หนูกับแฟนเราคบกันตั้งแต่วัยรุ่น จนมาตอนนี้อายุ 30 . หนูกับแฟนอายุห่างกัน 2 ปี. ชีวิตคู่มีทั้งทุกข์และสุข ตามวัยอายุ. ตลอดเวลาที่คบกัน หนูกับแฟนกล้าพูดว่า ตัวติดกัน ไปไหน ทำอะไร หรือมีเรื่องอะไร จะพูดคุยกัน. หนูคบกับเขา เขาเป็น เพื่อน พี่ แฟนเวลาเดี่ยวกัน. หนูจะทำอะไร เครียด ทุกข์ใจ จะเคื้องอะไรก็ตาม หนูจะบอกเขาทุกข์เรื่อง. ทุกอย่างเราเป็นแบบนี้มาตลอด. เวลามีปัญหากันขนาดไหน คือยังมาคุยหรือหาตรงกลาง. แต่ถ้าถามว่า ถ้าเราไปเที่ยวหรือแฟนไปเที่ยวกับเพื่อน มีหึงหวงไหม ทั้งหนูกับแฟน ให้สิทธิ์ในการไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่มีการหึงหวง หรือตามจิกอะไร ชีวิตคู่ปกติทุกอย่างค่ะ ส่วนเรื่องครอบครัวคือเราใช้ชีวิตครอบครัว เขามาอยู่กับครอบครัวหนู ครอบครัวหนูมีมากกว่าเขา แต่พ่อแม่หนูก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องนี้ พ่อแม่เขามาขอแต่งงาน พ่อแม่หนูก็บอกว่าไม่ต้องแต่งหรอก เงินส่วนนั้นให้พวกหนูสร้างครอบครัวดีกว่า พ่อแม่หนูขอแค่ให้เขารู้จักสร้างต่อจากที่พ่อแม่สร้าง รู้จักทำมาหากินพอ และเราก็อยุ่ด้วยกัน เขามาอยู่กับฝั่งหนูเขาช่วยที่บ้านหนูทำงาน เรามีรายได้จากที่เขาช่วยที่บ้าน แฟนทำงานช่วยที่บ้านแต่เขาให้หนูอยู่ที่บ้าน เป็นแม่บ้าน เขาคือผู้หาเงิน ส่วนรายรับที่เข้ามา หนูกับแฟนใช้กระเป๋าเดียวกัน ส่วนค่าใช้จ่าย ในบ้านทางพ่อแม่หนูเขารับผิดชอบ ถ้าพูดง่ายๆคือพวกหนูรายรับเท่าไหร่ รับผิดในตัวเองกันแค่นั่นพอ ในบ้านหรือเรื่องพ่อกับแม่ พวกหนูไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ครอบครัวบ้านหนูมีพี่น้อง 3 คนทุกคนมีครอบครัวกันแล้ว เวลาพ่อแม่ไม่สบาย ถึงลูกจะช่วยค่ารักษาหรือซื้ออะไรก็ตาม พ่อแม่แกจะไม่เอา แกบอกว่า แกเก็บเงินของพวกแกแล้ว ลูกๆไม่ต้องให้ แค่ลูกๆเอาเงินที่หามาได้ รับผิดชอบในตัวเองและครอบตัวเองพอ เวลาจะใช้เงินของเราคือจะบอกกันตลอดเพราะเราใช้กระเป๋าเดียวกัน จนมาช่วงเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา เราได้เปลี่ยนไปใช้ชีวิตกับทางบ้านแฟนบ้าง ทางบ้านแฟน เขามีพี่น้อง 4 คน ทุกคนทำงานส่งเงินให้แม่กัน เพราะแม่เขาไม่สบาย เป็นเบาหวาน ความดัน และไต ต้องไปโรงพยาบาลทุก 2 