หมอพรทิพย์ เอือมปลวกกินเมือง ‘จิ้ม’ ตรงไหนก็ทุจริต ซัดปราบไม่จริงจัง หรือต้องรอกรรมทำงาน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3800535
หมอพรทิพย์ เอือมปลวกกินเมือง ‘จิ้ม’ ตรงไหนก็ทุจริต ซัดปราบไม่จริงจัง หรือต้องรอกรรมทำงาน
เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา แพทย์หญิงคุณหญิง
พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา เผยแพร่ข้อเขียนผ่านอินสตาแกรม ถึงประเด็นปัญหาการทุจริตในสังคมไทย โดยระบุว่า
เรียกได้ว่ากรรมกำลังทำงาน ความวัวไม่ทันกระจ่าง ความควาย ความสารพัดทยอยเป็นประเด็นทุกวัน
จิ้มตรงไหนก็พบเรื่องทุจริต
จิ้มตรงไหนก็พันมายังคนใกล้ชิดคนรู้จักกับผู้อยู่ในอำนาจ
จิ้มตรงไหนก็ได้เห็นการพยายามปกป้ององค์กร พยายามปัดป่าว ปัดทิ้ง
จิ้มตรงไหนก็ไม่พบความน่าเชื่อถือในการตรวจสอบ
การจัดการกับเรื่องทุจริตคอรัปชั่นด้วยกฎหมายผุพังมานานแล้ว ยิ่งตั้งหน่วยตรวจสอบมากเท่าไหร่ ความโปร่งใส ประสิทธิภาพก็หายไป นักการเมืองทุกยุคล้วนพยายามแทรกแซงอำนาจ โดยเอาคนของตัวเองเข้าไปเพื่อช่วยคนของเขาและเอาไว้กลั่นแกล้งคนอื่น
ข่าวเรื่องนักท่องเที่ยวไต้หวันกล่าวหาว่าถูกรีดเงิน ทำให้เห็นชัดว่าท่าทีและกลไกหน่วยงานล้วนสวนทางความต้องการของสังคม ถ้าไม่มีคนนอกคอยเติมข้อมูลในข่าวเรื่องคงเงียบไปแล้ว
ใกล้เลือกตั้งแต่ละพรรคก็มุ่งเสนอและหลอกล่อประชาชนด้วยผลประโยชน์เชิงสวัสดิการ ไม่มีพรรคการเมืองใดที่มีความชัดเจนการแก้ปัญหาปลวกกินเมืองนี้
คนที่อาสามาปฏิรูปก็ไม่ได้ทำอะไรไว้เลยในช่วงที่ผ่านมา อีกสองปีก็คงไม่มีเรื่องนี้ อีกคนเริ่มฉีกตัวเองออกว่าไม่ได้ร่วมปฏิวัติ และจะพยายามลดความขัดแย้ง ท่าทีเช่นนี้ชัดเจนว่าไม่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาคอรัปชั่น ส่วนพรรคการเมืองดั้งเดิมอื่นๆไม่เคยมีนโยบายเรื่องนี้มาก่อนและคงไม่ให้ความสำคัญแน่นอน
ฤาจะมีแต่กรรมที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุด
https://www.instagram.com/p/CoETnYbJ_-s/?hl=th
“สุทิน” ชวน ปชช.จับตา กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งเป็นธรรมหรือไม่ เผย ซักฟอก 152 “บิ๊กตู่” คือจำเลยที่หนึ่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3800733
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงกรณีการเสนอญัตติด่วยด้วยวาจาเรื่องให้สภาฯ พิจารณาศึกษาหาทางออกให้กับผู้ต้องขังทางการเมืองของน.ส.
ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ
ตะวัน และน.ส.
