Hola! = Hello!
ประเทศสเปนตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรียในทวีปยุโรป แต่เป็นประเทศยุโรปที่ไม่เหมือนใคร วัฒนธรรมของสเปนผสมผสานวิถีแห่งชาวยุโรปเข้ากับอิทธิพลจากชาวอาหรับ-แอฟริกาเหนือซึ่งเคยปกครองพื้นที่คาบสมุทรไอบีเรียมายาวนานหลายร้อยปี เกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เห็นได้ชัดเจนจากรูปแบบสถาปัตยกรรม ลักษณะอาหารการกิน หรือแม้แต่คำศัพท์ในภาษาสเปน ในขณะเดียวกันตำแหน่งที่ตั้งของประเทศสเปนได้รับอิทธิพลด้านสภาพอากาศทั้งจากภาคพื้นยุโรป มหาสมุทรแอตแลนติก และทะเลทรายซาฮาร่า ส่งผลให้ภูมิอากาศของสเปนมีความหลากหลาย ตั้งแต่หนาวเย็นบนเทือกเขาสูงจนถึงร้อนกึ่งอบอุ่นริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จากพื้นที่ฝนตกชุกความชื้นสูงในภาคเหนือจนถึงที่ราบสูงอันแห้งแล้งในพื้นที่ภาคกลางและที่ราบแล้งจัดกึ่งทะเลทรายในบางส่วนของภาคใต้ ด้วยความแตกต่างหลากหลายอันแสนมีเสน่ห์ เราจึงจัดให้สเปนเป็นหนึ่งใน Bucket List หลัง Covid ที่น่าสนใจทีเดียว
ครั้งนี้เราเลือกเดินทางในแถบสเปนทางเหนือ ซึ่งมีชื่อเล่นว่าสเปนเขียว (Green Spain) ตามลักษณะพื้นที่เขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำตามแนวชายฝั่งมหาสมุทร เป็นบริเวณพื้นที่ฝนตกชุกเนื่องจากได้รับอิทธิพลลมมรสุมที่พัดพามาจาก Atlantic Ocean เรียกได้ว่าแตกต่างจากภาพจำสเปนโทนสีเหลืองที่เคยเห็นมานะครับ
ส่วนที่เป็นสเปนเหนือจะประกอบด้วย 6 แคว้นคือ (1) Galicia (2) Asturias (3) Cantabria (4) Basque Country (5) La Rioja (6) Navara (บางสำนักจะนับรวมแคว้น Aragon กับ Catalan เป็นสเปนเหนือด้วย)
(ภาพจาก Internet)
เนื่องจากสเปนเหนือไม่มีคนไทยไปเที่ยวมากนัก ทัวร์ก็ไม่เห็นจัดเที่ยวในเส้นทางนี้ จึงต้องหาข้อมูลจาก Website ต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งเราพบว่า
- Green Spain เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวยุโรปมานานแล้ว แต่จะไม่ฮิตในกลุ่มชาวเอเชีย
- ภูมิประเทศหลากหลายมีทั้งเทือกเขาหินปูน หุบเขาลึก ชายหาดและผาริมทะเล
- สถาปัตยกรรมทางศาสนาเก่าแย่ยิ่งใหญ่ตามแบบฉบับยุโรป
- เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่เยอะ คนในพื้นที่จะไม่ถนัดภาษาสากลอย่างภาษาอังกฤษ เราควรเรียนรู้ภาษาสเปนพื้นฐานไปบ้าง
- ความปลอดภัยสูง นักท่องเที่ยวน้อยโจรก็น้อยเพราะไม่มีแหล่งรายได้
- อาหารทะเลสด และมีของแปลกๆ ให้ลิ้มลอง เพราะพื้นที่อยู่ติดชายฝั่ง Atlantic Ocean
หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่ารอบนี้สเปนเหนือ ด้วยสถานที่เที่ยวที่เล็งไว้หลายแห่งเป็นแนว Landscape และสำรวจดูแล้วเข้าถึงได้ไม่ง่าย เมื่อคำนึงถึงความสะดวกแล้ว Road Trip Northern Spain จึงต้องมา
