วันสุดท้ายของทริปเชียงใหม่
วันที่หก พุธที่ 18 อุทยานแห่งชาติออบหลวง ช่องแคบเขาขาด (ผาจูบกัน) เป็นสถานที่ที่ไม่ได้อยู่ในแผน ก่อนไปไม่รู้จักที่นี่ ระหว่างค้นสถานที่เที่ยวกับดูแผนการเดินทางเห็นชื่ออุทยานออบหลวง เลยจับเข้าแผนเที่ยววันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับได้พอดี
เสียค่าเข้าอุทยาน น่าคนละ 20 บาท ไม่เสียค่ารถเข้า เพราะเอารถจอดด้านนอก ( เดินเพิ่ม 100 เมตร )
เดินไปที่สะพานด้านบนค่ะ ทางเดินเป็นบันได้ เดินง่ายมาก ป้ายรับน้ำหนักบนสะพานวางอยู่ริมสะพาน สองฝั่งสะพานเป็นคนละอำเภอกัน
จากตรงสะพานมีบันไดหินขึ้นไปได้อีก เป็นภาพเขียนน้องเราไม่ยอมไปด้วยบอกว่ากลับลื่น เราเลยไปคนเดียว จะไปดูภาพเขียนโบราณ ไปถึงก็เจอหลุมศพโบราณ
เดินต่อไปสักพักก็เจอภาพเขียนผนังโบราณ บอกน้องไว้ว่าจะมาแค่นี้ แต่ไหนๆขึ้นมาแล้ว เราต้องไปต่อค่ะ ทางเดินไม่มีบอกระยะทางนะคะ ว่าเดินอีกกี่เมตรถึงจุดชมวิว มีแค่ป้ายลูกศร และไม่ได้มีทุกจุดนะคะ
เดินไปเรื่อยๆค่ะ แล้วก็ปีน ไต่ขึ้นไป ตามก้อนหิน กินก้อนใหญ่ปีนง่าย
(แต่ตอนลงก็จำไม่ได้ขึ้นทางไหน ค่อยๆถอยลงบ้าง เดินลงบ้าง)
วิวด้านบนค่ะ ว่าจะนั่งนานๆ ชมวิว ให้สมกับที่ปีนขึ้นมาด้านบน แต่ก็ไม่ได้นั่ง เสียดายอยู่เหมือนกัน (เหนื่อยมาก ขาล้าเลย)
อยากได้รูปมุมนี้บ้าง มองแล้วมองอีกจะตั้งกล้องตรงไหนแล้ววิ่งไปทันบ้าง แหะๆมองยังไงก็ไม่มีทางทัน 10 วินาที
เดินลงค่ะ ค่อยๆไต่ลงไป ถอยหลังลงบ้าง นั่งลงแล้วกระดืบๆไปบ้าง ทำไมมันสูงจัง ตอนขึ้นไม่รู้สีกเท่าไรเลยว่าสูง เดินกลับมาถึงสะพาน ขาสั่นเลยค่ะ เมื่อยมาก
สองฝั่งสะพาน
รูปนี้ให้น้องถ่ายจากด้านล่าง (เธอเห็นฉันไหม? ให้น้องขยาดดูหนึ่งรูป) นางแบบสวยเลย
ตอนมองไม่เห็นหน้า
ลงมาแล้ว เพิ่งดูเส้นทางเดิน ว่าเดินเป็นวงกลมได้ (แต่ด้านบนมีป้ายบางเส้นทางบอกว่าปิดเนื่องจากทางชำรุด) เราเดินถึงแค่จุดที่ 5
กินข้าวด้านหน้าอุทยาน ด้วยความหิว สั่งสองอย่างเลย ไก่อบครึ่งตัว ชุดน้ำพริกหนุ่ม ข้าวเหนียว หนึ่ง เหลือเกือบทุกอย่างเลย ใส่กล่องกลับไปกินต่อมื้อเที่ยง (ณ ตอนนี้ก็ยังเหลือ ไก่หนึ่งชิ้น ไข่ต้มอีกสองซีก ต้องขจัดมื้อหน้า)
อิ่มแล้วก็ออกเดินทางกลับ คิดว่าวันนี้คงไม่ถึงบ้าน แน่ๆ แต่ยังไม่รู้จะนอนที่ไหนดี ขับเรื่อยๆ ถึงนครสวรรค์ก็ห้าโมงกว่า ก็เลยตัดสินใจว่าไม่ค้างล่ะ ขับยาวเข้าบ้านเลยดีกว่า (มีของแถมก่อนกลับบ้านด้วย ขับรถเร็วเกินกำหนด เสียค่าปรับเรียบร้อย
