เรากับแฟนได้มีการคุยกันคร่าวๆเรื่องที่อยู่อาศัยหลังแต่งงาน เราแพลนกันว่าอาจจะแต่งงานในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
ตอนนี้รายได้ทั้งคู่พอๆกันอยู่ที่ 40k-50k อายุ 27-28 ปีค่ะ
ทางฝั่งเรามีแค่เรากับแม่2คน ฝั่งแฟนมี4คน แฟนเราเป็นลูกคนกลาง มีพี่สาว1คน น้องชาย1คน และแม่แฟนอีก1คน
ครอบครัวของแฟนตอนนี้กำลังสร้างบ้านใหม่แถบปริมณฑล (เนื่องจากบ้านเก่าในกรุงเทพโดนยึดสาเหตุเกิดจากการล้มละลายของพ่อแฟน) ซึ่งอีกไม่นานจะมี BTS ผ่านปากซอยทำให้เดินทางสะดวกขึ้น พื้นที่บ้านค่อนข้างกว้างขวาง
ส่วนเราอยู่บ้านของยายในกรุงเทพ แต่แม่เรามีบ้านอีกหลังอยู่แถบปริมณฑลเหมือนกันแต่คนละจังหวัดกับของแฟน สำหรับเราการเดินทางไปทำงานลำบากเพราะแถวนั้นไม่มี BTS/MRT ผ่าน การเดินทางไปทำงานของเราจำเป็นต้องใช้ BTS หรือ MRT ค่ะ
ปัจจุบันเราไม่มีภาระหนี้สินใดๆ ไม่มีผ่อนบ้าน/รถ ไม่มีบัตรเครดิต มีแต่เก็บเงินลงทุนต่างๆและมีติดดอยอยู่บ้าง แต่ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเพราะคิดว่าจะลงทุนระยะยาว
แฟนเราตอนนี้มีผ่อนรถ 1 คัน ผ่อนบ้าน 1 หลัง บ้านหลังนี้เค้าซื้อก่อนที่จะคบกับเรา แฟนบอกว่าซื้อเพื่อต้องการปล่อยให้เช่า แต่บ้านค่อนข้างเก่าและต้องรีโนเวทก่อนถึงจะปล่อยเช่าได้ ตอนนี้ผ่านมาหลายปีแล้วแฟนยังไม่รีโนเวทและยังไม่ปล่อยให้ใครเช่าเลย เค้าบอกว่าอยากรอให้ bts แถวนั้นขึ้นก่อน และแฟนบอกว่ายังไม่มีเงินพอจะรีโนเวท ส่วนตัวเราบอกเค้าว่าให้เค้าตัดสินใจทำอะไรสักอย่างกับบ้านหลังนี้ เพราะเสียตังทุกเดือน แต่ไม่ได้ทั้งอยู่และไม่ได้ทั้งปล่อยเช่ามันเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งสรุปแล้วล่าสุดแฟนบอกว่าจะขายทิ้ง แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะขายได้เมื่อไหร่ และนอกจากผ่อนบ้านหลังนี้แล้วแฟนต้องช่วยที่บ้านผ่อนบ้านที่กำลังสร้างใหม่ตอนนี้ด้วย ซึ่งพี่สาวแฟน แม่แฟน และแฟนจะช่วยกันผ่อน แม่แฟนทำธุรกิจส่วนตัว ส่วนพี่สาวแฟนและแฟนทำงานค่อนข้างมั่นคงเลยคิดว่าไม่น่ามีปัญหา แต่จากที่ถามแล้วคือต้องส่งไปอีก30ปี ทางฝั่งพี่สาวแฟนถ้าแต่งงานแล้วคงจะย้ายออก100% ส่วนน้องชายแฟนยังไม่ทราบว่าอนาคตจะเป็นยังไง
เรื่องที่ยังหาข้อตกลงไม่ได้ตอนนี้คือหลังจากแต่งงานแล้วจะไปอยู่ที่ไหนดี ที่ลองคิดไว้กับแฟนตอนนี้นะคะคือ
1.สร้างบ้านอีกหลังในพื้นที่บ้านที่ครอบครัวของแฟนกำลังสร้างใหม่ เนื่องจากยังมีพื้นที่เหลือพอให้สร้างได้