อรวรรณ ภู่พงศ์ หรือ
แบม ว่า ขณะเดียวกันจะขอเลื่อนวาระเดิมที่ฝ่ายค้านเคยยื่นไว้ โดย นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. เป็นเรื่องของการให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อตรวจสอบการ บังคับใช้กฎหมายที่ล้นเกินต่อผู้ชุมนุมทางการเมือง ฉะนั้น คิดว่าวันนี้หลังจากหารือเสร็จ จะหารือเรื่องดังกล่าว
สำหรับเรื่ององค์ประชุมสภาฯ วันนี้ นาย
สุทิน กล่าวว่า วันนี้จะล่มหรือไม่ล่มขึ้นอยู่กับรัฐบาล เพราะเป็นกฎหมายของรัฐบาล เรื่องกฎหมายของรัฐบาลโดยปกติรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ ในทุกรัฐบาล ซึ่งจะต้องรับผิดชอบจัดการองค์ประชุมให้ได้ เพื่อผลักดันกฎหมายตนเองให้ผ่าน ฉะนั้น วันนี้จึงเชื่อว่ารัฐบาลจะต้องทำเช่นนั้น แต่หากรัฐบาลไม่ทำเช่นนั้น สภาฯ ก็น่าจะล่ม หรือรัฐบาลจะทิ้งกฎหมายตนเอง ก็ต้องดูกัน ทั้งนี้ สำหรับการประชุมพรรค พท.เมื่อวานนี้ (31 มกราคม) นพ.
ชลน่าน ได้กำชับทุกคนว่า จริงๆ หากไม่จำเป็น เราก็ไม่นับองค์ประชุม และจะใช้วิธีปกติ
เมื่อถามถึง เรื่องการตีเส้นแบ่งทั้ง 400 เขต ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะจับตาอย่างไร เพื่อไม่ให้ตีเส้นแบ่งเขตเลือกตั้งแบบพิศดารเหมือนปี 2562 นาย
สุทิน กล่าวว่า การแบ่งเขตเลือกตั้ง เป็นจุดเริ่มต้น ของการเป็นธรรมเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาการแบ่งเขตก็มีการเอาเปรียบกัน ฝ่ายรัฐบาลหรือคนที่มีอำนาจรัฐก็มักจะใช้โอกาสนี้ แบ่งเขตเพื่อให้ตนเองได้เปรียบ ฉะนั้น คราวนี้เราจึงไม่ปล่อย ทางฝ่ายค้านและทุกคนจะมีส่วนร่วมในการจับตา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดี จึงอยากเชิญชวนสังคม ให้ช่วยกันดู
เมื่อถามว่า ตามที่นาย
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แจ้งไทม์ไลน์กกต. ขอทั้งเดือนกุมภาพันธ์ หรืออีก 30 วัน ให้ กกต.แบ่งเขตให้เสร็จก่อน จึงค่อยยุบสภาฯ จะเรียกร้องให้ใช้เวลาเร็วกว่า 30 วัน หรือไม่ นาย
สุทิน กล่าวว่า เชื่อว่าการแบ่งเขตไม่นาน และคงไม่ใช้เวลานานเช่นนั้น เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตนเชื่อว่า ในแต่ละเขตเขามีตุ๊กตาไว้แล้ว และกฎหมายลูกได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้ว เชื่อว่ากระบวนการกำลังดำเนินการอยู่ ย้ำว่าคงใช้เวลาไม่นานเช่นนั้น แต่หากรัฐบาลจะใช้จุดนี้เป็นข้ออ้าง ก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้ติดใจ
เมื่อถามถึง การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ฝ่ายค้านจะจัดหนักใครเป็นพิเศษ และเน้นเรื่องใด นาย
สุทิน กล่าวว่า สำหรับการอภิปรายมาตรา 152 เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย ไม่ได้มีการจับตาใครเป็นพิเศษ และพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือจำเลยที่หนึ่ง และในการอภิปรายก็คงกระทบกับรัฐมนตรีทุกคนเนื่องจากเกี่ยวข้องกับนโยบาย ส่วนเรื่องที่จะโดนหนักคือการทุจริต อยู่ที่จะโดนรัฐมนตรีคนไหนเท่านั้นเอง