หลังๆเราก็ว่าขับรถไม่เกินกฎหมายกำหนดนะ แต่ก็คงมีบ้าง หรือเป็นช่วงแซงพอดีก็ไม่รู้ เสียใจ คิดว่าประหยัดค่าโรงแรมไปได้หนึ่งคืนแล้วเชียว รถแต่ละคันที่โดนเรียกก็ป้าย กทมแทบทุกกันเลย มีเพื่อนเยอะ) ถึงศรีราชาเกือบๆสามทุ่ม
สรุปว่าตกทุงหญ้าสะวันนาไป ลืมสนิท และขุนช่างเคี่ยนกลัวว่าถ้าขึ้นไปวันอาทิตย์คงสวนกับรถที่กลับ แล้วจะหักหลบลำบาก เพราะเท่าที่อ่านมาบอกว่าทางไปแคบมาก
เที่ยวเชียงใหม่
วางแผนไว้ ประมาณ 1 อาทิตย์ (รวมวันเดินทางไป-กลับ อีก 2คืน) ขาไปคงจะนอนแถวกำแพงเพชร หรือลำปาง เช้าไปดอยอินทนนท์
ชมดอกพญาเสือโคร่งที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ขุนวาง โครงการอนุรักษ์กล้วยไม้รองเท้านารี เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ตัวเมืองเชียงใหม่ แม่ริม สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ ม่อนแจ่ม ขุนช่างเคี่ยน แม่กำปองหรือแม่ลาย ดอยแม่โถ ทุ่งหญ้าสะวันนา ขากลับกะว่านอนนครสวรรค์ดูว่าจะมีแรงขึ้นเขาหน่อไหม แต่พอวันเดินทางจริงก็ไม่เหมือนที่ตั้งใจไว้ ที่ที่วางแผนไว้ไม่ได้ไป
วันแรก ศุกร์ 13 (ฝันหวาน) มกราเดินทางออกจากบ้าน เจ็ดโมงเช้า น้อง(สะใภ้)แวะไปหาพ่อที่บางพระ เดินทางจริงๆก็เกือบแปดโมงเช้า ขับไปเรื่อยๆ ตั้งแผนที่ไว้ไปดอยอินทนนท์ก่อน แล้วระหว่างทางถึงตรงไหนเย็นๆค่อยหาที่พัก แต่ไปถึงเร็ว เลยเปลี่ยนใจไม่ค้าง
หาโรงแรม คืนวันศุกร์ วันเสาร์ รู้สึกว่าจะเต็ม และแพง เลยเปลี่ยนแผนไปนอนตัวเมืองเชียงใหม่ วนหาโรงแรมกว่าจะได้ก็เกือบหกโมงเย็น เดินออกไปหามื้อเย็น แล้วไปเที่ยวคลองแม่ข่า คนเยอะ รถติด (น้องที่โรงแรมบอกว่าเดินไปไม่ไกล อย่าเอารถไปเพราะรถติด)
คลองแม่ข่า
ตั้งใจว่าจะนอนที่นี่คืนเดียว เช้าอีกวันเก็บของออกไปแล้ว แต่คิดดูแล้วถ้าไปนอนนอกเมืองคืนวันเสาร์คนน่าจะเยอะ แพงด้วย ห้องพักคืนละ 590 มีอาหารเช้า เตียงนอนสบาย ไวไฟแรง ตอนเย็นวันเสาร์เลยกลับมานอนอีกคืนนึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Buri Hotel & Hostel
วันที่สอง เสาร์ 14 มกรา ออกไปเที่ยว สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์
วนกลับเข้าเมือง จะไปถนนนิมมานเหมินทร์ หาร้านนั่งเล่น ไปถึงหาที่จอดไม่ได้ กลับค่ะ เข้าที่พัก แล้วค่อยเดินออกมาหาอะไรกิน เย็นๆก็ไปคลองแม่ข่าอีกครั้ง เมื่อวานไปถึงค่ำเกิน
