ผู้ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่เป็นประจำน่าจะเห็นดราม่าหนึ่งอยู่เนืองๆ นั่นคือ กรณีการอ้างสิทธิ์ของประเทศกัมพูชาในวัฒนธรรมด้านต่างๆ ของประเทศไทยว่าประเทศกัมพูชาเป็นต้นแบบ ส่วนประเทศไทยนั้นลอกหรือขโมยวัฒนธรรมไปจากประเทศกัมพูชา

ประเด็นนี้หลายท่านอาจจะเห็นมามากต่อมากแล้ว และก็มีผู้ให้ความเห็นและอ้างข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ ไปมากแล้ว จนคนจำนวนมากรวมทั้ง จขกท. รู้สึกว่า "ปล่อยไปเถอะ" ให้เป็นเรื่องสนุกๆ ในอินเทอร์เน็ตไปดีกว่า

ทว่าในช่วงปีที่ผ่านมา มีคนตั้งข้อสังเกตและวิตกกังวดว่า ประเด็นดังกล่าวอาจจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ สนุกๆ กันอีกต่อไป กลุ่มคนดังกล่าวได้แสดงความเห็นในทำนองว่า การอ้างสิทธิ์หรือ Claim วัฒนธรรมของกัมพูชานั้นอาจจะมีการกระทำกันอย่างเป็นขบวนการ ให้ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตที่อาจไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยยึดหลักที่ว่า "หากตอกย้ำ ผลิตซ้ำข้อมูลไปเรื่อยๆ แม้จะไม่จริง สักวันความคิดชุดนั้นก็จะกลายเป็นความจริง" และคนกลุ่มนี้ยังได้กล่าวว่า ตอนนี้มีชาวต่างชาติจำนวนมากเข้าใจผิดกันแล้ว ไปตามข้อมูลที่นำเสนอ พร้อมยกตัวอย่างกรณีเขาพระวิหาร และการขึ้นทะเบียนโบกาตอร์ของ UNESCO ซึ่งส่วนนี้ จขกท. เคยตั้งกระทู้ไปแล้วด้วยในทำนองที่ว่า ฝรั่งเศส (ซึ่งมีบทบาทในระดับโลกและใน UNESCO พอสมควร) อาจสนับสนุนกัมพูชาก็เป็นได้ และคนกลุ่มดังกล่าวก็อยากให้กระทรวงวัฒนธรรมไทยทำงานให้มากกว่านี้ในประเด็นดังกล่าว

ในส่วนที่ยกไปแม้จะเป็นเพียงข้อสังเกต ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่ามีขบวนการดังกล่าวมีจริงหรือไม่ มีความเข้าใจผิดเกิดขึ้นแล้วมากน้อยเพียงใด และประเทศ อื่นๆ เช่น ฝรั่งเศสสนับสนุนกัมพูชาจริงหรือไม่ แต่ถ้าข้อสังเกตนี้เป็นจริง ก็ถือว่าน่ากังวลไม่น้อย

เลยอยากถามความเห็นครับว่า ประเด็นเรื่องวัฒนธรรมระหว่างไทยและกัมพูชาจะเป็นประเด็นใหญ่ในอนาคตหรือไม่ แล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงวัฒนธรรมควรทำอย่างไร และคนทั่วไปควรรับสื่อหรือมีความเห็นในประเด็นนี้อย่างไรครับ

รบกวนช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ หากมีส่วนใดที่เข้าใจผิดหรือผิดพลาดไปก็ขออภัยด้วยครับ
หมายเหตุ: กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นทางวิชาการ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์อื่นใดทั้งสิ้น