ได้เวลารวมเอาการเขียนนิยายมาเขียนร่วมกับเรื่องป่าแล้วค่ะ นี่คือนิยายผจญภัยในป่าที่ผสานเข้ากับนิยายคำสาปนางอัปสรอย่างลงตัว 
เป็นสิ่งที่อยากทำมานาน ยกแรกเริ่ม ณ บัดนี้
แผ่นแกะสลักหินรูปนางอัปสรหักครึ่งแผ่นนั้นคือปริศนาที่ตะวัน หนุ่มนักโบราณคดีต้องไขมันออกให้ได้ เพื่อเธอคนนั้น...กมลารตี

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น ทำให้ ตะวัน หนุ่มนักโบราณคดีวัยสามสิบห้าปี ต้องตื่นขึ้นมาจากนิทราอันน่าตื่นเต้น เขายกมือชื้นเหงื่อขึ้นลูบหน้าตัวเอง ที่ยังไม่หายจากอาการเครียดเขม็งของกล้ามเนื้อดี อันเนื่องมาจากภาพในความฝัน ที่แจ่มกระจ่างราวกับเป็นความจริง

ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน เธอมาเข้าฝันเขาเพื่อทวงถามหาความยุติธรรม สายตาเธอที่จ้องมองมาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาของความโศกเศร้าและความคับแค้นใจ ทุกครั้งที่เขากำลังจะตื่นขึ้นมา เธอจะร้องขอต่อเขาให้ช่วยเหลือ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายจนเกินไป 

ตะวันฝันเห็นผู้หญิงคนนี้มาหลายครั้งแล้ว หลังจากปิดเปลือกตาลงหวังจะเข้าสู่ห้วงนิทรา แต่ยามใดที่เข้าสู่นิทราไปแล้ว หญิงสาวคนนี้ก็จะปรากฏตัวออกมาในความฝัน

เสียงเรียกร้องของเธอนั้น ทำให้จิตใจของตะวันเกิดว้าวุ่นสับสน จนอยู่ไม่เป็นสุข เป็นแรงขับเคลื่อนชนิดหนึ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจร่ำเรียนทางไสยศาสตร์ พยายามเรียนรู้การใช้ชีวิตในป่า เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีโอกาสเข้าไปค้นหาผู้หญิงปริศนาคนนี้จากสิ่งที่พบเห็นในความฝัน 

ความฝันอันประหลาดมันเริ่มเกิดขึ้น เมื่อตอนที่ตะวันไปเจอกับนายพรานคนหนึ่ง ชื่อจ่าชิต หรืออนุชิต อดีตนายทหารที่ลาออกจากราชการมาท่องป่าโดยเฉพาะ ทั้งจากความชื่นชอบส่วนตัว และทั้งจากความสนใจในปริศนาของเมืองโบราณแห่งหนึ่ง ซึ่งไปได้ยินมาจากนายพรานรุ่นก่อน ๆ อนุชิตเป็นพรานหนุ่มที่มีความเชี่ยวชาญในการเดินป่าแถบชายแดนเขมร ฝีมือเดินป่ายากจะหาใครมาเทียบ จ่าชิตเอาแผ่นแกะสลักหินที่หักบิ่นชิ้นหนึ่งมาให้ตะวันดู มองดูแล้วคล้ายรูปแกะสลักของนางอัปสรครึ่งท่อน ท่อนล่างได้หักหายไป เหลือแต่ท่อนบนของร่างกาย กว้างและยาวประมาณคืบหนึ่ง เหมือนมันจะหลุดออกมาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของตัวปราสาท ซึ่งเคยประดับอยู่ จ่าชิตบอกกับเขาว่าได้มันมาจากพรานชาวกระเหรี่ยงคนหนึ่ง

ติดตามเรื่องราวต่อได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ https://youtu.be/WX10yDYx-bU