สวัสดีค่ะ ตอนนี้มีปัญหาเรื่องที่บ้านที่คิดมาสักพักแล้ว เลยอยากมาฟังความคิดเห็นโดยรวมค่ะ
ตอนนี้เรากับแฟนทั้งคู่อายุ 30+ แต่งงาน กำลังจะมีลูก ทั้งคู่มีงานทำอาชีพมั่นคง มีเงินเก็บ รายได้ระดับกลางๆ

เดิมเราอาศัยอยู่กับแม่ ซึ่งเป็นบ้านเก่าของพ่อกับแม่ พ่อแม่เลิกกัน พ่อไปมีครอบครัวใหม่ เราจึงอาศัยอยู่กับแม่ 2 คน แต่ก่อนหน้าพ่อได้เอาบ้านไปจำนองและกำลังโดนยึด เราจึงซื้อบ้านนี้กลับมาด้วยเงินเราเองคนเดียว และ renovated บ้านใหม่ทั้งหมด แม่อายุประมาณ 60 ไม่มีเงินเก็บใดๆ และไม่ได้ทำงานแล้ว จึงเป็นเราทั้งหมดในเรื่องเงินและการทำบ้าน เราให้เงินเดือนแม่อารมณ์เหมือนจ้างแม่เป็นแม่บ้านดูแลบ้านให้ตอนไปทำงานแทน

ปัญหาเกิดเมื่อเราแต่งงาน กำลังจะมีลูก สามีเป็นคนต่างจังหวัด และเห็นว่าเราอยู่กับแม่แค่ 2 คน เลยย้ายเข้าบ้านเราแทน แรกๆทุกอย่างก็ดูลงตัว วางตัวแม่ไว้ให้เตรียมตัวเลี้ยงหลาน แต่พออยู่กันไปสักพักก็เริ่มจะมีปัญหา

1. ปัญหาจากตัวเราเอง เดิมคือเราไม่ค่อยอยู่บ้าน ตั้งแต่ช่วงเรียนก็อยู่หอ ช่วงทำงานบางทีก็เช่าคอนโดอยู่ ไม่ค่อยกลับบ้าน ตั้งแต่ซื้อบ้านมาทำใหม่ก็ทะเลาะกันเรื่องบ้าน เราอยากได้ minimal style ด้วยความเป็นเงินเราเองทั้งชีวิต และ 100% ก็อยากได้สวยๆตามใจตัวเอง แต่ต้องทะเลาะกับฮวงจุ้ยต่างๆของแม่ กว่าบ้านจะเสร็จก็เสียน้ำตากันไปเยอะ ซึ่งตอนนี้ก็ยังคงมีปัญหาอยู่ รวมถึงตอนนี้เราท้องกำลังมีลูกเลยย้ายงานกลับมาอยู่บ้านถาวรแทน ก็ทะเลาะกับแม่บ่อยขึ้น ทั้งเรื่องการทำความสะอาดบ้าน หรือความคิดหลายๆอย่างที่เห็นไม่ตรงกัน (เราค่อนข้างไม่เชื่อเรื่องที่มองไม่เห็น เน้นเหตุผล แต่แม่คือบูชาทุกศาสตร์) ปกติก็ไม่ค่อยคุยกันอยู่แล้ว พอมาอยู่บ้านด้วยกันบ่อยๆ มันเลยไม่ลงรอยกัน จนหลายๆครั้งอยากจะไปซื้อบ้านอีกหลัง หรือหนีๆไป แต่ผ่อน 2 ที่ก็ไม่ไหวจริงๆ

ความสัมพันธ์ของเรากับแม่ไม่ได้ดีมากอยู่แล้ว จากความทรงจำเราเรื่องความรุนแรงทั้งร่างกายและคำพูด / ตอนเรียนตั้งแต่มัธยมเราทำงาน part time กู้กยศ. ขอทุนโรงเรียนและคณะ ได้ญาติช่วยเรื่องเงินมาตลอด เลยไม่ได้รู้สึกว่าเป็นบุญคุณมากมาย