‘สมชัย’ เตือน กกต.นำคนไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณเขต 6 จว.มีปัญหา เสี่ยงถูกร้องศาลตีความ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3800695
‘สมชัย’ เตือน กกต.แบ่งเขตผิด เอาคนไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณ ส่อวุ่น! ทำ 6 จว.เกิดปัญหา เปิดประชุมรัฐสภาไม่ได้ เหตุ ส.ส.ไม่ถึงร้อยละ 95 เสี่ยงถูกร้องศาล รธน.ตีความหมายคำว่า ‘ราษฎร’ กระทบทำเลือกตั้งล่าช้า
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย (สร.) และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงการออกมาตั้งข้อสังเกตเรื่องการคำนวณจำนวน ส.ส.ของ กกต. โดยนำคนที่ไม่มีสัญชาติไทยมานับรวมด้วยจะทำให้การแบ่งเขตเกิดความผิดพลาดหรือไม่ว่า เรื่องนี้ต้องเคลียร์ให้ชัดเจน ก่อนเดินหน้าแบ่งเขตพื้นที่ในจังหวัด ไม่เช่นนั้น 3 จังหวัดที่ได้ ส.ส.เกิน และ 3 จังหวัดที่ได้ ส.ส.ขาด จะกำหนดพื้นที่แบ่งเขตผิด และทำให้การเลือกตั้ง 6 จังหวัดนั้นเป็นปัญหา
นาย
สมชัยกล่าวว่า โดย 6 จังหวัดดังกล่าวมีจำนวน ส.ส.รวมกันได้ 40 คน คิดเป็นร้อยละ 8 ของจำนวน ส.ส. หากมีปัญหาขึ้นจะไม่สามารถเรียกประชุมรัฐสภาได้ เพราะมีไม่ถึงร้อยละ 95 ที่มาตรา 84 รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดไว้ ดังนั้น กกต.ต้องชี้แจงว่าเหตุใดจึงนำคนที่ไม่ได้สัญชาติไทยมารวมไว้ด้วย แม้ก่อนหน้านี้เคยทำแบบนี้กันมา เลยจะทำแบบเดิม แต่แบบเดิมก็อาจจะผิดพลาดก็ได้ เพราะไม่เคยมีใครออกมาทักท้วงว่าถูกหรือผิดอย่างไร จึงยึดแนวปฏิบัติใช้มาโดยตลอด
เมื่อถามว่า ขณะนี้ กกต.ออกประกาศหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้งไปแล้ว จะแก้ไขได้หรือไม่ นาย
สมชัยกล่าวว่า แก้ไขได้หากมีคนไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัย หากมีผู้ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความคำว่า “
ราษฎร” ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 ว่าหมายถึงราษฎรที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น หรือหมายความรวมถึงราษฎรที่ไม่ได้สัญชาติไทยด้วย
นาย
สมชัยกล่าวต่อว่า ส่วนตัวยังไม่ได้คิดว่าจะยื่นร้องศาล เพราะถ้ายื่นศาลอาจทำให้เวลาในการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.ล่าช้าออกไปอีก และส่งผลให้การเลือกตั้งช้าออกไปอีกด้วย ทั้งนี้ ต้องพึงระมัดระวังว่าหากการเลือกตั้งเสร็จแล้ว และมีคนไปยื่นร้องภายหลังว่า กกต.ตีความหมายของคำว่าราษฎรผิดและแบ่งเขตเลือกตั้งผิด อาจส่งผลทำให้การเลือกตั้งเกิดปัญหาขึ้นได้ โดยเฉพาะจังหวัดที่มี ส.ส.เกินและจังหวัดที่มี ส.ส.ขาด แต่คงไม่เสียไปทั้งหมดอาจจะแค่ 6 จังหวัดเท่านั้น ดังนั้น ควรหาทางออกให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นาย
