เหตุเกิดวันที่14มกราคม2565(วันเด็ก)ผมอายุ37 ทำงานพนักงานเทศบาล เรื่องมีอยู่ว่า ผมขับรถไปส่งลูกที่บ้าน5โมงเย็น แล้วต้องกลับมาเข้าเวรต่อ ส่งลูกเสณ็จขากลับพอถึงเวลา1ทุ่ม ตอนนั้นแถวบ้านผมก็มืดมากแล้ว ผมได้ขับรถมาตามปกติเส้นทางเป็นเส้นทางถนนหลวง มีไฟส่องสว่างข้างทางแค่ฝั่งขวา ฝั่งซ้ายเป็นทุ่งนา พอเลยจุดสิ้นสุดไฟข้างทางมาประมาณ50เมตร  ผมขับมาประมาณ 80-90 จู่ๆผมได้เห็นรถไถระยะประชั้นชิดได้หักหลบแต่ไม่พ้นแลยชนท้ายรถไถที่ไม่มีไฟท้าย ไม่มีไฟหน้า มีแค่โคมไฟ(ส่องกับ)คาดที่หัวคนขับ ซึ่งรถไถคันนี้ก็ขับจากรับจ้างที่กลับค่ำเพราะนั่งกินเหล้ากับเพื่อนแต่ไม่ได้เมา   พอผมชนเสร็จถุงลมนิระภัยทำงาน2ข้างผมเจ็บหน้าอกจุกแน่นทั่วท้องไปหมดตั้งสติได้จึงลงจากรถ สภาพรถคือ ไฟหน้ามุมซ้ายพังยุบ ล้อรถแตก รถหมุนกลับหันหน้าไปอีกฝั่ง รถไถคันนั้นไถลลงข้างทาง ไม่พลิกคว่ำ กะทะล้อเบี้ยวจากแรงกระแทก คนขับไม่บาดเจ็บ ตำรวจ+กำนันได้มาดูที่เกิดเหตุ และให้ไปเจรจากันที่โรงพัก  รถผมมีพรบ.ผมมีใบขับขี่ รถเขาไม่มีไฟ เขาก็ยอมรับว่าเขาผิดจึงไม่ได้เป่าแอลกอฮลล์ไว้เป็นหลักฐาน(เสียดายอยู่) คุยกันนาน40นาที เขาตกลงรับผิดชอบจ่ายค่าซ่อมรถให้เรา60%(เราเรียกให้เขารับผิดชอบหมอแต่เขาบอกไม่มีเงินขอ60%) ผมและลุงคนนั้นลงลายมือรับทราบ ร้อยเวรเซ็นต์เป็นพยานเรียบร้อย  
เช้าวันต่อมาเปลี่ยนใจไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ท้าเราบอกอยากได้ให้ไปฟ้องเอา รถผมประเมินราคาซ่อมอยู่ที่ 85,000บาท (ตาต้องจ่าย60%คือ51,000บาท)

ผมอยากทราบว่าในกรณีแบบนี้ ผมมีโอกาสชนะคดีแน่(ไหมครับ)  ถ้าฟ้องผมจะเรียกค่าเสียหายจากตาได้100%หรือได้แค่60%ที่ตกลงกัน หรือแนวทางคดีจะไปในรูปแบบไหนครับ ..ถ้าตาไม่จ่ายจะทำไงดีครับ วันที่23ธ.ค.66นี้มีนัดเจรจาอีก ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็คงเป็นไปตามกฎหมาย