Sunset Times in Siem Reap 2023


    ประเทศเพื่อนบ้านใกล้กับไทยของเรา มีช่วงเวลาชมพระอาทิตย์ตกอันแสนประทับใจที่นึงเลยทีเดียว คงไม่มีใครไม่รู้จักเมือง Siem Reap ดินแดนอารยธรรมเก่าแก่อันโด่งดัง อย่าง Angkor Wat , Angkor Thom
     ตลอดการเดินทางของเราในเมืองนี้จะเจอชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ที่พักเองแทบไม่เจอเพื่อนชาวไทยเลยค่ะ เที่ยวที่นี่สะดวกทั้งการเดินทาง และอาหารการกิน ใครกำลังหาข้อมูลอยู่ อ่านรายละเอียดได้เลยนะคะ
อ้อ..เราเดินทางช่วงวันที่ 30 มกรา- 2 กุมภา 2023 ที่ผ่านมาค่ะ


                  [ ข้อมูลสำหรับการเดินทาง ]
ภาษา (Languages) : Khmer , English
วีซ่า (Visa) : คนไทยฟรีวีซ่าไม่เกิน 14 วัน ถึงสนามบิน Siem Reap เดินเข้าช่อง Asean Passport ได้เลยค่ะ
สกุลเงิน (Currency) : Riel , USD
พก USD สะดวกกว่าค่ะ แต่เงินทอนจะเป็นเงิน Riel นะคะ (เรทประมาณ 4000-4100 Riel = 1 USD)
Time Zone : เท่ากับเวลาในไทย
              เดินทางจากสนามบินเข้าเมือง
  ก่อนอื่นแนะนำให้ติดต่อที่พักก่อนนะคะ อย่างของเราบริการรับที่สนามบินฟรี แต่ถ้าใครต้องนั่งรถเข้าเมืองเอง มี 3 ตัวเลือกค่ะ Taxi 15 USD , Tuk-Tuk 9 USD , Motorbike 9 USD ระยะทางสนามบินเข้าเมือง 8 กม. และห่างจาก Angkor wat 6 กม. ใช้เวลา 20 นาที


                    Cycling with Sunset tour

    ไฟท์บิน Air Asia ถึงเมือง Siem Reap 11 โมงเช้าค่ะ สนามบินตะมุตะมิเงียบสงบดี เข้าเมืองมาทานข้าวแล้วซื้อทัวร์กับทางที่พักต่อเลย กิจกรรมปั่นจักรยานเป็นที่นิยมมาก ถ้าเป็นการปั่นชมพระอาทิตย์ตก อยากให้เลือกไปกับเพื่อนกลุ่มใหญ่อุ่นใจกว่า เพราะขากลับผ่านถนนใหญ่ค่อนข้างมืดและรถเยอะ

    กลุ่มเราวันนี้ทั้งหมด 11 คนค่ะ ผู้หญิงเอเชียคนเดียว ปั่นรั้งท้ายเพราะว่าขาสั้น ฮ่า……. จอดจุดแรก เข้าวัดก่อนเลย จากนั้นปั่นสู่ถนนลูกรัง แล้วต่อด้วยถนนดินทราย คล้ายแข่งจักรยานวิบากอยู่นะคะ แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเจอวิวทุ่งนา (Dagoda rice field) ลมเย็น อากาศดีๆ ที่เคยเหนื่อยก็หายเลย
    ปั่นอ้อมหมู่บ้านชาวท้องถิ่นมาไกล ก็ได้จอดแวะทานมื้อเย็นริมทุ่งดอกบัวแล้วค่ะ ระหว่างรอแม่ครัวทำกับข้าว  เดินเล่นบนคันนาเด็ดเม็ดบัวมากินกับเพื่อนไปพลางๆ นึกถึงตอนเด็กที่ได้วิ่งเล่นตามต่างจังหวัดเลย

     บรรยากาศดีมากจริงๆ สีชมพูอมส้มบนท้องฟ้าทำให้มีแรงปั่นกลับได้สบาย วันนี้มีงานบุญในหมู่บ้าน สังเกตเห็นคนแต่งชุดสวยๆคล้ายชุดไทยไปทำบุญกันอย่างเรียบร้อย
     ทัวร์นี้จองผ่านที่พัก ราคา 12 USD นะคะ มีเฉพาะวันจันทร์ กับ พฤหัส



