ทริปที่รอมานาน "กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์"
จริงๆ ดอกอินทนนท์นี่ เวเลซเคยไปมาหลายครั้ง แต่ไม่มีโอกาสได้ไปที่กิ่วแม่ปานซักที

ก่อนหน้านั้นก็ไปหน้าหนาว แต่มีหลายอย่างไม่อำนวย รวมทั้งเวลาไม่พอด้วย
ส่วนสามปีที่แล้วก็ไปดอยอินทนนท์อีก แต่ไปช่วงหน้าฝน ทางเดินกิ่วแม่ปานปิด
ได้แต่มองทางเข้ากิ่วแม่ปานตาปริบๆ

ทริปครั้งนี้ ตั้งใจมากิ่วแม่ปานโดยเฉพาะ ส่วนที่เที่ยวที่อื่นๆ ก็ถ้าผ่านแล้วเวลาได้ ก็แวะค่ะ
เริ่มเลยทริปกันเลยค่ะ

เราเซตทริปนี้ก่อนวันเดินทางไม่ถึงสองอาทิตย์
เที่ยวรถจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ ที่เวลาเหมาะกับเรา หาไม่ได้เลย 
ไม่เป็นไร ไม่ลงเชียงใหม่ก็ได้  เอาลำพูนนี่แหละ ต้องมีตั๋วสิ
และแล้วเราก็ได้เที่ยวรถที่ใช่ กรุงเทพ-ลำพูน



เดินทางออกจากกรุงเทพ ตอนค่ำของวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ถึงขนส่งลำพูนประมาณหกโมงเช้า
เปลี่ยนชุด ล้างหน้าแปรงฟัน ที่ห้องน้ำของขนส่งดลำพูน
เอิ่ม เข้าไปใช้ห้องน้ำ ตอนแรกก็อึ้งๆไป หยักไย่และฝุ่นเต็มเลย ที่แขวนของก็ไม่มี
เอาหน่ะ ห้องน้ำใช้ได้ก็โอเคละ 
ภาพภายในสถานีขนส่งจังหวัดลำพูน ก็จะเหงาๆนิดนึง


แล้วเราก็รอรถเช่าที่เราติดต่อไว้
ก่อนไปหาข้าวเช้ากินกัน
อ่านจากรีวิว เค้าบอกเช้าเราต้องไปกินต้มเลือดหมู จิงจูฉ่าย ร้านเฮียชัยนครลำพูน
ขับผ่านหน้าร้าน อ้าว ไม่มีที่จอด งั้นไปจอดในวัดใกล้ๆแล้วกัน

วัดมหาวันวนาราม วัดสวยจังเลย ดอกไม้สำหรับไหว้พระก็สวย



ต้มเลือดหมูจิงจูฉ่าย


อิ่มแล้ว เดินทางต่อ
เราตรงขึ้นไปดอยอินทนนท์เลยค่ะ 
น้ำตกวชิรธาร



สวยเนอะ วิวดีงาม
ไปเดินเล่นต่อที่หมู่บ้านแม่กลางหลวง
คนส่วนใหญ่ที่มา จะมาดื่มกาแฟ และเดินไปน้ำตกผาดอกเสี้ยว
ซึ่งครั้งก่อนที่มาที่บ้านแม่กลางหลวง เวเลซไปน้ำตกผาดอกเสี้ยวแล้ว
ครั้งนี้ก็เลยจะเดินเล่นรอบๆหมู่บ้านแทน
สิ่งที่ลืมคิดไปคือ หมู่บ้านนี้ อยู่บนเขา
โอ้ การเดินรอบหมู่บ้าน มันช่างใช้พลังงานเยอะจริงๆ 
เดินจนหิวเลย




เราเห็นป้ายร้านอาหาร เลยเดินไป ก็ไกลอยู่ พอไปถึง เค้าบอกไม่มีอาหารขาย
ถ้าจะกินอาหารต้องออกไปนอกหมู่บ้าน
ดูจากระยะทางที่เราเดินมา แล้วต้องเดินกลับไปเอารถอีกนี่ จะเป็นลม
ต้องขอบคุณที่มีร้านของคุณป้า ตรงแถวร้านกาแฟสมศักดิ์ช่วยชีวิต
มีทั้งข้าวโพด ข้าวแคบ น้ำอัดลม รอดแล้วเรา


จากนั้นเราก็ไปต่อที่ พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ (กม.41.5)
ใครที่จะมาพระธาตุ ต้องจอดรถที่ลานจอดที่เลยจากทางเข้าพระธาตุไปประมาณ 500 เมตรค่ะ
จะมีรถสองแถวรับส่งระหว่างลานจอดรถ-พระธาตุ ฟรี
ค่าธรรมเนียมเข้าชมพระธาตุ คนไทยคนละ 50 บาท
อากาศกำลังสบายเลย
ที่นี่ ดอกไม้สวยๆทั้งนั้น  
คาเมเลีย

โคมญี่ปุ่นหลากสี

ไฮเดรนเยียช่อโตๆ

ซักพักฝนตก คราวนี้หมอกเต็มไปหมดเลยค่ะ  ฟิน

เวลายังเหลือ เราเลยขึ้นไปที่อ่างกากันต่อ (กม.48)
ที่นี่เป็นจุดสูงสุดของดอยอินทนนท์ 
มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ สองเส้น
เส้นแรกจะอยู่ตรงป้ายจุดสูงสุดแดนสยาม เส้นนี้เดินนิดเดียวค่ะ
เส้นนี้ทางออกจะไปออกแถวๆร้านกาแฟ


ร้านกาแฟร้านนี้ก็อร่อยนะคะ ทำเร็วด้วย

อากาศ 13 องศา กับกาแฟร้อนๆนี่มันดีงามจริงๆ



อีกเส้น เราเรียกว่า เส้นอ่างกาค่ะ ทางนี้ระยะทาง 300 เมตร
จะมีต้นไม้ที่หาดูยาก อย่าง ต้นข้าวตอกฤาษี 

รวมถึงมอส เฟิร์น กูดแฉก ที่เกาะอยู่บนต้นไม้ เหมือนต้นไม้ห่มผ้าไว้


เราค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ ละเอียดดูต้นไม้จนถึง 5 โมงเย็นเลยค่ะ

แล้วเราก็ลงมาพักที่พักแถวที่ทำการฯ (กม.31)
ครั้งก่อนที่มา พักที่ที่พักของอุทยานฯ 
ครั้งนี้เปลี่ยนมาพักของเอกชนกันบ้าง เกือบจะไม่ได้พักที่นี่แล้ว
โชคดีที่คนที่จองก่อนหน้า ยกเลิกห้องไป
เราพักที่ บ้านยีลี อินทนนท์ อยู่ติดกับทางเข้าน้ำตกสิริภูมิ
ห้องพักก็สะอาดดี มีเครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้แก๊ส
ราคาที่พัก เค้ารวมอาหารมื้อเย็น (หมูกะทะ) และมื้อเช้าแล้วค่ะ

วิวหน้าห้องพัก