2. เมื่อสามีเข้าบ้านมา สามีเป็นคนเฟรนลี่มากๆ เป็นนักเรียนนอกหัวสมัยใหม่ คุยเล่นกับครอบครัวของเขาเป็นปกติ ดันคุยกับแม่แล้วมีปัญหา เพราะแม่เราหาว่าเขาเยอะใส่ การคุยเล่นของเขาเหมือนไปย้อน ไปกวนเขา ไม่พอใจกันอีก สามีช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านของเราโดยให้เงินเป็นก้อน มาจ่ายค่าน้ำไฟ หรือให้แม่เราก็แล้วแต่เรา ฝั่งบ้านสามีทุกคนยังทำงานอยู่ เขาไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือ แถมกลับเป็นแม่สามีที่ช่วยเหลือพวกเราแทน ช่วยเรื่องลูกเราเยอะมาก เราเกรงใจสามีเรื่องนี้มาก

3. แม่มีอะไรไม่พูดไม่เคลียร์ เก็บ แล้วไปอึดอัดน้อยใจ ขอเหตุผลก็เลือกหนี ทำให้ไม่มีปัญหาไหนเคลียร์จบเลย แม่อยู่บ้านเกือบ 24 ชั่วโมง ไม่ออกไปไหน ตอนนี้ให้แม่ช่วยดูแลบ้าน ต้นไม้ ซักผ้ารีดผ้า และทำกับข้าวเฉพาะมื้อเช้าให้ (ซึ่งทั้งหมดนี้เราทำกันเองได้ แต่อยากให้เขามีอะไรได้ทำบ้าง) เขาชอบเก็บของเก่าเช่นกระป๋อง กล่อง ถุงพลาสติก ไว้เผื่อรีไซเคิลใช้ จนเต็มบ้าน (ซื้อของดีๆให้ใช้ ก็ไม่กล้าใช้ เอาไปเก็บแทน) ล่าสุดเราเอาไปทิ้งบางส่วน เกิดทะเลาะกันหาว่าเป็นการไล่เขาออกจากบ้าน (ก่อนหน้านี้เคยขอให้ทิ้งหลายอย่างแล้ว เขาก็ไม่ทิ้ง บอกว่าจะใช้ แล้วเขาก็เอาของไปเก็บในห้องนอนตัวเองแทน) หรือเขาทำกับข้าวแล้วเค็มมาก บอกไปก็เหมือนไม่พอใจว่าเยอะอีก

ตอนนี้ยังมีทางแก้คือหลบหน้ากันบ้าง หนีขึ้นห้องนอนตัวเอง จะได้ไม่เจอกันบ้าง แต่กังวลว่าหลังลูกคลอดที่ต้องเจอกันตลอด หรือต้องให้แม่มามีส่วนช่วยเลี้ยง น่าจะต้องมีปัญหาตามมาแน่ๆ เบื้องต้นเราดูพี่เลี้ยงเอาไว้ด้วยอีกทาง เรากังวลว่าเราและสามีจะมีปัญหากับแม่จนทำให้ครอบครัวเรามีปัญหากัน เราควรทำอย่างไรดีคะ หรือควรพูดกับเขายังไง เราคิดถึงขนาดจะพาทุกคนไปปรึกษาจิตแพทย์ หรือไม่ก็ขายบ้านซื้อใหม่ ทุกคนจะได้รู้สึกต้องปรับตัวจัดระเบียบกันใหม่ จะให้แม่ไปอยู่คนเดียวใจก็ยังไม่กล้าพอเพราะแม่เราไม่มีใคร ไม่มีเงินเก็บ ติดบ้านไม่ค่อยออกไปไหนไม่มีกลุ่มสมาคมอะไร ขับรถไม่ได้ แต่ถ้าอยู่ไปแบบนี้ถ้าแม่ไม่ปรับตัวเราก็ไม่มีทางเลือกอื่นเลย

ปล. เรามีพี่ชาย แต่พี่ชายเราก็แต่งงานออกไปก่อน และไปอยู่บ้านภรรยาเขา ซึ่งก็ไม่รู้จะช่วยเรายังไงเหมือนกันค่ะ

รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