วันที่สาม อาทิตย์ 15 วันนี้ตั้งใจไปนอนที่แม่ลาย สโลว์ไลฟ์สักหนึ่งวัน ออกเดินทางแบบสบายๆ ไปถึงก็ไปแม่กำปองก่อน ขาขึ้นรถไม่เยอะเท่าไร มีรถสวนขาลงเยอะพอสมควร วนรถเข้าไปแม่กำปอง เจอรถติดในหมู่บ้าน นักท่องเที่ยวเยอะ ขับรถต้องระวังทั้งรถสวน และคนเดินในหมู่บ้าน ไปไม่ถึงน้ำตกแม่กำปองก็เลี้ยวรถกลับ ไปที่แม่ลาย โทรถามที่พักหลายๆแห่งแล้วล่วงหน้า ส่วนใหญ่ก็ว่าง ไม่ได้จองล่วงหน้า เราเลือกพักที่แม่เกตุ ไปถึงแม่เกตุไม่อยู่ จอดรถไว้ไปเดินเล่น ไปคลายคาเฟ่
ไม่ได้เดินไปเที่ยวที่ไหนเลย นอกจากคลายคาเฟ่ เช้าตื่นขึ้นมาปวดเมื่อยไปทั้งสองคน ที่นอนแข็งมาก ถามทางแม่เกตุ เกตุบอกว่าใช้แบบนี้ทุกโฮมสเตย์เลย เรารู้สึกถึงความสูงอายุของตัวเองเพิ่มเลย 555
วันที่สี่ จันทร์ที่ 16 ออกจากแม่ลายไปเที่ยวผาช่อ ไปถึงผาช่อจุดจอดรถที่หนึ่ง เจ้าหน้าที่ถามว่ามีบัตรเข้าอุทยานหรือยัง แล้วก็แนะนำว่าผู้สูงอายุ
ไปจอดรถที่ลานจอดรถสาม ขากลับจะได้ไม่ต้องขึ้นบันไดมาทางนี้ ง่ายกว่า ตอนแรกเราก็ว่าไม่เป็นไร ไหว แต่พอเดินลงบันไดไปสักหน่อย เปลี่ยนใจค่ะ คิดถึงตอนกลับขึ้นมา 555 (สรุปเจ้าหน้าที่เขาดูหน้าเราออกแล้วว่าผู้สูงอายุ )
บ่ายๆก็ไปศูนย์วิจัยเกษตรหลวง ขุนวาง ชมพญาเสือโคร่ง จากปีที่แล้วไปเชียงราย เจอแต่ต้นโกร๋น ปีนี้สมใจมาก อากาศกำลังสบายๆ
คืนนี้นอนที่แม่แจ่ม ค่าที่พัก 500 ห่างจากกิ่วแม่ปาน 30 กว่าโล ถ้านอนใกล้ ที่พักแต่ละแห่ง สองพันขึ้น
วันที่ห้า อังคารที่ 17 วันนี้ไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน 3.2 กม. เราสองคนเดินไปถ่ายรูปไป (พักเหนื่อยไปในตัว) ใช้เวลาไปเกือบสามชั่วโมง หลังจากลงมาก็ไปกินข้าว แล้วก็ขึ้นไปด้านบนต่อ ไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ระยะสั้นๆ ฝั่งตรงข้ามก็เป็นจุดสูงสุดแดนสยาม
เวลาเหลือเราก็ไปต่อที่โครงการอนุรักษ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ ขับไปขับมาน้องหลับ เราก็ขับเกินทางเลี้ยว 555 (โทษน้องว่าหลับ ทำให้หลงไปนิ๊ดดด เกินไปไม่กี่กิโล)
ต้นนี้อยู่ริมถนน ตรงที่จอดรถ เราว่าถ้าตรงนี้เว้นไว้ ไม่ให้จอดรถน่าจะเป็นจุดถ่ายรูปกับพญาเสือโคร่งตัวหย่ายยยได้สวยเลย
สวนสตอเบอรี่ที่ลำปาง เลยได้ซื้อกลับบ้านหนึ่งกล่อง พร้อมส้ม สามกิโล