สมชัยระบุว่า สำหรับจังหวัดที่มีคนไม่ได้สัญชาติไทย สูงสุด 3 จังหวัดคือ จ.เชียงใหม่ 161,567 คน จ.ตาก 137,410 คน และ จ.เชียงราย 132,515 คน หากคำนวณใหม่โดยตัดคนที่ไม่ได้สัญชาติไทยออก 3 จังหวัดนี้ ควรได้ ส.ส.น้อยลงจังหวัดละ 1 คน ขณะที่ จ.อุดรธานี จ.ลพบุรี และ จ.ปัตตานี ควรได้ ส.ส.เพิ่มอีกจังหวัดละ 1 คน
JJNY : หมอพรทิพย์เอือมปลวกกินเมือง│“สุทิน”ชวนปชช.จับตากกต.│‘สมชัย’เตือนกกต.│ฝรั่งเศส“เปิดโอกาส”ส่งเครื่องบินรบช่วยยูเครน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3800535
หมอพรทิพย์ เอือมปลวกกินเมือง ‘จิ้ม’ ตรงไหนก็ทุจริต ซัดปราบไม่จริงจัง หรือต้องรอกรรมทำงาน
เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา เผยแพร่ข้อเขียนผ่านอินสตาแกรม ถึงประเด็นปัญหาการทุจริตในสังคมไทย โดยระบุว่า
เรียกได้ว่ากรรมกำลังทำงาน ความวัวไม่ทันกระจ่าง ความควาย ความสารพัดทยอยเป็นประเด็นทุกวัน
จิ้มตรงไหนก็พบเรื่องทุจริต
จิ้มตรงไหนก็พันมายังคนใกล้ชิดคนรู้จักกับผู้อยู่ในอำนาจ
จิ้มตรงไหนก็ได้เห็นการพยายามปกป้ององค์กร พยายามปัดป่าว ปัดทิ้ง
จิ้มตรงไหนก็ไม่พบความน่าเชื่อถือในการตรวจสอบ
การจัดการกับเรื่องทุจริตคอรัปชั่นด้วยกฎหมายผุพังมานานแล้ว ยิ่งตั้งหน่วยตรวจสอบมากเท่าไหร่ ความโปร่งใส ประสิทธิภาพก็หายไป นักการเมืองทุกยุคล้วนพยายามแทรกแซงอำนาจ โดยเอาคนของตัวเองเข้าไปเพื่อช่วยคนของเขาและเอาไว้กลั่นแกล้งคนอื่น
ข่าวเรื่องนักท่องเที่ยวไต้หวันกล่าวหาว่าถูกรีดเงิน ทำให้เห็นชัดว่าท่าทีและกลไกหน่วยงานล้วนสวนทางความต้องการของสังคม ถ้าไม่มีคนนอกคอยเติมข้อมูลในข่าวเรื่องคงเงียบไปแล้ว
ใกล้เลือกตั้งแต่ละพรรคก็มุ่งเสนอและหลอกล่อประชาชนด้วยผลประโยชน์เชิงสวัสดิการ ไม่มีพรรคการเมืองใดที่มีความชัดเจนการแก้ปัญหาปลวกกินเมืองนี้
คนที่อาสามาปฏิรูปก็ไม่ได้ทำอะไรไว้เลยในช่วงที่ผ่านมา อีกสองปีก็คงไม่มีเรื่องนี้ อีกคนเริ่มฉีกตัวเองออกว่าไม่ได้ร่วมปฏิวัติ และจะพยายามลดความขัดแย้ง ท่าทีเช่นนี้ชัดเจนว่าไม่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาคอรัปชั่น ส่วนพรรคการเมืองดั้งเดิมอื่นๆไม่เคยมีนโยบายเรื่องนี้มาก่อนและคงไม่ให้ความสำคัญแน่นอน
ฤาจะมีแต่กรรมที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุด
https://www.instagram.com/p/CoETnYbJ_-s/?hl=th
“สุทิน” ชวน ปชช.จับตา กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งเป็นธรรมหรือไม่ เผย ซักฟอก 152 “บิ๊กตู่” คือจำเลยที่หนึ่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3800733
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงกรณีการเสนอญัตติด่วยด้วยวาจาเรื่องให้สภาฯ พิจารณาศึกษาหาทางออกให้กับผู้ต้องขังทางการเมืองของน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และน.ส.อรวรรณ ภู่พงศ์ หรือแบม ว่า ขณะเดียวกันจะขอเลื่อนวาระเดิมที่ฝ่ายค้านเคยยื่นไว้ โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. เป็นเรื่องของการให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อตรวจสอบการ บังคับใช้กฎหมายที่ล้นเกินต่อผู้ชุมนุมทางการเมือง ฉะนั้น คิดว่าวันนี้หลังจากหารือเสร็จ จะหารือเรื่องดังกล่าว
