พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ทำคดีค้ามนุษย์ แทนที่จะได้รับการปกป้องจากผู้บังคับบัญชา
ผู้บังคับบัญชาที่มีทั้งตำแหน่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดกำกับดูแล สตช. ทั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่ผลก็คือ อยู่เมืองไทยไม่ได้ ต้องหนีตายลี้ภัยไปอยู่ออสเตรเลีย
แบบผู้บังคับบัญชาดูดาย ไม่ให้ความสำคัญสนใจอะไรเลยสักนิด
.
ตำรวจอีกคน ว่าที่ พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฎฐ์ ผู้จับกุม ตุน มิน ลัด คนใกล้ชิดผู้นำพม่า มิน อ่อง ลาย
แทนที่จะได้ทำคดี สืบสาวผู้เกี่ยวโยงใยให้ครบถ้วน กลับโดนย้ายจากนครบาลไป สภ.บ้านเดื่อ ชัยภูมิ
เรียกว่า เอาออกจากคดี (ที่เกี่ยวพันถึงลูก ๆ ของ มิน อ่อง ลาย) และเหมือนเป็นการลงโทษที่บังอาจจับไม่ดูตาม้าตาเรือว่าไผเป็นไผ
นายกรัฐมนตรีผู้กำกับดูแล สตช. เช่นเคย ไม่สนใจไยดีอะไร
.
.
ตำรวจทำหน้าที่ปราบผู้ร้าย แทนที่จะได้ดิบได้ดี กลับโดนลงโทษอย่างไม่เป็นธรรม
คนหนึ่งต้องลี้ภัยไปออสเตรเลีย คนหนึ่งจากนครบาลกรุงเทพมหานคร ต้องไป ต.บ้านเดื่อ อ.เกษตรสมบูรณ์ จว.ชัยภูมิ
นี่หรือ ยุคคนดีศรีสลิ่มครองเมือง
เชียร์เยอะ ๆ อวยไส้แตกเลยครับหลิ่ม
ยุคคนดีศรีสลิ่มเป็นใหญ่
พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ทำคดีค้ามนุษย์ แทนที่จะได้รับการปกป้องจากผู้บังคับบัญชา
ผู้บังคับบัญชาที่มีทั้งตำแหน่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดกำกับดูแล สตช. ทั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่ผลก็คือ อยู่เมืองไทยไม่ได้ ต้องหนีตายลี้ภัยไปอยู่ออสเตรเลีย
แบบผู้บังคับบัญชาดูดาย ไม่ให้ความสำคัญสนใจอะไรเลยสักนิด