จบทริปเที่ยวเชียงใหม่ ด้วยค่าน้ำมัน 8,000 ค่าที่พัก 3,500 ค่าอาหารจำไม่ได้ล่ะ ไม่น่าจะเกินสองพัน
ทริปแรกของปี 2023 เที่ยวเชียงใหม่ 13 - 16 มกราคม 2566 อุทยานแห่งชาติออบหลวง และที่อื่นๆ
วันที่หก พุธที่ 18 อุทยานแห่งชาติออบหลวง ช่องแคบเขาขาด (ผาจูบกัน) เป็นสถานที่ที่ไม่ได้อยู่ในแผน ก่อนไปไม่รู้จักที่นี่ ระหว่างค้นสถานที่เที่ยวกับดูแผนการเดินทางเห็นชื่ออุทยานออบหลวง เลยจับเข้าแผนเที่ยววันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับได้พอดี
เสียค่าเข้าอุทยาน น่าคนละ 20 บาท ไม่เสียค่ารถเข้า เพราะเอารถจอดด้านนอก ( เดินเพิ่ม 100 เมตร )
เดินต่อไปสักพักก็เจอภาพเขียนผนังโบราณ บอกน้องไว้ว่าจะมาแค่นี้ แต่ไหนๆขึ้นมาแล้ว เราต้องไปต่อค่ะ ทางเดินไม่มีบอกระยะทางนะคะ ว่าเดินอีกกี่เมตรถึงจุดชมวิว มีแค่ป้ายลูกศร และไม่ได้มีทุกจุดนะคะ
เดินไปเรื่อยๆค่ะ แล้วก็ปีน ไต่ขึ้นไป ตามก้อนหิน กินก้อนใหญ่ปีนง่าย (แต่ตอนลงก็จำไม่ได้ขึ้นทางไหน ค่อยๆถอยลงบ้าง เดินลงบ้าง)
วิวด้านบนค่ะ ว่าจะนั่งนานๆ ชมวิว ให้สมกับที่ปีนขึ้นมาด้านบน แต่ก็ไม่ได้นั่ง เสียดายอยู่เหมือนกัน (เหนื่อยมาก ขาล้าเลย)
อยากได้รูปมุมนี้บ้าง มองแล้วมองอีกจะตั้งกล้องตรงไหนแล้ววิ่งไปทันบ้าง แหะๆมองยังไงก็ไม่มีทางทัน 10 วินาที
เดินลงค่ะ ค่อยๆไต่ลงไป ถอยหลังลงบ้าง นั่งลงแล้วกระดืบๆไปบ้าง ทำไมมันสูงจัง ตอนขึ้นไม่รู้สีกเท่าไรเลยว่าสูง เดินกลับมาถึงสะพาน ขาสั่นเลยค่ะ เมื่อยมาก
สองฝั่งสะพาน
รูปนี้ให้น้องถ่ายจากด้านล่าง (เธอเห็นฉันไหม? ให้น้องขยาดดูหนึ่งรูป) นางแบบสวยเลย ตอนมองไม่เห็นหน้า
ลงมาแล้ว เพิ่งดูเส้นทางเดิน ว่าเดินเป็นวงกลมได้ (แต่ด้านบนมีป้ายบางเส้นทางบอกว่าปิดเนื่องจากทางชำรุด) เราเดินถึงแค่จุดที่ 5
กินข้าวด้านหน้าอุทยาน ด้วยความหิว สั่งสองอย่างเลย ไก่อบครึ่งตัว ชุดน้ำพริกหนุ่ม ข้าวเหนียว หนึ่ง เหลือเกือบทุกอย่างเลย ใส่กล่องกลับไปกินต่อมื้อเที่ยง (ณ ตอนนี้ก็ยังเหลือ ไก่หนึ่งชิ้น ไข่ต้มอีกสองซีก ต้องขจัดมื้อหน้า)
อิ่มแล้วก็ออกเดินทางกลับ คิดว่าวันนี้คงไม่ถึงบ้าน แน่ๆ แต่ยังไม่รู้จะนอนที่ไหนดี ขับเรื่อยๆ ถึงนครสวรรค์ก็ห้าโมงกว่า ก็เลยตัดสินใจว่าไม่ค้างล่ะ ขับยาวเข้าบ้านเลยดีกว่า (มีของแถมก่อนกลับบ้านด้วย ขับรถเร็วเกินกำหนด เสียค่าปรับเรียบร้อย หลังๆเราก็ว่าขับรถไม่เกินกฎหมายกำหนดนะ แต่ก็คงมีบ้าง หรือเป็นช่วงแซงพอดีก็ไม่รู้ เสียใจ คิดว่าประหยัดค่าโรงแรมไปได้หนึ่งคืนแล้วเชียว รถแต่ละคันที่โดนเรียกก็ป้าย กทมแทบทุกกันเลย มีเพื่อนเยอะ) ถึงศรีราชาเกือบๆสามทุ่ม
สรุปว่าตกทุงหญ้าสะวันนาไป ลืมสนิท และขุนช่างเคี่ยนกลัวว่าถ้าขึ้นไปวันอาทิตย์คงสวนกับรถที่กลับ แล้วจะหักหลบลำบาก เพราะเท่าที่อ่านมาบอกว่าทางไปแคบมาก
เที่ยวเชียงใหม่
วางแผนไว้ ประมาณ 1 อาทิตย์ (รวมวันเดินทางไป-กลับ อีก 2คืน) ขาไปคงจะนอนแถวกำแพงเพชร หรือลำปาง เช้าไปดอยอินทนนท์
ชมดอกพญาเสือโคร่งที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ขุนวาง โครงการอนุรักษ์กล้วยไม้รองเท้านารี เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ตัวเมืองเชียงใหม่ แม่ริม สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ ม่อนแจ่ม ขุนช่างเคี่ยน แม่กำปองหรือแม่ลาย ดอยแม่โถ ทุ่งหญ้าสะวันนา ขากลับกะว่านอนนครสวรรค์ดูว่าจะมีแรงขึ้นเขาหน่อไหม แต่พอวันเดินทางจริงก็ไม่เหมือนที่ตั้งใจไว้ ที่ที่วางแผนไว้ไม่ได้ไป
วันแรก ศุกร์ 13 (ฝันหวาน) มกราเดินทางออกจากบ้าน เจ็ดโมงเช้า น้อง(สะใภ้)แวะไปหาพ่อที่บางพระ เดินทางจริงๆก็เกือบแปดโมงเช้า ขับไปเรื่อยๆ ตั้งแผนที่ไว้ไปดอยอินทนนท์ก่อน แล้วระหว่างทางถึงตรงไหนเย็นๆค่อยหาที่พัก แต่ไปถึงเร็ว เลยเปลี่ยนใจไม่ค้าง
หาโรงแรม คืนวันศุกร์ วันเสาร์ รู้สึกว่าจะเต็ม และแพง เลยเปลี่ยนแผนไปนอนตัวเมืองเชียงใหม่ วนหาโรงแรมกว่าจะได้ก็เกือบหกโมงเย็น เดินออกไปหามื้อเย็น แล้วไปเที่ยวคลองแม่ข่า คนเยอะ รถติด (น้องที่โรงแรมบอกว่าเดินไปไม่ไกล อย่าเอารถไปเพราะรถติด)
คลองแม่ข่า
ตั้งใจว่าจะนอนที่นี่คืนเดียว เช้าอีกวันเก็บของออกไปแล้ว แต่คิดดูแล้วถ้าไปนอนนอกเมืองคืนวันเสาร์คนน่าจะเยอะ แพงด้วย ห้องพักคืนละ 590 มีอาหารเช้า เตียงนอนสบาย ไวไฟแรง ตอนเย็นวันเสาร์เลยกลับมานอนอีกคืนนึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันที่สอง เสาร์ 14 มกรา ออกไปเที่ยว สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์
วนกลับเข้าเมือง จะไปถนนนิมมานเหมินทร์ หาร้านนั่งเล่น ไปถึงหาที่จอดไม่ได้ กลับค่ะ เข้าที่พัก แล้วค่อยเดินออกมาหาอะไรกิน เย็นๆก็ไปคลองแม่ข่าอีกครั้ง เมื่อวานไปถึงค่ำเกิน