วัน. ทุกคนเลยส่งเงินช่วยแม่กัน เหตุผลนี้เลยให้หนูกับแฟนย้ายมาใช้ขีวิตที่บ้านเขาบ้าง ก่อนจะมาเราคุยกันว่า ถ้ามีรายได้เข้ามา แฟนจะใช้จ่ายอะไร เราจะใช้อะไร หรือช่วยแม่มากน้อยอย่างไรบอกกันนะ เพราะรายรับเข้ามา เราใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน เราต้องคุยกันนะ ส่วนเรื่องไร คือต้องบอกหรือพูดคุยกันนะ เพราะสิ่งที่หนูกลัวที่สุดคือการมีปัญหาเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้ เลยขอแฟนแค่นี้ ก่อนจะไปเราตกลงกัน พอไปอยู่จริงๆ แฟนไปรับจ้างทั่วไปหารายได้ ส่วนหนูอยุ่บ้านกับแม่เขา เราไม่ต้องออกไปทำงาน แค่อยุ่บ้าน ทำในครัวพอ แรกๆก็ปกติดีค่ะ พอผ่านมา 10 วัน เงินที่เขาทำงานได้ เริ่มเก็บคนเดียว เราจะใช้อะไรคือขอเงินเขา ไม่มีการบอกอะไร พี่น้องเขา ตอนแรกคือส่งเงินข่วยที่บ้านปกติ พอเรามาอยุ่ ทุกคนส่งบ้าง ไม่ส่งบ้าง ค่าใช้จ่ายแม่เขาในบ้านเขา คือเราสองคน ตอนแรกหนูก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะรายรับคือเขาหา เราแค่ช่วยกันประหยัดสิ่งไม่จำเป็นออกไปบ้าง เพื้อช่วยค่าใช้จ่ายเขา แต่ความคิดเรื่องลดค่าใช้จ่าย มีแต่เราที่คิด ในครอบครัวแฟน แม่แฟน ทุกคนตรงกันข้าม กับข้าวในบ้าน คือเราทำกัน ไม่มีกินข้าวนอกบ้าน แต่พอหลังๆ แฟนเก็บเงิน ไม่มีบอกหรือคุยกัน แม่แฟนก็เริ่มหากับข้าวนอกบ้านกิน ไปกินร้าน แฟนเราทำงานหรือทำอะไรก็ตาม เริ่มไม่มีบอกหรือคุยกัน เขาเก็บเงินคนเดียว รายรับเข้ามาคือหนูไมุ่้ยอดเงินเลย หนูจะใช้จ่ายคือขอเงินเขา พอเราเริ่มพูดคุย เริ่มใส่อารม พอเราจดรายรับจ่ายในบ้านเขาว่าเราใช้จ่ายแต่ล่ะเดือน เราใช้เงินกี่บาท พอเขาเห็น เขาก็คิดว่าเรามีความคิดไม่เหมือนใคร จดทำไม พอเราตอบเขาว่า จดเพื่อรู้ค่าใช้จ่าย เพราะถ้าเราสองคนกลับมาอยุ่บ้านหนู เราได้คำนวนถูก พี่น้องทุกคนหารกัน ข่วยกัน ได้ไม่หนักเรื่องเงินของแค่ล่ะคน เราตอบเขาไป เขาก็ตอบเรามาเหมือนเราขี้งก ไม่เข้าใจเขา หลังจากเราพูดคุยกัน หนูเงียบไม่พูดอะไร ทั้งเงินรายรับหรือเขาจะใข้จ่ายอะไร พอเราเงียบ จากตอนแรกเขาเพื่อนไม่มาบ้าน พอเราเงียบ ไปๆมาๆเพื้อนมากันวันล่ะ 10 คน เราก็เงียบ รายรับรายจ่ายเร่ไม่ถาม พอเราไม่ถาม แฟนเราก็เริ่มไม่สนใจเรา เิ่มใช้ชีวิตเหมือนคนที่ไม่มีครอบครัว