โปรแกรมจัดมาคร่าวๆ 13 วันเต็มๆ ประมาณนี้
Day 1-2 : Toledo - Segovia - Burgos
Day 3-5 : Basque Country
Day 6-9 : Cantabria & Asturias
Day 10-11 : Galicia
Day 12-13 : Salamanca – Avila
ช่วงที่เข้าเขต Northern Spain จริงๆ จะเป็นวันที่ 3 – 11 เนื่องจากเรารับและคืนรถที่สนามบิน Madrid จึงแวะเที่ยวเมืองรอบๆ ด้วย ถ้าเคยมาสเปนแล้วคงถอดเมือง Toledo-Segovia ได้ครับ ตรงไปเที่ยว+นอน Burgos จะประหยัดเวลาได้ 1 วัน
เราเที่ยวกันช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนตุลาคม ใบไม้ก็จะเปลี่ยนสีหน่อยๆ อากาศไม่ร้อน ฝนตกน้อย มีแดดให้ประมาณ 12 ชั่วโมงระหว่าง 8 AM – 8 PM เที่ยวสบายๆ เลยครับ เคยขับรถเที่ยวช่วงธันวาคมต้องเข้าที่พักเร็วหน่อยเพราะ 5 PM ก็มืดแล้ว ต้องวางแผนเที่ยวอีกแบบ (ยุโรปปรับเวลาเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง ตั้งแต่พฤศจิกายนครับ)
จริงๆ แล้วในช่วงต้นเดือนตุลาคมอากาศในพื้นที่สเปนทางตอนเหนือควรจะเย็นสบาย บนพื้นราบอุณหภูมิเฉลี่ยไม่เกิน 20 C แต่ปี 2022 เป็นปีที่ Global Warming ส่งผลกระทบต่อทวีปยุโรปรุนแรงมาก เริ่มมีสัญญาณแห้งแล้งขาดน้ำตั้งแต่ต้นปี ช่วงกลางปีก็เจอคลื่นความร้อนกระจายแทบทั้งทวีป ส่วนที่สเปนนั้น อากาศร้อนยาวต่อเนื่องจนถึงช่วงต้น Autumn คนสเปนเขาว่ากันว่าอาจเป็นเดือนตุลาคมที่ร้อนที่สุดในรอบหลายสิบปีเลยทีเดียว ช่วงที่เราเที่ยวอยู่ในแคว้น Basque ในตอนกลางวันอากาศร้อนจนถึงเกือบ 30 C ทีเดียว ดีที่ว่าขับรถมาทางตะวันตกแล้วอากาศเย็นลงในวันหลังๆ
การเตรียมตัวก่อนไป
ยุโรปเป็นทวีปที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานมากและยังมีของดีที่เป็นตัวแทนประวัติศาสตร์แต่ละยุคเหลือให้ดูเพียบ ถ้าจะเที่ยวให้สนุกข้อแนะนำแรกคือ ต้องศึกษาประวัติศาสตร์เบื้องต้นของประเทศที่เราจะไปไว้บ้าง หาไม่ยากครับเดี๋ยวนี้ Internet มีพร้อมหมด อย่างในกรณีประเทศสเปนครั้งนี้ Key Words ที่ผมศึกษาก็จะมีเรื่อง Celts-Iberians, Romans, Visigoths, Moors, Reconquista, Inquisition, Columbus, Spanish Empire, Spain Republic, Franco & Civil War, Gaudi, Picasso, Juan Carlos, etc. ประมาณนี้ และการรู้ประวัติศาสตร์จะเชื่อมโยงกับแนวสถาปัตยกรรม-ศิลปะที่เรากำลังจะไปเห็นด้วย ส่วนทริปนี้ เราเที่ยวแนว Landscape ซะเยอะก็เพิ่มการหาข้อมูลธรนีวิทยา (Geology) ของสถานที่แนวนั้นไปด้วยเลย ข้อมูลพวกนี้อาจเสียเวลาเตรียมตัวเพิ่มเล็กน้อย แต่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเที่ยวได้มาก