วันที่สาม อาทิตย์ 15 วันนี้ตั้งใจไปนอนที่แม่ลาย สโลว์ไลฟ์สักหนึ่งวัน ออกเดินทางแบบสบายๆ ไปถึงก็ไปแม่กำปองก่อน ขาขึ้นรถไม่เยอะเท่าไร มีรถสวนขาลงเยอะพอสมควร วนรถเข้าไปแม่กำปอง เจอรถติดในหมู่บ้าน นักท่องเที่ยวเยอะ ขับรถต้องระวังทั้งรถสวน และคนเดินในหมู่บ้าน ไปไม่ถึงน้ำตกแม่กำปองก็เลี้ยวรถกลับ ไปที่แม่ลาย โทรถามที่พักหลายๆแห่งแล้วล่วงหน้า ส่วนใหญ่ก็ว่าง ไม่ได้จองล่วงหน้า เราเลือกพักที่แม่เกตุ ไปถึงแม่เกตุไม่อยู่ จอดรถไว้ไปเดินเล่น ไปคลายคาเฟ่
ไม่ได้เดินไปเที่ยวที่ไหนเลย นอกจากคลายคาเฟ่ เช้าตื่นขึ้นมาปวดเมื่อยไปทั้งสองคน ที่นอนแข็งมาก ถามทางแม่เกตุ เกตุบอกว่าใช้แบบนี้ทุกโฮมสเตย์เลย เรารู้สึกถึงความสูงอายุของตัวเองเพิ่มเลย 555
วันที่สี่ จันทร์ที่ 16 ออกจากแม่ลายไปเที่ยวผาช่อ ไปถึงผาช่อจุดจอดรถที่หนึ่ง เจ้าหน้าที่ถามว่ามีบัตรเข้าอุทยานหรือยัง แล้วก็แนะนำว่าผู้สูงอายุ ไปจอดรถที่ลานจอดรถสาม ขากลับจะได้ไม่ต้องขึ้นบันไดมาทางนี้ ง่ายกว่า ตอนแรกเราก็ว่าไม่เป็นไร ไหว แต่พอเดินลงบันไดไปสักหน่อย เปลี่ยนใจค่ะ คิดถึงตอนกลับขึ้นมา 555 (สรุปเจ้าหน้าที่เขาดูหน้าเราออกแล้วว่าผู้สูงอายุ )
บ่ายๆก็ไปศูนย์วิจัยเกษตรหลวง ขุนวาง ชมพญาเสือโคร่ง จากปีที่แล้วไปเชียงราย เจอแต่ต้นโกร๋น ปีนี้สมใจมาก อากาศกำลังสบายๆ
คืนนี้นอนที่แม่แจ่ม ค่าที่พัก 500 ห่างจากกิ่วแม่ปาน 30 กว่าโล ถ้านอนใกล้ ที่พักแต่ละแห่ง สองพันขึ้น
วันที่ห้า อังคารที่ 17 วันนี้ไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน 3.2 กม. เราสองคนเดินไปถ่ายรูปไป (พักเหนื่อยไปในตัว) ใช้เวลาไปเกือบสามชั่วโมง หลังจากลงมาก็ไปกินข้าว แล้วก็ขึ้นไปด้านบนต่อ ไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ระยะสั้นๆ ฝั่งตรงข้ามก็เป็นจุดสูงสุดแดนสยาม
เวลาเหลือเราก็ไปต่อที่โครงการอนุรักษ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ ขับไปขับมาน้องหลับ เราก็ขับเกินทางเลี้ยว 555 (โทษน้องว่าหลับ ทำให้หลงไปนิ๊ดดด เกินไปไม่กี่กิโล)
ต้นนี้อยู่ริมถนน ตรงที่จอดรถ เราว่าถ้าตรงนี้เว้นไว้ ไม่ให้จอดรถน่าจะเป็นจุดถ่ายรูปกับพญาเสือโคร่งตัวหย่ายยยได้สวยเลย
สวนสตอเบอรี่ที่ลำปาง เลยได้ซื้อกลับบ้านหนึ่งกล่อง พร้อมส้ม สามกิโล
จบทริปเที่ยวเชียงใหม่ ด้วยค่าน้ำมัน 8,000 ค่าที่พัก 3,500 ค่าอาหารจำไม่ได้ล่ะ ไม่น่าจะเกินสองพัน