สำหรับเรื่ององค์ประชุมสภาฯ วันนี้ นายสุทิน กล่าวว่า วันนี้จะล่มหรือไม่ล่มขึ้นอยู่กับรัฐบาล เพราะเป็นกฎหมายของรัฐบาล เรื่องกฎหมายของรัฐบาลโดยปกติรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ ในทุกรัฐบาล ซึ่งจะต้องรับผิดชอบจัดการองค์ประชุมให้ได้ เพื่อผลักดันกฎหมายตนเองให้ผ่าน ฉะนั้น วันนี้จึงเชื่อว่ารัฐบาลจะต้องทำเช่นนั้น แต่หากรัฐบาลไม่ทำเช่นนั้น สภาฯ ก็น่าจะล่ม หรือรัฐบาลจะทิ้งกฎหมายตนเอง ก็ต้องดูกัน ทั้งนี้ สำหรับการประชุมพรรค พท.เมื่อวานนี้ (31 มกราคม) นพ.ชลน่าน ได้กำชับทุกคนว่า จริงๆ หากไม่จำเป็น เราก็ไม่นับองค์ประชุม และจะใช้วิธีปกติ
เมื่อถามถึง เรื่องการตีเส้นแบ่งทั้ง 400 เขต ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะจับตาอย่างไร เพื่อไม่ให้ตีเส้นแบ่งเขตเลือกตั้งแบบพิศดารเหมือนปี 2562 นายสุทิน กล่าวว่า การแบ่งเขตเลือกตั้ง เป็นจุดเริ่มต้น ของการเป็นธรรมเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาการแบ่งเขตก็มีการเอาเปรียบกัน ฝ่ายรัฐบาลหรือคนที่มีอำนาจรัฐก็มักจะใช้โอกาสนี้ แบ่งเขตเพื่อให้ตนเองได้เปรียบ ฉะนั้น คราวนี้เราจึงไม่ปล่อย ทางฝ่ายค้านและทุกคนจะมีส่วนร่วมในการจับตา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดี จึงอยากเชิญชวนสังคม ให้ช่วยกันดู
เมื่อถามว่า ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แจ้งไทม์ไลน์กกต. ขอทั้งเดือนกุมภาพันธ์ หรืออีก 30 วัน ให้ กกต.แบ่งเขตให้เสร็จก่อน จึงค่อยยุบสภาฯ จะเรียกร้องให้ใช้เวลาเร็วกว่า 30 วัน หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เชื่อว่าการแบ่งเขตไม่นาน และคงไม่ใช้เวลานานเช่นนั้น เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตนเชื่อว่า ในแต่ละเขตเขามีตุ๊กตาไว้แล้ว และกฎหมายลูกได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้ว เชื่อว่ากระบวนการกำลังดำเนินการอยู่ ย้ำว่าคงใช้เวลาไม่นานเช่นนั้น แต่หากรัฐบาลจะใช้จุดนี้เป็นข้ออ้าง ก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้ติดใจ
เมื่อถามถึง การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ฝ่ายค้านจะจัดหนักใครเป็นพิเศษ และเน้นเรื่องใด นายสุทิน กล่าวว่า สำหรับการอภิปรายมาตรา 152 เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย ไม่ได้มีการจับตาใครเป็นพิเศษ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือจำเลยที่หนึ่ง และในการอภิปรายก็คงกระทบกับรัฐมนตรีทุกคนเนื่องจากเกี่ยวข้องกับนโยบาย ส่วนเรื่องที่จะโดนหนักคือการทุจริต อยู่ที่จะโดนรัฐมนตรีคนไหนเท่านั้นเอง
‘สมชัย’ เตือน กกต.นำคนไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณเขต 6 จว.มีปัญหา เสี่ยงถูกร้องศาลตีความ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3800695