ในครั้งนี้ เราทำการบ้านเพิ่มเรื่องภาษาสเปน ตามที่ทราบมาว่าคนที่นี่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ จึงต้องเรียนรู้ภาษาสเปนกันไวๆ ซักหน่อย ผมเลือกเรียนรู้ผ่าน Apps ให้พอทราบประโยคพื้นฐาน นับเลขเป็น เรียกชื่ออาหารและสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นได้ และซื้อ pocket book แบบมีรูปประกอบเผื่อต้องจิ้มเอาตอนซื้อของ ซึ่งในวันที่เราใช้งานจริง ก็ใช้ Google ช่วยแปลความหมายของสิ่งที่เราไม่รู้ได้หมด และชาวบ้านที่นี่มี attitude ช่วยเหลือตามแบบฉบับเมืองท่องเที่ยว เขาไม่ชำนาญภาษาอังกฤษแต่ก็พยายามสื่อสารแบบใช้ภาษามือช่วย พอถูไถเอาตัวรอดกันไปได้ไม่ยากอะไร คิดว่าต่อให้แทบไม่รู้ภาษาสเปนเลยก็น่าจะยังพอเที่ยวได้อยู่
สเปนทางเหนือมีภาษาท้องถิ่น 2 ภาษาที่แตกต่างจากภาษาภาคกลางเป็นอย่างมากคือ (1) ภาษา Gallego ซึ่งใช้กันใน Galicia มีรูปแบบภาษาคล้ายคลึงกับภาษาโปรตุเกศ เพราะเคยร่วมเป็นอาณาจักรเดียวกันมาก่อน และ (2) ภาษา Euskara ซึ่งใช้กันใน Basque Country เป็นภาษาที่มีรูปแบบเป็นเอกเทศแตกต่างจากภาษายุโรปอื่นๆ
(จากมื้อเช้าของโรงแรมในเมือง Getaria)
ในเรื่องอาหารการกิน ชาวสเปนเขาจะแปลกชาวบ้านหน่อย มื้อกลางวันจะเริ่ม 2 PM ส่วนมื้อเย็นเริ่ม 8 PM ร้านอาหารบางแห่งก็เปิดช้ากว่านี้ แผนการเดินทางและท่องเที่ยวของเราจึงคำนึงถึงเวลาเปิดปิดของร้านอาหารด้วย
Road Trip ยุโรปทุกครั้ง เรากำหนด Coordinator โรงแรม ที่จอดรถ จุดท่องเที่ยว ให้ชัดเจนนะครับ เพื่อลดเวลาที่เสียไปจากการหลงทาง ปัจจุบันเทคโนโลยีดีขึ้นมาก ผมใช้ Google Map ในการทำแผนขับรถ ประมาณการเวลาเดินทาง และกำหนดพิกัดจุดแวะพักต่างๆ ได้หมดครับ ทำให้เราประเมินระยะทางและค่าน้ำมันได้คร่าวๆ ด้วย (แต่ก็ปรับแก้เอาหน้างานตามสถานการณ์จริง) สำหรับสเปนผมยังคิดว่าการวางแผนไม่ยากนัก ถ้าเป็นอิตาลีจะต้องเพิ่มข้อมูลโซนห้ามเข้า ZTL ในแต่ละเมืองด้วย คือต้องหาที่จอดรถนอกโซน ZTL เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับ ส่วนสเปนหาที่จอดรถได้ง่ายกว่า แต่ส่วนใหญ่ต้องเสียเงินค่าที่จอดรถ
สำหรับการขับรถในสเปนทางเหนือนั้น เราต้องเตรียมตัวเพิ่มเติมสำหรับการขับขี่บนถนนเส้นรองแถบชนบทนิดหน่อย เพราะบางพื้นที่ไม่มี Internet นะครับ ถ้าเราใช้ Google ช่วยเดินทางอาจมีปัญหาได้ ตอนจองรถต้องจอง GPS ติดไปด้วย + โหลดแผนที่ offline ของ Google ติดมือถือไว้กันเหนียว
ที่สำคัญ เบอร์ฉุกเฉินต่างๆ ของสเปนต้องพร้อมนะครับ ยังไงเราขับรถต่างถิ่น มีไว้ไม่ได้ใช้ดีกว่าต้องใช้แล้วไม่มี
FYI
ฝีมือถ่ายรูปของผมค่อนข้างอ่อนด้อยนะครับ รูปในรีวิวอาจไม่สวยเท่าไหร่ โดยรูปถ่ายส่วนใหญ่จะมาจากมือถือของผมเอง เสริมด้วยมือถือของแฟน และกล้อง Mirrorless ที่พกไว้อีกตัว
โอเค เรามาเริ่มวันแรกกันเลยครับ
[CR] Road Trip Northern Spain: Basque Country, Cantabria, Asturias, Galicia
Hola! = Hello!
ประเทศสเปนตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรียในทวีปยุโรป แต่เป็นประเทศยุโรปที่ไม่เหมือนใคร วัฒนธรรมของสเปนผสมผสานวิถีแห่งชาวยุโรปเข้ากับอิทธิพลจากชาวอาหรับ-แอฟริกาเหนือซึ่งเคยปกครองพื้นที่คาบสมุทรไอบีเรียมายาวนานหลายร้อยปี เกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เห็นได้ชัดเจนจากรูปแบบสถาปัตยกรรม ลักษณะอาหารการกิน หรือแม้แต่คำศัพท์ในภาษาสเปน ในขณะเดียวกันตำแหน่งที่ตั้งของประเทศสเปนได้รับอิทธิพลด้านสภาพอากาศทั้งจากภาคพื้นยุโรป มหาสมุทรแอตแลนติก และทะเลทรายซาฮาร่า ส่งผลให้ภูมิอากาศของสเปนมีความหลากหลาย ตั้งแต่หนาวเย็นบนเทือกเขาสูงจนถึงร้อนกึ่งอบอุ่นริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จากพื้นที่ฝนตกชุกความชื้นสูงในภาคเหนือจนถึงที่ราบสูงอันแห้งแล้งในพื้นที่ภาคกลางและที่ราบแล้งจัดกึ่งทะเลทรายในบางส่วนของภาคใต้ ด้วยความแตกต่างหลากหลายอันแสนมีเสน่ห์ เราจึงจัดให้สเปนเป็นหนึ่งใน Bucket List หลัง Covid ที่น่าสนใจทีเดียว
ครั้งนี้เราเลือกเดินทางในแถบสเปนทางเหนือ ซึ่งมีชื่อเล่นว่าสเปนเขียว (Green Spain) ตามลักษณะพื้นที่เขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำตามแนวชายฝั่งมหาสมุทร เป็นบริเวณพื้นที่ฝนตกชุกเนื่องจากได้รับอิทธิพลลมมรสุมที่พัดพามาจาก Atlantic Ocean เรียกได้ว่าแตกต่างจากภาพจำสเปนโทนสีเหลืองที่เคยเห็นมานะครับ
ส่วนที่เป็นสเปนเหนือจะประกอบด้วย 6 แคว้นคือ (1) Galicia (2) Asturias (3) Cantabria (4) Basque Country (5) La Rioja (6) Navara (บางสำนักจะนับรวมแคว้น Aragon กับ Catalan เป็นสเปนเหนือด้วย)
(ภาพจาก Internet)
เนื่องจากสเปนเหนือไม่มีคนไทยไปเที่ยวมากนัก ทัวร์ก็ไม่เห็นจัดเที่ยวในเส้นทางนี้ จึงต้องหาข้อมูลจาก Website ต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งเราพบว่า
- Green Spain เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวยุโรปมานานแล้ว แต่จะไม่ฮิตในกลุ่มชาวเอเชีย
- ภูมิประเทศหลากหลายมีทั้งเทือกเขาหินปูน หุบเขาลึก ชายหาดและผาริมทะเล
- สถาปัตยกรรมทางศาสนาเก่าแย่ยิ่งใหญ่ตามแบบฉบับยุโรป
- เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่เยอะ คนในพื้นที่จะไม่ถนัดภาษาสากลอย่างภาษาอังกฤษ เราควรเรียนรู้ภาษาสเปนพื้นฐานไปบ้าง
- ความปลอดภัยสูง นักท่องเที่ยวน้อยโจรก็น้อยเพราะไม่มีแหล่งรายได้
- อาหารทะเลสด และมีของแปลกๆ ให้ลิ้มลอง เพราะพื้นที่อยู่ติดชายฝั่ง Atlantic Ocean
หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่ารอบนี้สเปนเหนือ ด้วยสถานที่เที่ยวที่เล็งไว้หลายแห่งเป็นแนว Landscape และสำรวจดูแล้วเข้าถึงได้ไม่ง่าย เมื่อคำนึงถึงความสะดวกแล้ว Road Trip Northern Spain จึงต้องมา
