3 ก.พ. 2566 - 18:13 น.
หนุ่มระแวงเมียมีชู้ ทำร้ายร่างกายทุกวัน ล็อกกุญ 3 ดอก ขังไว้ในบ้านกับลูกน้อย 7 เดือน ห้ามออกไปไหน สาวร่ำไห้โทรหาเจ้าหน้าที่ช่วยพาแจ้งความ
วันที่ 3 ม.ค. 66 นางสาวสุนีรัตน์ สิงหเสมานนท์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ระยอง ได้รับประสานจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศลระยองว่ารับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ว่าถูกสามีทำร้ายร่างกาย และกักขังไว้ภายในบ้าน ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศล เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงตามที่รับแจ้ง พบเป็นห้องแถวเช่าชั้นเดียว ถูกล็อกกุญแจที่ประตูหน้าบ้านจำนวน 3 ดอก เมื่อตะโกนเรียก มีเสียงผู้หญิงตอบออกมาว่า เป็นคนเดียวที่ขอความช่วยเหลือไป พร้อมกับลูกสาววัย 7 เดือน ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ใช้เครื่องมือตัดกุญแจออก เข้าไปในบ้าน พบกับ น.ส.เอ อยู่ในอาการหวาดกลัวร้องไห้ตลอดเวลา โดยพบมีร่องรอยแดงช้ำรอบคอ และมีบาดแผลที่ศีรษะ
น.ส.เอ กล่าวว่า ตนกับลูกน้อย ถูก นายวิทยากร อายุ 42 ปี สามี ซึ่งทำงานอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่ง อยู่กันมา 3 ปี จนมีลูกด้วยกัน 1 คน แรกๆก็ยังไม่มีอะไร จนกระทั่งย้ายมาที่บ้านเช่าหลังนี้ประมาณ 7 เดือน สามีก็เริ่มมีอาการเปลี่ยน จนทราบว่าเสพยาบ้า แล้วก็เริ่มมีอาการที่น่ากลัว เริ่มระแวงดุด่าว่าตนแอบมีชู้ แล้วก็เริ่มลงมือทำร้ายร่างกาย แล้วก็กักขังไว้ในบ้าน ก่อนจะไปทำงาน ได้ล็อกกุญแจขังไว้ถึง 3 ดอก ขังตลอดทั้งวันจนสามีเลิกงานกลับมา แล้วก็ห้ามออกไปไหน
จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา สามีเลิกงานกลับมา มีอาการหลอน เดินทั่วบ้านก่อนจะด่าว่าตนแอบซ่อนผู้ชายไว้บนฝ้าเพดาน ดุดาต่างๆนานา ก่อนจะตบตี และ บีบคอจนแทบหมดลมหายใจ โชคดีที่ปล่อยทันถึงกับทรุด สามีจึงสงบแล้วก็หลับไป ช่วงเช้าก็เดินทางไปทำงาน โดยขังตนไว้ในบ้านเหมือนเดิม ทางตนสุดทนแล้ว กลัวจะถูกฆาตกรรม จึงตัดสินใจแจ้งทางหน่วยกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ เพราะตัดสินใจแล้วจะพาลูกน้อยกลับไปบ้านเกิด ที่ จ.เลย ที่ผ่านมาเคยเข้าแจ้งความทำร้ายร่างกายมาแล้วครั้งหนึ่ง สงสารลูกสาวมาก ที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
ด้าน น.ส.สุนีรัตน์ กล่าวว่า เบื้องต้น จะพา น.ส.เอ เข้าไปแจ้งความ ที่ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ไว้เป็นหลักฐาน แล้วรับตัวไปดูแลฟื้นฟูจิตใจที่บ้านพักเด็กและครอบครัวก่อน ส่วนความประสงค์ที่ผู้เสียหายต้องการกลับบ้านที่ จ.เลย ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ แต่ทางเราจะให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อน
ต่อมา น.ส.เอ ได้เข้าแจ้งความเอาผิด กับสามีที่ทำร้ายร่างกาย และกักขัง ต่อพนักงานสอบสวน สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมออกหมายเรียกเข้ามาสอบสวน หากผิดตามที่ถูกกล่าวหาก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7491262
สาวกอดลูกน้อยร่ำไห้ ถูกสามีตบตีทุกวัน ระแวงมีชู้ จับขังไว้ในบ้าน
3 ก.พ. 2566 - 18:13 น.
