สิบกว่าปีมานี่ อธิบาย บอกสอนสลิ่มเกี่ยวกับเรื่องที่ดินรัชดาไปไม่รู้กี่สิบครั้งแล้ว
แต่วนลูปมั่วมาอีกตลอด ก็อปมาแปะ แปะแบบไม่รู้เรื่อง ไม่มีความเข้าใจอะไรสักนิด
โดนหลอก โดนปั่นมาไง ก็ก็อปมาเย้ว ๆ ไปตามนั้น ไม่เคยสืบค้นข้อเท็จจริง ไม่รู้เรื่องข้อกฎหมาย
น่าสงสารครับ
แตกประเด็นจาก
https://ppantip.com/topic/41825811/comment3
1. เรื่องคำว่า "เมียซื้อ ผัวเซ็นชื่อ ผัวติดคุก"
เรื่องนี้ สลิ่มไม่เคยทำความเข้าใจว่าข้อเท็จจริงคือยังไง แค่ก็อปมาแปะตลอดชาติสลิ่ม
สลิ่มร้อยทั้งร้อย จะเข้าใจว่า ทักษิณเซ็นชื่อซื้อที่ดินรัชดา แต่ความจริงไม่ใช่
ข้อเท็จจริงคือ คุณหญิงพจมานเป็นผู้ประมูล ชนะการประมูล เมื่อชนะการประมูล ก็ต้องตามด้วยการทำนิติกรรมซื้อ-ขาย-โอน
ในทางกฎหมาย สามี หรือ ภริยา จะทำนิติกรรมใด ๆ ต้องให้คู่สมรสลงนามเซ็นชื่อยินยอม เพื่อให้นิติกรรมนั้น ๆ สมบูรณ์ตามกฎหมาย
ดังนั้น เมื่อคุณหญิงพจมาน จะทำสัญญาซื้อ และรับโอนที่ดินรัชดา จึงต้องให้สามี คือทักษิณ ลงนามเซ็นชื่อยินยอม
ทักษิณก็เซ็นให้ ตรงนี้แหละ ที่ศาลฎีกาฯบอกว่า นั่นคือทักษิณทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ฝ่าฝืนกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 100
พิพากษาจำคุกสองปี ไม่รอลงอาญา
สาธุชนทั้งหลาย ยกเว้นสลิ่ม จะเห็นตรงกันว่า บทลงโทษนี้รุนแรงเกินไป
อย่างมากหากจะว่าผิด ก็ควรรอลงอาญา เพราะเนื้อหาของคดี ผู้ซื้อไม่ผิด ผู้ขายไม่ผิด ไม่มีใครฉ้อโกง
ทักษิณ ในฐานะนายกรัฐมนตรีไม่ได้ใช้อำนาจใด ๆ แทรกแซงการประมูล แค่ลงนามเซ็นชื่อให้เมียซื้อขายและโอนที่ดินเท่านั้น
นั่นแหละ คำว่า เมียซื้อ ผัวเซ็น ผัวติดคุก จึงเกิดขึ้น
และเรื่องที่ดินรัชดานี่ หากทักษิณไม่เซ็น ก็ซื้อขายกันได้ โอนกันได้
แต่เพราะทักษิณเห็นว่า ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย จึงได้ลงนามไปตามกฎหมายเพื่อให้นิติกรรมสมบูรณ์
2. ในการต่อสู้คดี การอ้างถึงกฤษฎีกา ก็เพื่อแสดงให้ศาลเห็นว่า
การกระทำของทักษิณในการลงนามเซ็นชื่อนั้น ไม่ใช่ "เจตนาทุกจริต" แต่ทำตามคำแนะนำของกฤษฎีกา
ในทางอาญา จะถือเรื่อง "เจตนา" เป็นหลัก ถ้าไม่มีเจตนา ไม่ผิด ยกเว้นการกระทำที่กฎหมายระบุไว้ว่าต้องรับผิด
เช่น ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ขับรถชนคนตายโดยประมาท (อุบัติเหตุ) ฯลฯ
ก็คิดดู กฤษฎีกา ก็ล้วนเป็นนักกฎหมายเก่ง ๆ ผู้พิพากษาก็นักกฎหมาย แล้วทำไมเห็นไม่ตรงกัน ???
