคะ ค่าแรงเฉลี่ยถือว่าสูงหรือไม่ (แฟนบอกว่างานช้าและค่าแรงแพงทำงานไม่คุ้ม)
2. เจ้าของบ้านต้องคอยเข้าไปตรวจสอบหน้างานบ่อยๆหรือไม่ (เราก็เข้าไปดูวันเสาร์ที่เราหยุดงาน คุยกับลุงกับช่างว่าติดขัดอะไร แล้วก็เล่นกับหลานอายุ3ขวบซึ่งเป็นลูกของน้องชายเราที่มาช่วยปลูกบ้าน ) (แฟนบอกว่าเราไม่ใส่ใจหน้างานไม่ตามงาน วันที่ไปก็เอาแต่เล่นกับหลาน ไม่รายงานความคืบหน้า)
3. การที่เราโอเคกับการออกแบบของแฟน และให้เขาตัดสินใจเลือกของต่างๆเราทำเหมาะสมไหมคะ เราเคยออกความเห็นไปแล้วเขาก็มักจะบอกว่ามันไม่ดี ไม่เหมาะ เอาไว้คิดดูก่อน หลังๆเราบอกเขาว่าพี่ตัดสินใจเองแล้วกัน พอตอนนี้เขาก็หาว่าเราโยนความรับผิดชอบให้เขาหมดไม่ร่วมความคิดเห็น (เคยส่งรูปตัวอย่างสีบ้านที่ชอบกับแบบห้องครัวไปในไลน์ เขายังไม่พอใจเลยหาว่าไม่มีปากพูดหรออยู่ด้วยกันแค่นี้ เราคิดว่าส่งรูปให้ดูมันน่าจะเข้าใจง่ายกว่าการพูดอธิบาย )
4. การที่เราถามความคืบหน้าหน้างานกับแฟนที่เป็นคนดูแลการก่อสร้าง (เขาทำงานประจำด้วยเวลาว่างเขาก็จะมาดูหน้างาน) มันเป็นการจี้งานเขาหรอคะ (เราก็แค่ถามงานในส่วนที่เขารับผิดชอบคืองานฝังท่อร้อยสายไฟ ท่อประปา)
5. ตอนนี้คุยอะไรกับแฟนไม่ได้เลย เขานิ่งเฉยไม่คุยด้วย ถ้าถามเรื่องหน้างานต้องบ่นว่าเราไม่ก็ว่าคนงานตลอด
ความสัมพันธ์กับแฟนควรทำยังไงดี รู้สึกไม่มีความสุขมากๆเลย ถ้าเลิกกันมีแนวทางที่จะทำให้บ้านสร้างเสร็จอย่างราบรื่นไหมคะ เราควรปรับปรุงตัวด้านไหนเพิ่มขึ้นเพื่อให้บ้านสร้างเสร็จ
เรื่องผ่อนน่าจะพอไหวหลัง3ปีค่อยรีไฟแนนซ์
ปล.เงินทุนตั้งต้นที่ใช้ก่อสร้างคือเงินเก็บเราคนเดียว แฟนออกแรงอย่างเดียวค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้