โปรแกรมจัดมาคร่าวๆ 13 วันเต็มๆ ประมาณนี้
Day 1-2 : Toledo - Segovia - Burgos
Day 3-5 : Basque Country
Day 6-9 : Cantabria & Asturias
Day 10-11 : Galicia
Day 12-13 : Salamanca – Avila
ช่วงที่เข้าเขต Northern Spain จริงๆ จะเป็นวันที่ 3 – 11 เนื่องจากเรารับและคืนรถที่สนามบิน Madrid จึงแวะเที่ยวเมืองรอบๆ ด้วย ถ้าเคยมาสเปนแล้วคงถอดเมือง Toledo-Segovia ได้ครับ ตรงไปเที่ยว+นอน Burgos จะประหยัดเวลาได้ 1 วัน
เราเที่ยวกันช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนตุลาคม ใบไม้ก็จะเปลี่ยนสีหน่อยๆ อากาศไม่ร้อน ฝนตกน้อย มีแดดให้ประมาณ 12 ชั่วโมงระหว่าง 8 AM – 8 PM เที่ยวสบายๆ เลยครับ เคยขับรถเที่ยวช่วงธันวาคมต้องเข้าที่พักเร็วหน่อยเพราะ 5 PM ก็มืดแล้ว ต้องวางแผนเที่ยวอีกแบบ (ยุโรปปรับเวลาเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง ตั้งแต่พฤศจิกายนครับ)
จริงๆ แล้วในช่วงต้นเดือนตุลาคมอากาศในพื้นที่สเปนทางตอนเหนือควรจะเย็นสบาย บนพื้นราบอุณหภูมิเฉลี่ยไม่เกิน 20 C แต่ปี 2022 เป็นปีที่ Global Warming ส่งผลกระทบต่อทวีปยุโรปรุนแรงมาก เริ่มมีสัญญาณแห้งแล้งขาดน้ำตั้งแต่ต้นปี ช่วงกลางปีก็เจอคลื่นความร้อนกระจายแทบทั้งทวีป ส่วนที่สเปนนั้น อากาศร้อนยาวต่อเนื่องจนถึงช่วงต้น Autumn คนสเปนเขาว่ากันว่าอาจเป็นเดือนตุลาคมที่ร้อนที่สุดในรอบหลายสิบปีเลยทีเดียว ช่วงที่เราเที่ยวอยู่ในแคว้น Basque ในตอนกลางวันอากาศร้อนจนถึงเกือบ 30 C ทีเดียว ดีที่ว่าขับรถมาทางตะวันตกแล้วอากาศเย็นลงในวันหลังๆ
การเตรียมตัวก่อนไป
ยุโรปเป็นทวีปที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานมากและยังมีของดีที่เป็นตัวแทนประวัติศาสตร์แต่ละยุคเหลือให้ดูเพียบ ถ้าจะเที่ยวให้สนุกข้อแนะนำแรกคือ ต้องศึกษาประวัติศาสตร์เบื้องต้นของประเทศที่เราจะไปไว้บ้าง หาไม่ยากครับเดี๋ยวนี้ Internet มีพร้อมหมด อย่างในกรณีประเทศสเปนครั้งนี้ Key Words ที่ผมศึกษาก็จะมีเรื่อง Celts-Iberians, Romans, Visigoths, Moors, Reconquista, Inquisition, Columbus, Spanish Empire, Spain Republic, Franco & Civil War, Gaudi, Picasso, Juan Carlos, etc. ประมาณนี้ และการรู้ประวัติศาสตร์จะเชื่อมโยงกับแนวสถาปัตยกรรม-ศิลปะที่เรากำลังจะไปเห็นด้วย ส่วนทริปนี้ เราเที่ยวแนว Landscape ซะเยอะก็เพิ่มการหาข้อมูลธรนีวิทยา (Geology) ของสถานที่แนวนั้นไปด้วยเลย ข้อมูลพวกนี้อาจเสียเวลาเตรียมตัวเพิ่มเล็กน้อย แต่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเที่ยวได้มาก