                             Angkor Wat
    แพลนเที่ยวจะมีแบบ Sunrise tour (ช่วง 4.30-12.00) ครึ่งวัน กับแบบเต็มวันค่ะ เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาเป็นต้นไปพระอาทิตย์จะขึ้นทางด้านหลัง Angkor Wat และใครเลือกแบบครึ่งวันเช้า สามารถซื้อทัวร์ล่องเรือชม Sunset ต่อครึ่งบ่ายได้อีก ถ้าไม่เหนื่อยจนเกินไปนะคะ
    ส่วนเราเลือกทัวร์ชื่อ Angkor Temples Tour จองผ่านแอพ Klook ราคา 475 บาท เป็นแบบเต็มวัน
   จอดซื้อตั๋วที่ Angkor Park Pass Ticket Counters ก่อน ราคาตั๋วมีหลายประเภท ใช้บัตรเครดิตจ่ายได้นะคะ
- 1-day pass ราคา 37 USD (Valid 1 ครั้ง มีระยะเวลา 5 วันนับจากวันซื้อตั๋ว)
- 3-day pass ราคา 62 USD (Valid 3 ครั้ง มีระยะเวลา 10 วันนับจากวันซื้อตั๋ว
- 7-day pass ราคา 72 USD (Valid 7 ครั้ง มีระยะเวลา 30 วันนับจากวันซื้อตั๋ว)
   ตั๋ว 1 ใบที่ได้มาสามารถใช้เข้า Angkor wat , Ta Phrom , Bayon Temple และ Phnom Bakheng ได้ด้วย ใครได้ตั๋วมาแล้วเก็บใส่กระเป๋าไว้อย่างดีด้วยค่ะ
    Angkor Wat นับเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญมากในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีคูน้ำ(Moat) มีป่าล้อมรอบ บนพื้นที่กว่า 400 ตารางกิโลเมตร เกททางเข้ามี 3 ประตู ในสมัยก่อนจะแยกประตูสำหรับกษัตริย์ พระสงฆ์ และประชาชน แต่ตอนนี้เดินเข้าได้ทุกประตูแล้วค่ะ
    ข้างหน้าเป็นสระน้ำ เหมาะถ่ายเป็นภาพ Reflection
    ถัดเข้ามาชมผนังกำแพงวัดด้านใน ไกด์ของเราชื่อ Sopheap Ruth เป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ ไกด์เริ่มเล่าเรื่องราวความเป็นมา ตั้งแต่การก่อตั้งวัด กษัตริย์ สงคราม ศาสนา เทพเจ้า ไปจนถึงเรื่องราวนรกสวรรค์ ถ้าให้อธิบายรายละเอียดทุกอย่างครบต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์เลย ช่วงเวลานั้นที่ฟังคืออินมาก อยากให้เพื่อนๆได้มาฟังเรื่องเล่าในสถานที่นี้กันค่ะ     
    ความรู้อาจารย์แน่นมาก เลคเชอร์ละเอียดยิบ แต่นักเรียนเริ่มง่วง เลยขอไปพักถ่ายรูปบรรยากาศรอบวัดก่อนค่ะ

    เข้ามากำแพงวัดชั้นในสุด มองสูงขึ้นไปเป็นจุดสักการะบูชา ทำบุญ ทำพิธีกรรมทางศาสนา ไปจนถึงการสวดภาวนาของกษัตริย์และประชาชนในสมัยก่อน บันไดสูงชันนับได้ 37 ขั้นตามความเชื่อว่าเป็นลำดับขั้นของการขึ้นสู่สรวงสวรรค์
   รูปสลักนางรำที่มองเห็นโดยรอบ เชื่อกันว่าไม่ได้เพียงเพื่อแสดงให้กษัตริย์ชม แต่ยังแสดงให้เทพเจ้าชมอีกด้วยค่ะ นางรำแกะสลักยิ้มสองแบบ แบบเห็นฟัน กับไม่เห็นฟัน หรือ Charming smile กับ Morning flower ไกด์เล่าเพิ่มเติมว่าผู้หญิงบางยุคจะถูกทำโทษถ้ายิ้มเห็นฟัน นอกจากนี้ยังเล่าถึง Chicken smile แบบเอียงหน้ายิ้ม กับ Line smile ยิ้มแบบยักคิ้วด้วยค่ะ หลากหลายดี

