ภาพการถอยหลังลงคลองของกรมสรรพากร ผ่านประสบการณ์ e-filing ปีภาษี 2565 (ยืนปี 2566)

ปีนี้ขอบอกว่าช้ามากๆ เรายื่นไปตั้งแต่ 4 ม.ค. กทม.พื้นที่ 6 จนวันนี้ จนท.ยืนยันว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลซื้อ RMF ในระบบจาก บลจ.บัวหลวง ก็เลยยังไม่สามารถทำคืนภาษีให้ได้ 
 
ได้คุยกับ จนท. สรรพากรพื้นที่หลายรอบ แจ้งว่าปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม คือ กรณีที่ยื่นลดหย่อน RMF/SSF สรรพากรจะรอข้อมูลหลักฐานการซื้อหน่วยลงทุนในระบบที่ทาง บลจ.ส่งเข้ามาที่สรรพากรเท่านั้น เพื่อพิจารณาคืนภาษี ไม่สามารถอ้างอิงจากหนังสือรับรองการซื้อฯ จากผู้ยื่นภาษี (นอกจาก RMF/SSF รายการเบี้ยประกันต่างๆ ก็ต้องรับข้อมูลรับรองจากบริษัทประกันด้วยเหมือนกัน แต่กรณีของเรา ประกันก็จัดส่งข้อมูลให้สรรพากรได้เร็ว ยกเว้น ทิพยประกันภัย กับกรุงเทพประกันภัย มีล่าช้า แต่ก็ไม่ได้แย่เท่ากรณี บลจ.บัวหลวง) 

เบื้องต้นความล่าช้าเกิดที่ บลจ.บัวหลวง ในขณะที่การซื้อหน่วยลงทุนเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2565 เดาว่าไม่มีการเตรียมพร้อมระบบการส่งข้อมูลเข้าไปให้สรรพากรทันทีเมื่อขึ้นปี 2566 และ จนท บลจ ก็ยืนยันว่าจะจัดส่งข้อมูลให้สรรพากรได้วันที่ 23 ม.ค. นี้เท่านั้น คือ ด้อยประสิทธิภาพแบบไม่น่าเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในยุคสมัยที่เทคโนโลยีมาไกลมากแล้ว และการแข่งขันของธุรกิจ บลจ. ก็เข้มข้น

พอไปกดดันที่ บลจ.บัวหลวง ในที่สุดก็แจ้งว่าส่งข้อมูลให้สรรพากรไปแล้วตั้งแต่ 12 ม.ค. เพราะ สรรพากรตั้งเงื่อนไขให้ส่งข้อมูลภายใน 15 ม.ค. 
อ้าว อ้าว อ้าว ข้อมูลเปลี่ยนไปอีก เท็จจริงอย่างไรไม่รู้ 

แล้วกลับไปกดดันที่ สรรพากรเขตต่อ จนท. ก็โยนให้ไปสอบถามจากส่วนกลาง โทรไป Call Center ไม่ติด โทรไปกองบริหารการเสียภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ ก็ตอบว่าไม่รู้ ไม่ใช่หน่วยงานรับผิดชอบ มีหน้าที่ไปร่วมประชุมรับฟังแผนเฉยๆ ไม่รู้ว่าจะแนะนำให้ไปคุยกับใคร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแผนงานในส่วนนี้คืออะไร หนักข้อไปอีก บอกว่าจะ Upload ได้กลางเดือน ก.พ. คือบ้าบอปานนั้นเลย ... ตอนนี้คือ ทำใจ เคยคิดว่ากรมสรรพากรนี้ล้ำหน้าหน่วยราชการอื่นๆ ไปมากแล้ว ตอนนี้คือ ถอยหลังลงคลองมากๆ ... ถ้าระบบยังไม่พร้อมก็ไม่ต้องรีบเปลี่ยนกฏมั้ย แบบนี้มัน Transformation แบบปลอมๆ

ไม่แน่ใจว่า บลจ. อื่นๆ ก็เป็นแบบนี้ด้วยมั้ย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่