ในครั้งนี้ เราทำการบ้านเพิ่มเรื่องภาษาสเปน ตามที่ทราบมาว่าคนที่นี่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ จึงต้องเรียนรู้ภาษาสเปนกันไวๆ ซักหน่อย ผมเลือกเรียนรู้ผ่าน Apps ให้พอทราบประโยคพื้นฐาน นับเลขเป็น เรียกชื่ออาหารและสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นได้ และซื้อ pocket book แบบมีรูปประกอบเผื่อต้องจิ้มเอาตอนซื้อของ ซึ่งในวันที่เราใช้งานจริง ก็ใช้ Google ช่วยแปลความหมายของสิ่งที่เราไม่รู้ได้หมด และชาวบ้านที่นี่มี attitude ช่วยเหลือตามแบบฉบับเมืองท่องเที่ยว เขาไม่ชำนาญภาษาอังกฤษแต่ก็พยายามสื่อสารแบบใช้ภาษามือช่วย พอถูไถเอาตัวรอดกันไปได้ไม่ยากอะไร คิดว่าต่อให้แทบไม่รู้ภาษาสเปนเลยก็น่าจะยังพอเที่ยวได้อยู่
สเปนทางเหนือมีภาษาท้องถิ่น 2 ภาษาที่แตกต่างจากภาษาภาคกลางเป็นอย่างมากคือ (1) ภาษา Gallego ซึ่งใช้กันใน Galicia มีรูปแบบภาษาคล้ายคลึงกับภาษาโปรตุเกศ เพราะเคยร่วมเป็นอาณาจักรเดียวกันมาก่อน และ (2) ภาษา Euskara ซึ่งใช้กันใน Basque Country เป็นภาษาที่มีรูปแบบเป็นเอกเทศแตกต่างจากภาษายุโรปอื่นๆ
(จากมื้อเช้าของโรงแรมในเมือง Getaria)
ในเรื่องอาหารการกิน ชาวสเปนเขาจะแปลกชาวบ้านหน่อย มื้อกลางวันจะเริ่ม 2 PM ส่วนมื้อเย็นเริ่ม 8 PM ร้านอาหารบางแห่งก็เปิดช้ากว่านี้ แผนการเดินทางและท่องเที่ยวของเราจึงคำนึงถึงเวลาเปิดปิดของร้านอาหารด้วย
Road Trip ยุโรปทุกครั้ง เรากำหนด Coordinator โรงแรม ที่จอดรถ จุดท่องเที่ยว ให้ชัดเจนนะครับ เพื่อลดเวลาที่เสียไปจากการหลงทาง ปัจจุบันเทคโนโลยีดีขึ้นมาก ผมใช้ Google Map ในการทำแผนขับรถ ประมาณการเวลาเดินทาง และกำหนดพิกัดจุดแวะพักต่างๆ ได้หมดครับ ทำให้เราประเมินระยะทางและค่าน้ำมันได้คร่าวๆ ด้วย (แต่ก็ปรับแก้เอาหน้างานตามสถานการณ์จริง) สำหรับสเปนผมยังคิดว่าการวางแผนไม่ยากนัก ถ้าเป็นอิตาลีจะต้องเพิ่มข้อมูลโซนห้ามเข้า ZTL ในแต่ละเมืองด้วย คือต้องหาที่จอดรถนอกโซน ZTL เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับ ส่วนสเปนหาที่จอดรถได้ง่ายกว่า แต่ส่วนใหญ่ต้องเสียเงินค่าที่จอดรถ
สำหรับการขับรถในสเปนทางเหนือนั้น เราต้องเตรียมตัวเพิ่มเติมสำหรับการขับขี่บนถนนเส้นรองแถบชนบทนิดหน่อย เพราะบางพื้นที่ไม่มี Internet นะครับ ถ้าเราใช้ Google ช่วยเดินทางอาจมีปัญหาได้ ตอนจองรถต้องจอง GPS ติดไปด้วย + โหลดแผนที่ offline ของ Google ติดมือถือไว้กันเหนียว
ที่สำคัญ เบอร์ฉุกเฉินต่างๆ ของสเปนต้องพร้อมนะครับ ยังไงเราขับรถต่างถิ่น มีไว้ไม่ได้ใช้ดีกว่าต้องใช้แล้วไม่มี
FYI
ฝีมือถ่ายรูปของผมค่อนข้างอ่อนด้อยนะครับ รูปในรีวิวอาจไม่สวยเท่าไหร่ โดยรูปถ่ายส่วนใหญ่จะมาจากมือถือของผมเอง เสริมด้วยมือถือของแฟน และกล้อง Mirrorless ที่พกไว้อีกตัว
โอเค เรามาเริ่มวันแรกกันเลยครับ