ข้อดีคือประหยัดเงิน ไม่ต้องไปหาซื้อใหม่ เพราะสร้างบ้านในพื้นที่เดิมยังไงก็ถูกกว่าไปซื้อบ้านใหม่อยู่แล้ว ส่วนข้อเสียคือเราไม่แน่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ค่ะ และนิสัยเราเข้ากับคนยาก อีกอย่างเรานึกไปถึงตอนแม่เราแก่ เราอาจจะต้องเอาแม่มาอยู่ด้วยซึ่งไม่รู้ว่ามันจะสะดวกไหม ถึงจะอยู่บ้านใครบ้านมันแต่มันก็อาจจะมีเกรงใจกันอยู่บ้าง และถ้าทำตามข้อนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าใครต้องเป็นคนออกค่าสร้างบ้าน
2.ซื้อบ้านใหม่ไปเลยอีกหลัง
ข้อดีคือได้ความเป็นส่วนตัวแน่ๆ อยากทำอะไรก็ได้เพราะเป็นบ้านของเราเอง ถ้าอยากจะให้แม่มาอยู่ตอนแก่ก็ได้ไม่มีปัญหา เพราะคุยกับแฟนแล้วแฟนโอเค แต่ข้อจำกัดตอนนี้คือภาระของแฟนที่ต้องส่งบ้าน 2 หลัง รถอีก 1 คัน เราว่ามันเยอะแล้ว ถ้าจะให้แฟนผ่อนอีกหลังไม่ไหวแน่ๆ ถ้าจะซื้อคือเราต้องผ่อนเองคนเดียว หรือไม่ต้องรอให้แฟนขายบ้านที่เคยจะปล่อยเช่าให้ได้ก่อน ซึ่งไม่รู้จริงๆว่ามันจะขายได้เมื่อไหร่ ส่วนบ้านใหม่ที่เราอยากได้คืออยากได้ไม่ไกลจาก BTS หรือ MRT ไปลองดูราคามาแล้วคิดว่าเงินเดือนเราคนเดียวไม่น่าไหว ตอนนี้ก็เลยยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอายังไงดีค่ะ
แฟนบอกว่าตามใจเราเพราะครอบครัวเค้ายังมีพี่น้องช่วยกันดูแลแม่ตอนแก่ แต่ทางเรามีเราแค่คนเดียว เราคิดวนไปวนมาหลายรอบแล้วก็ยังไม่รู้จะเลือกทางไหน เลยอยากทราบความคิดเห็นจากหลายๆมุมค่ะ
หลังแต่งงานแล้วเลือกอยู่ที่ไหนดีคะ
ตอนนี้รายได้ทั้งคู่พอๆกันอยู่ที่ 40k-50k อายุ 27-28 ปีค่ะ
ทางฝั่งเรามีแค่เรากับแม่2คน ฝั่งแฟนมี4คน แฟนเราเป็นลูกคนกลาง มีพี่สาว1คน น้องชาย1คน และแม่แฟนอีก1คน
ครอบครัวของแฟนตอนนี้กำลังสร้างบ้านใหม่แถบปริมณฑล (เนื่องจากบ้านเก่าในกรุงเทพโดนยึดสาเหตุเกิดจากการล้มละลายของพ่อแฟน) ซึ่งอีกไม่นานจะมี BTS ผ่านปากซอยทำให้เดินทางสะดวกขึ้น พื้นที่บ้านค่อนข้างกว้างขวาง
ส่วนเราอยู่บ้านของยายในกรุงเทพ แต่แม่เรามีบ้านอีกหลังอยู่แถบปริมณฑลเหมือนกันแต่คนละจังหวัดกับของแฟน สำหรับเราการเดินทางไปทำงานลำบากเพราะแถวนั้นไม่มี BTS/MRT ผ่าน การเดินทางไปทำงานของเราจำเป็นต้องใช้ BTS หรือ MRT ค่ะ
ปัจจุบันเราไม่มีภาระหนี้สินใดๆ ไม่มีผ่อนบ้าน/รถ ไม่มีบัตรเครดิต มีแต่เก็บเงินลงทุนต่างๆและมีติดดอยอยู่บ้าง แต่ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเพราะคิดว่าจะลงทุนระยะยาว
