ปิดเบอร์เติมเงิน แล้วมีเงินเหลือค้างอยู่ เรามีสิทธิ์ได้เงินคืนใช่มั้ย แต่ทำไมดีแทคไม่คืนให้?

กระทู้คำถาม
เรื่องของเรื่องคือ ยายเราเป็นแม่ชีอยู่ที่วัด อายุ 83 ปี ยายแก่มากแล้ว แกอยากปิดซิมเติมเงินของดีแทคที่ใช้มา 10 กว่าปี เพราะแกจะเปิดใช้เบอร์มงคลเบอร์ใหม่แทน แต่ยังมีเงินค้างอยู่ในซิม 260 บาท เลยอยากได้เงินคืนออกมา
เราเลยพายายไปที่ ช้อปดีแทค สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ เพื่อปิดซิมและขอเงินคืน แต่พนักงานดีแทคบอกว่า “ไม่สามารถนำเงินออกมาได้ ต้องรอซิมหมดอายุ แล้วค่อยกลับมาดำเนินการใหม่”
เรากับยายก็งง ว่าทำไมต้องรอนานขนาดนั้น เพราะดูจากในแอปแล้ว มันแจ้งว่า จะหมดอายุ 26 ก.ค. 66 อีกตั้ง 6 เดือน
ยายก็ย้ำถามว่า “ทำไมไม่ได้ล่ะลูก เงินก็เป็นของยาย ที่เติมใส่เข้าไป ทำไมต้องรอนานขนาดนั้น” พนักงานก็บอกคำเดิม “รอซิมหมดอายุค่ะ”
เราเลยถามพนักงานว่า “แล้วพอจะมีวิธีอื่นเอาเงินออกมาได้ไหมคะ แบบที่ไม่ต้องรอนานขนาดนั้น”
พนักงานบอก “โอนเงินไปให้คนอื่นแทน ที่เป็นซิมเติมเงินดีแทค”
เราแบบ อิหยังวะ เงินของยายแท้ๆ จะโอนไปให้คนอื่นใช้เพื่ออะไร ยายแกอยากได้เงินของแกคืนแค่นั้นเอง 
ที่เรารู้มาคือ มันสามารถขอเงินคืนได้เลยไม่ใช่หรอ ค่ายมือถือจะดำเนินการให้ ภายใน 30 วัน อาจจะได้คืนเป็นเงินสด หรือเป็นเช็ค อะไรแบบนั้น 
เราเลยเดินไปถามที่ ช้อปของเอไอเอส เพราะอยากรู้ว่าค่ายอื่นจะเหมือนกันมั้ย ได้คำตอบว่า ถ้าเงินค้างในระบบเติมเงิน ให้เอาบัตรประชาชนตัวจริง กับ ซิม มาติดต่อที่ช้อปได้เลย ถ้ายอดไม่ถึง 500 บาท ก็รับเงินสดที่หน้าเค้าเตอร์ได้เลย แต่ถ้าเงินในซิมเกิน 500 ให้ถ่ายหน้าสมุดบัญชีธนาคารมา เอไอเอสจะโอนเงินคืนเข้าบัญชีของเราภายใน 30 วัน ไม่รู้ของทรูเป็นไงนะ 
เลยงงว่า ทำไมดีแทค ถึงไม่มีขั้นตอนที่จะคืนเงินให้ลูกค้าแบบตรงไปตรงมา
ไปถามเพื่อนๆ บางคนก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน พวกมันก็ยอมปล่อยให้ดีแทคเอาเงินที่เหลือไป เพราะขี้เกียจรอและต้องหาโอนเงินไปซิมอื่นให้ยุ่งยากแบบไร้เหตุผล
อยากฝากไปยังดีแทค ว่าเงินที่เติมเข้าไปก็เงินของลูกค้า แต่ทำไมไม่ดำเนินการคืนให้ ไม่ต้องถามถึงเรื่องจำนวนหรอกนะว่ามันน้อยหรือเยอะ เพราะค่าของเงินคนเรามันไม่เท่ากัน ยายเป็นแม่ชี ไม่ได้มีอาชีพอะไร แกก็อยากได้เงินแกคืน ทำไมถึงไม่ช่วยเหลือลูกค้าที่ใช้งานค่ายตัวเองมานานเป็นสิบปี หรือเพราะยายจะปิดเบอร์ เลยไม่สนใจอีกต่อไป
ใครเคยเจอแบบนี้บ้าง ฝากแชร์ไปให้ถึงค่ายดีแทคด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่