เริ่มอยุ่กับเพื่อน รายรับเข้ามาคือไม่บอก พอเราขอให้เขานอนดูหนังกับเราบ้าง เขาก็เริ่มตอบเราว่า เขาก็อยุ่ล่ะ เขาอยุ่บ้านไม่ได้ไปไหนนิ แต่พอหลังจากตอบเรา เขาก็ไปนั่งกับเพื่อน เริ่มไปไหนไม่บอก เริ่มออกเที่ยว ทิ้งเราอยุ่บ้าน จากตอนแรกชีวิตที่คบกัน ไม่เคยคิดมากและระแวงแฟนเลย แต่ครั้งนี้เราคิดมากจริงๆค่ะ คือนิสัยเขาเปลี่ยนไปมาก เราถามเขาว่า มีอะไรรึป่าวมีใครใหม่ไหม หรือปิดบังอะไรหรือเปล่า ทำไมเปลี่ยนไป. เขาตอบเราแค่ไม่มี แต่คำตอบเรามีแค่ไม่มี พอเราถามเรื่องที่เราสงสัย เพื้อให้เขาอธิบาย เพื่อให้เราคลายเรื่องคิดมาก ซึ่งเราถามอะไรไป เขาตอบได้ค่ะ แต่คำตอบเขา เราถาม ทุกครั้งไม่เหมือนกัน และเขาตอบแค่ ไม่มีอะไร เขาไม่ได้ทำไรผิด เราคิดมาเอง. แทนที่เขาตอบเราไม่ได้ เขาก็ควรทำให้เราสบายใจบ้าง แต่กลับทำคัวปกติ เราคิดมากเรื่องไร ระแวงเรัองไร ก็ก็ทำเหมือนเดิม ใข้ชีวิตแบบเดิม เรานอนร้องทุกคืน เขาก็ว่าเราคิดไปเอง แต่การคิดมากของเรา แทนที่เขาจะทำให้เราสบาย ไม่ระแวงหรือคิดมากเขาทำเหมือนไม่สนใจ เขาทำตัวปกติ เขาตอบแค่ เขาไม่ได้ทำไรผิดหรือมีอะไรปิดบัง เขาจะกลัวอะไร ชีวิตหนูจากคนที่ไม่เคยระแวง ก็ระแวง จากที่ตอนแรกเราใช่ชีวิตสบายมีความสุข ก็ทะเลาะทุกคน มีปัญหากันจนจะเลิกกัน แต่หนูก็ขอร้องเขา และเป็นแบบนี้มาตลอดจนเรากลับบ้าน มาอยู่บ้านหนูกัน หนูก็ถามเขาอีกรอบเรื่องที่สงสัย แต่ก่อนถามเขา หนูได้ไปแอบถามเพื่อนที่มาเที่ยวกับเขาในจำนวน 10 คนนั่น หนูได้คำตอบหลายๆอย่างจากเพื่อนเขา ทั้งเรื่องเงิน เขาหามาได้ เขาแอบเก็ยไว้ เหมือนมีรายได้มา 1000 เขาบอกหนู 200 บาท แต่ถ้าถามหนูว่าเชื่อเพื่อนเขาไหม หนูถามเขาก็จริง แต่หนูแค่ฟังเพื่ออยากรุ้คำตอบแฟนบ้าง ตอนแรกเขาตอบว่า ไม่และเราคิดไปเอง แต่พอมาวันหนึ่ง เราหมดความอดทนจริงๆ เราถามอีกรอบ เขาตอบเหมือนเดิมอีก เราก็ตอบเขาว่า เพื่อน 10 คน มี 1 คนเล่า แบบนี้จริงไหมที่เขาเล่า หลังจากเราถาม เขาพูดออกมาบ้าง แต่ไม่หมด ตรงตามที่เพื่อนเขาเล่าให้เราฟัง พอเราถามเขาเรื่อยๆ เขาก็เริ่มคิดว่าเราหาเรื่อง หรือจะผิด ระแวงมากไป เขาทำไรก็ไม่ดี ทำไรก็ผิด สอ่งที่ถามคืออดีต เอาอดีตมาคิดมาก. หลังจากที่ฟังเขาพูด ในใจหนูก็ไม่เหมือนเดิมจริงๆค่ะ คือในตัวหนูคิดว่าเขาเห็นแก่ตัว คนเราผิดไม่ผิด ทำไมเมื่อรุ้แฟนคิดมาก ไม่ทำให้เขาสบายใจ เขาก็รุ้เราทุกข์ใจ นอนร้องทุกคืน จากไม่เคยคิดระแวงกลับระแวง พอเราถามทำเหมือนเราคิดมาก ไม่อธิบายหรือพูดให้อธิบายในสิ่งที่เราถามเลย แต่กลับโยนความผิดมาให้เรา ว่าคิดมาก คิดไปเอง เอาแต่ใจ พอเราบอกว่าเพื่อนเขาบอก ทำไมถึงหบถดอธิบายหรือพูด คำตอบเขาตรงตามเพื่อนบอก แค่ตัวเราคิดทันทีเลยว่า ทำไมต้องให้เราถามคนอื่น ทำไม ไม่ตอบเรา ก่อนที่คนอื่นจะตอบที่เราถาม ในหัวในใจกลับกลายเป็นไม่เชื้อึำพูดหรือไว้ใจเขาแบบเดิมได้เลย คิดมาตลอดว่า ยังมีที่ปิดบังอีกไหม แล้วไหนคือความจริง จนไม่ไว้ใจ ความรุ้สึกอยากเลิก กลัวว่าอนาคตเราจะทำไงไว้ใจเขาแบบเดิมอีก ในหัวเราแบบไม่ไว้ใจ ทุกข์ใจมากเลยค่ะ ยิ่งมาบ้านเรา นิสัยที่บ้านเขา เงินรายรับกี่บาท เขาทำแบบเดิม ถ้าว่าหนูคิดมาก ไม่หรอกค่ะ หนูแอบทดสอบเขา แบบแอบอยากรุ้ว่า เขาโกหกเราไหม สิ่งที่ทดสอบ คือทำนิสัยแบบที่บ้าน เงินทอง รายรับไม่ตรงเลย ตอนแรกเราคิดว่า เร่ไม่ให้อะไรหือเขาใช้อะไรหรอถึงทำแบบนี้ แต่ที่คบกัน เขาเดือดร้อน เรายืนข้างเขา เราหาเงินให้เขา โดยเขาไท่ต้องให้คีอบครัวเขาช่วยเหลือ พี่น้องเขา พ่อแม่เขา เรามีเงิน เราช่วยทุกครั้ง จะเรื่องอะไรก็ตาม ยิ่งเรีองเงิน ส่วนเสื้อผ้าของใช้เขา เราใส่เสื้อตลาดนัด เขาใส่เสื้อแบรนด์ เราซื้อให้ เพื่อให้เจาใช้ของดี เวลาถึงคราวหนูเดือดร้อน คนที่ช่วยคือพ่อแม่เรา ครอบครัวเขาไม่เคยช่วย ตัวเราไม่มีขอมาช่วยเรา ตอบเราแค่ครอบครัวเขาไม่มี มีแต่คีอบครัวเรา หนูยังหาคำตอบเรื่องนี้ไม่ได้เลย เขาทำไปเพื่ออะไร ไหนหรอคำพูดจริง ความรุ้สึกไม่ไว้ใจ บางครั้งอยากเลิกมีในหัว แต่ติดตรงความผูกพันธ์ เป็นแบบนี้ตั้งแต่อยุ่บ้านเขาจนกลับมาบ้านและมาถึงทุกวันนี้ หนูควรทำไง กลัวอนาคตที่เราระแวงเขา กลัวอนาคตที่เป็นแบบนี้อีก แล้วไหนความจริง หนูทำไงดีค่ะ เลิกไหมหรือปล่อยผ่าน คือคบกัน 11 ปี ช่วง 5 เดือนเท่านั่นที่เขาเปลี่ยนไป ก่อนหน้านั้นเขาเป็นแฟนที่ดีตลอด แต่ 5 เดือนจริงๆที่เปลี่ยนไป แล้วที่เปลี่ยนไป คือนิสัยจริงเขาพึ่งออกรึป่าว สับสนจริงๆค่ะ
ชีวิตคู่ 11 ปี เหมือนจะรู้นิสัยกันหรือพูดกันทุกเรื่อง ยิ่งคนนานยิ่งไม่เหมือนเดิม