    ขึ้นบันไดไป 37 ขั้นเพื่อชมวิวสวยๆจากช่องหน้าต่าง บนนี้มีสระน้ำใหญ่ 4 สระ ต่างกันตามความหมาย ปัจจุบันสร้างท่อระบายน้ำออกหมดแล้วค่ะ
    เวลาเปิดปิดของ Angkor Wat ตั้งแต่ 5.00 จนถึง 17.30 น. นะคะ


                           Ta Prohm
   เสียงวงดนตรีต้อนรับตั้งแต่ทางเข้า ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปยุคอาณาจักรขอมเลย

   สถานที่นี้เคยโทรมลงมาก บางส่วนเริ่มหักพังลง สังเกตเห็นรูปปั้นพระพุทธรูปถูกตัดหัวและถูกขโมยอยู่หลายแห่ง ที่นี่ก็ไม่ต่างกัน ทั้งหมดล้วนเกิดจากการเปลี่ยนความเชื่อทางศาสนาพุทธสลับฮินดู กลับไปมาจนปล่อยทิ้งไม่มีคนดูแล แต่ปัจจุบันนี้ได้รับการบูรณาจากการร่วมมือของกัมพูชาและอินเดีย และวัดนี้ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงจากหนังเรื่อง Tomb Raider ด้วยค่ะ
    ต้นไม้สูงเด่นมีอายุกว่า 300 ปี น่าเสียดายที่ถูกสตาฟไว้ด้วยสารเคมีเคลือบ ทำให้ไม่สูงขึ้นกว่านี้แล้ว




                         Angkor Thom
  Angkor แปลว่าเมือง Thom แปลว่าใหญ่ รวมกันเป็นเมืองใหญ่ที่มีอาณาบริเวณกว้าง รอบรั้วขอบเขตล้วนมีทหารคอยปกป้องคุ้มกัน กษัตริย์ของกัมพูชาในปัจจุบันก็อยู่ที่นี่ด้วย
  แต่ละประตูในแต่ละทิศต่างความหมาย ประตูสำหรับเคลื่อนขบวนศพ ประตูลำเลียงนักโทษ ไปจนถึงประตูที่กษัตริย์ใช้สัญจร

   ป้อมประการนี้ในอดีตมีแหล่งน้ำตั้งอยู่อีกฝั่ง นิยมตกจระเข้กันด้วย


                                Bayon

     วัดนี้สร้างใหญ่มาก ลักษณะเด่นคือจะเจอใบหน้ารูปปั้นยิ้มบนป้อมปราการสี่ทิศ รวมๆแล้วมากถึงร้อยกว่าใบหน้าเลย กัมพูชามีรากฐานวัฒนธรรมจากอินเดีย ทุกวันนี้ผู้คนนับถือพุทธมากถึง 97% ที่เหลือเป็นฮินดู และความเชื่อแบบ Spiritual ค่ะ อีกอย่างที่เด่นสำหรับเราคือ ห้องสมุดหน้าวัดบันไดสูงมาก กลัวจะลื่นตกลงมาหัวแตกก่อนได้อ่านหนังสือค่ะ
    วัดนี้มีบ่อน้ำลึกอยู่ภายใน เอาไฟส่องลงไปลึกมากๆ ในสมัยก่อนใช้น้ำจากบ่อนี้เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ศิลปะผนังกำแพงวัดจะคล้ายกับ Angkor Wat แต่ที่นี่จะเน้นเล่าเกี่ยวกับวิถีชีวิตมากกว่า
     นอกจากยิ้ม 4 แบบที่ไกด์เล่าให้ฟังเมื่อเช้าแล้ว ยังเล่าถึงวัฒนธรรมการไหว้ของชาวขแมร์ด้วย ซึ่งระดับการไหว้เหมือนคนไทย ส่วนเรื่องวิถีครอบครัวก็คล้ายไทยอยู่บ้าง


                       Phnom Bakheng
   ปิดท้ายวันนี้ด้วยการเดินขึ้นเขาไปชมพระอาทิตย์ตกดินค่ะ เดินชมวัดมาทั้งวัน แล้วต่อด้วยเดินเขาประมาณ 15 นาที คืนนี้นอนหลับสบายแน่นอนค่ะ


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่