‘สมชัย’ เตือน กกต.แบ่งเขตผิด เอาคนไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณ ส่อวุ่น! ทำ 6 จว.เกิดปัญหา เปิดประชุมรัฐสภาไม่ได้ เหตุ ส.ส.ไม่ถึงร้อยละ 95 เสี่ยงถูกร้องศาล รธน.ตีความหมายคำว่า ‘ราษฎร’ กระทบทำเลือกตั้งล่าช้า
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย (สร.) และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงการออกมาตั้งข้อสังเกตเรื่องการคำนวณจำนวน ส.ส.ของ กกต. โดยนำคนที่ไม่มีสัญชาติไทยมานับรวมด้วยจะทำให้การแบ่งเขตเกิดความผิดพลาดหรือไม่ว่า เรื่องนี้ต้องเคลียร์ให้ชัดเจน ก่อนเดินหน้าแบ่งเขตพื้นที่ในจังหวัด ไม่เช่นนั้น 3 จังหวัดที่ได้ ส.ส.เกิน และ 3 จังหวัดที่ได้ ส.ส.ขาด จะกำหนดพื้นที่แบ่งเขตผิด และทำให้การเลือกตั้ง 6 จังหวัดนั้นเป็นปัญหา
นายสมชัยกล่าวว่า โดย 6 จังหวัดดังกล่าวมีจำนวน ส.ส.รวมกันได้ 40 คน คิดเป็นร้อยละ 8 ของจำนวน ส.ส. หากมีปัญหาขึ้นจะไม่สามารถเรียกประชุมรัฐสภาได้ เพราะมีไม่ถึงร้อยละ 95 ที่มาตรา 84 รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดไว้ ดังนั้น กกต.ต้องชี้แจงว่าเหตุใดจึงนำคนที่ไม่ได้สัญชาติไทยมารวมไว้ด้วย แม้ก่อนหน้านี้เคยทำแบบนี้กันมา เลยจะทำแบบเดิม แต่แบบเดิมก็อาจจะผิดพลาดก็ได้ เพราะไม่เคยมีใครออกมาทักท้วงว่าถูกหรือผิดอย่างไร จึงยึดแนวปฏิบัติใช้มาโดยตลอด
เมื่อถามว่า ขณะนี้ กกต.ออกประกาศหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้งไปแล้ว จะแก้ไขได้หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า แก้ไขได้หากมีคนไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัย หากมีผู้ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความคำว่า “ราษฎร” ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 ว่าหมายถึงราษฎรที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น หรือหมายความรวมถึงราษฎรที่ไม่ได้สัญชาติไทยด้วย
นายสมชัยกล่าวต่อว่า ส่วนตัวยังไม่ได้คิดว่าจะยื่นร้องศาล เพราะถ้ายื่นศาลอาจทำให้เวลาในการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.ล่าช้าออกไปอีก และส่งผลให้การเลือกตั้งช้าออกไปอีกด้วย ทั้งนี้ ต้องพึงระมัดระวังว่าหากการเลือกตั้งเสร็จแล้ว และมีคนไปยื่นร้องภายหลังว่า กกต.ตีความหมายของคำว่าราษฎรผิดและแบ่งเขตเลือกตั้งผิด อาจส่งผลทำให้การเลือกตั้งเกิดปัญหาขึ้นได้ โดยเฉพาะจังหวัดที่มี ส.ส.เกินและจังหวัดที่มี ส.ส.ขาด แต่คงไม่เสียไปทั้งหมดอาจจะแค่ 6 จังหวัดเท่านั้น ดังนั้น ควรหาทางออกให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายสมชัยระบุว่า สำหรับจังหวัดที่มีคนไม่ได้สัญชาติไทย สูงสุด 3 จังหวัดคือ จ.เชียงใหม่ 161,567 คน จ.ตาก 137,410 คน และ จ.เชียงราย 132,515 คน หากคำนวณใหม่โดยตัดคนที่ไม่ได้สัญชาติไทยออก 3 จังหวัดนี้ ควรได้ ส.ส.น้อยลงจังหวัดละ 1 คน ขณะที่ จ.อุดรธานี จ.ลพบุรี และ จ.ปัตตานี ควรได้ ส.ส.เพิ่มอีกจังหวัดละ 1 คน