แฟนเราตอนนี้มีผ่อนรถ 1 คัน ผ่อนบ้าน 1 หลัง บ้านหลังนี้เค้าซื้อก่อนที่จะคบกับเรา แฟนบอกว่าซื้อเพื่อต้องการปล่อยให้เช่า แต่บ้านค่อนข้างเก่าและต้องรีโนเวทก่อนถึงจะปล่อยเช่าได้ ตอนนี้ผ่านมาหลายปีแล้วแฟนยังไม่รีโนเวทและยังไม่ปล่อยให้ใครเช่าเลย เค้าบอกว่าอยากรอให้ bts แถวนั้นขึ้นก่อน และแฟนบอกว่ายังไม่มีเงินพอจะรีโนเวท ส่วนตัวเราบอกเค้าว่าให้เค้าตัดสินใจทำอะไรสักอย่างกับบ้านหลังนี้ เพราะเสียตังทุกเดือน แต่ไม่ได้ทั้งอยู่และไม่ได้ทั้งปล่อยเช่ามันเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งสรุปแล้วล่าสุดแฟนบอกว่าจะขายทิ้ง แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะขายได้เมื่อไหร่ และนอกจากผ่อนบ้านหลังนี้แล้วแฟนต้องช่วยที่บ้านผ่อนบ้านที่กำลังสร้างใหม่ตอนนี้ด้วย ซึ่งพี่สาวแฟน แม่แฟน และแฟนจะช่วยกันผ่อน แม่แฟนทำธุรกิจส่วนตัว ส่วนพี่สาวแฟนและแฟนทำงานค่อนข้างมั่นคงเลยคิดว่าไม่น่ามีปัญหา แต่จากที่ถามแล้วคือต้องส่งไปอีก30ปี ทางฝั่งพี่สาวแฟนถ้าแต่งงานแล้วคงจะย้ายออก100% ส่วนน้องชายแฟนยังไม่ทราบว่าอนาคตจะเป็นยังไง
เรื่องที่ยังหาข้อตกลงไม่ได้ตอนนี้คือหลังจากแต่งงานแล้วจะไปอยู่ที่ไหนดี ที่ลองคิดไว้กับแฟนตอนนี้นะคะคือ
1.สร้างบ้านอีกหลังในพื้นที่บ้านที่ครอบครัวของแฟนกำลังสร้างใหม่ เนื่องจากยังมีพื้นที่เหลือพอให้สร้างได้
ข้อดีคือประหยัดเงิน ไม่ต้องไปหาซื้อใหม่ เพราะสร้างบ้านในพื้นที่เดิมยังไงก็ถูกกว่าไปซื้อบ้านใหม่อยู่แล้ว ส่วนข้อเสียคือเราไม่แน่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ค่ะ และนิสัยเราเข้ากับคนยาก อีกอย่างเรานึกไปถึงตอนแม่เราแก่ เราอาจจะต้องเอาแม่มาอยู่ด้วยซึ่งไม่รู้ว่ามันจะสะดวกไหม ถึงจะอยู่บ้านใครบ้านมันแต่มันก็อาจจะมีเกรงใจกันอยู่บ้าง และถ้าทำตามข้อนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าใครต้องเป็นคนออกค่าสร้างบ้าน
2.ซื้อบ้านใหม่ไปเลยอีกหลัง
ข้อดีคือได้ความเป็นส่วนตัวแน่ๆ อยากทำอะไรก็ได้เพราะเป็นบ้านของเราเอง ถ้าอยากจะให้แม่มาอยู่ตอนแก่ก็ได้ไม่มีปัญหา เพราะคุยกับแฟนแล้วแฟนโอเค แต่ข้อจำกัดตอนนี้คือภาระของแฟนที่ต้องส่งบ้าน 2 หลัง รถอีก 1 คัน เราว่ามันเยอะแล้ว ถ้าจะให้แฟนผ่อนอีกหลังไม่ไหวแน่ๆ ถ้าจะซื้อคือเราต้องผ่อนเองคนเดียว หรือไม่ต้องรอให้แฟนขายบ้านที่เคยจะปล่อยเช่าให้ได้ก่อน ซึ่งไม่รู้จริงๆว่ามันจะขายได้เมื่อไหร่ ส่วนบ้านใหม่ที่เราอยากได้คืออยากได้ไม่ไกลจาก BTS หรือ MRT ไปลองดูราคามาแล้วคิดว่าเงินเดือนเราคนเดียวไม่น่าไหว ตอนนี้ก็เลยยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอายังไงดีค่ะ
แฟนบอกว่าตามใจเราเพราะครอบครัวเค้ายังมีพี่น้องช่วยกันดูแลแม่ตอนแก่ แต่ทางเรามีเราแค่คนเดียว เราคิดวนไปวนมาหลายรอบแล้วก็ยังไม่รู้จะเลือกทางไหน เลยอยากทราบความคิดเห็นจากหลายๆมุมค่ะ