หนุ่มระแวงเมียมีชู้ ทำร้ายร่างกายทุกวัน ล็อกกุญ 3 ดอก ขังไว้ในบ้านกับลูกน้อย 7 เดือน ห้ามออกไปไหน สาวร่ำไห้โทรหาเจ้าหน้าที่ช่วยพาแจ้งความ
วันที่ 3 ม.ค. 66 นางสาวสุนีรัตน์ สิงหเสมานนท์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ระยอง ได้รับประสานจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศลระยองว่ารับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ว่าถูกสามีทำร้ายร่างกาย และกักขังไว้ภายในบ้าน ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศล เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงตามที่รับแจ้ง พบเป็นห้องแถวเช่าชั้นเดียว ถูกล็อกกุญแจที่ประตูหน้าบ้านจำนวน 3 ดอก เมื่อตะโกนเรียก มีเสียงผู้หญิงตอบออกมาว่า เป็นคนเดียวที่ขอความช่วยเหลือไป พร้อมกับลูกสาววัย 7 เดือน ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ใช้เครื่องมือตัดกุญแจออก เข้าไปในบ้าน พบกับ น.ส.เอ อยู่ในอาการหวาดกลัวร้องไห้ตลอดเวลา โดยพบมีร่องรอยแดงช้ำรอบคอ และมีบาดแผลที่ศีรษะ
น.ส.เอ กล่าวว่า ตนกับลูกน้อย ถูก นายวิทยากร อายุ 42 ปี สามี ซึ่งทำงานอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่ง อยู่กันมา 3 ปี จนมีลูกด้วยกัน 1 คน แรกๆก็ยังไม่มีอะไร จนกระทั่งย้ายมาที่บ้านเช่าหลังนี้ประมาณ 7 เดือน สามีก็เริ่มมีอาการเปลี่ยน จนทราบว่าเสพยาบ้า แล้วก็เริ่มมีอาการที่น่ากลัว เริ่มระแวงดุด่าว่าตนแอบมีชู้ แล้วก็เริ่มลงมือทำร้ายร่างกาย แล้วก็กักขังไว้ในบ้าน ก่อนจะไปทำงาน ได้ล็อกกุญแจขังไว้ถึง 3 ดอก ขังตลอดทั้งวันจนสามีเลิกงานกลับมา แล้วก็ห้ามออกไปไหน
จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา สามีเลิกงานกลับมา มีอาการหลอน เดินทั่วบ้านก่อนจะด่าว่าตนแอบซ่อนผู้ชายไว้บนฝ้าเพดาน ดุดาต่างๆนานา ก่อนจะตบตี และ บีบคอจนแทบหมดลมหายใจ โชคดีที่ปล่อยทันถึงกับทรุด สามีจึงสงบแล้วก็หลับไป ช่วงเช้าก็เดินทางไปทำงาน โดยขังตนไว้ในบ้านเหมือนเดิม ทางตนสุดทนแล้ว กลัวจะถูกฆาตกรรม จึงตัดสินใจแจ้งทางหน่วยกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ เพราะตัดสินใจแล้วจะพาลูกน้อยกลับไปบ้านเกิด ที่ จ.เลย ที่ผ่านมาเคยเข้าแจ้งความทำร้ายร่างกายมาแล้วครั้งหนึ่ง สงสารลูกสาวมาก ที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
ด้าน น.ส.สุนีรัตน์ กล่าวว่า เบื้องต้น จะพา น.ส.เอ เข้าไปแจ้งความ ที่ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ไว้เป็นหลักฐาน แล้วรับตัวไปดูแลฟื้นฟูจิตใจที่บ้านพักเด็กและครอบครัวก่อน ส่วนความประสงค์ที่ผู้เสียหายต้องการกลับบ้านที่ จ.เลย ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ แต่ทางเราจะให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อน
ต่อมา น.ส.เอ ได้เข้าแจ้งความเอาผิด กับสามีที่ทำร้ายร่างกาย และกักขัง ต่อพนักงานสอบสวน สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมออกหมายเรียกเข้ามาสอบสวน หากผิดตามที่ถูกกล่าวหาก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7491262