กฤษฎีกาว่าทำได้ แต่ผู้พิพากษาบอกว่าผิด ถ้าใครเป็นทักษิณก็คงมึนตึ๊บ
อย่างเรื่องหวยบนดิน รัฐบาลทักษิณปรึกษากฤษฎีกาฝ่ายกฎหมาย ที่มีนายวิษณุ เครืองาม เป็นประธาน
ก็บอกว่ารัฐบาลสามารถทำได้ แล้วเป็นไงล่ะ ผลก็คือ ศาลบอกว่ารัฐบาลทักษิณผิด
นายวิษณุ แม้ไม่ผิดด้วย แต่ไม่เคยเอ่ยปากเรื่องนี้อีกเลย
3. เรื่องว่า กองทุนฟื้นฟูสถาบันการเงินเป็นหน่วยงานของรัฐหรือไม่
เรื่องนี้ เป็นมุมมองที่แตกต่าง ระหว่างฝ่ายทักษิณ กับ ศาลฎีกาฯ
ฝ่ายทักษิณเห็นว่า กองทุนฟื้นฟูฯ จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ธปท. อยู่ในการกำกับดูแลของ ธปท. มีสถานะเป็นนิติบุคคล
มีคณะกรรมการบริหารจัดการ ไม่ได้ขึ้นกับส่วนราชการใด ๆ
แต่ศาลฎีกาฯ อ้างเรื่อง พรบ.หน่วยงานของรัฐมา "ครอบจักรวาล" ว่ากองทุนฟื้นฟูฯ เป็นหน่วยงานของรัฐ
และชี้ว่า นายกรัฐมนตรี (ทักษิณ) เป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยงานของรัฐทุกหน่วย เมื่อลงนามย่อมถือว่าทำสัญญา ผิด
ตรงนี้แหละคือประเด็นใหญ่
เมื่อศาลบอกว่า กองทุนฟื้นฟูฯ เป็นหน่วยงานของรัฐ แค่นี้ไม่พอ ต้องบอกว่าทักษิณกำกับดูแลด้วย ถึงจะผิด
ตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 100 ที่บัญญัติว่า
ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ที่เจ้าหน้าที่รัฐนั้นกำกับดูแลตรวจสอบควบคุมสั่งการ
ประเด็นก็คือ ทักษิณ ในฐานะนายกฯ มีอำนาจกำกับดูแลสั่งการตรวจสอบกองทุนฟื้นฟูฯ จริงหรือไม่ ?
ซึ่งข้อเท็จจริงก็คือ ไม่ กองทุนมีคณะกรรมการบริหาร เป็นไปตามกฎหมาย ธปท. รัฐบาลไม่เกี่ยว
นายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจสั่งการ ควบคุม ฯ ใด ๆ เลย
แต่ด้วยการ "ครอบจักรวาล" ว่า นายกฯ มีอำนาจกำกับดูแลหน่วยงานของรัฐทุกหน่วย ทักษิณต้องผิด
หึหึ สุดท้าย หลังจากกองทุนฟื้นฟูฯ คืนเงินให้คุณหญิงพจมาน 772 ล้านพร้อมดอกเบี้ย
ก็ขายทีดินรัชดาให้พฤกษา ไม่เห็นต้องขออนุมัติจากรัฐบาล ไม่เห็นต้องรายงานหน้าไหน
แล้วนายกรัฐมนตรีมีอำนาจกำกับดูแลยังไง ???
.
ทั้งหมดทั้งมวลของคดีที่ดินรัชดา ก็คือ การเมือง 100000000000000 %
.
มีอีกเยอะเรื่องที่ดินรัชดานี่ เถียงกันทีไร สลิ่มก็แถข้าง ๆ คู ๆ มาตลอดสิบกว่าปี
ถึงวันนี้ ก็ยังมีสลิ่มที่ไม่รู้เรื่อง ไม่มีความเข้าใจ ก็อปแปะมาโพสต์อยู่เป็นประจำ
ก็เลยต้องตั้งกระทู้นี้ เพื่อโปรดสลิ่มอีกครั้ง อาจเป็นครั้งที่ร้อยแล้วก็ได้
หวังว่าคงไม่ต้องตั้งกระทู้โปรดเรื่องนี้นะครับคุณหลิ่ม
เปลืองหล่อฟร่ะ
มีเรื่องให้โปรดส...ลิ่มอีกแล้ว เฮ้อออ.....
แต่วนลูปมั่วมาอีกตลอด ก็อปมาแปะ แปะแบบไม่รู้เรื่อง ไม่มีความเข้าใจอะไรสักนิด
โดนหลอก โดนปั่นมาไง ก็ก็อปมาเย้ว ๆ ไปตามนั้น ไม่เคยสืบค้นข้อเท็จจริง ไม่รู้เรื่องข้อกฎหมาย
น่าสงสารครับ
แตกประเด็นจาก https://ppantip.com/topic/41825811/comment3
1. เรื่องคำว่า "เมียซื้อ ผัวเซ็นชื่อ ผัวติดคุก"
เรื่องนี้ สลิ่มไม่เคยทำความเข้าใจว่าข้อเท็จจริงคือยังไง แค่ก็อปมาแปะตลอดชาติสลิ่ม
สลิ่มร้อยทั้งร้อย จะเข้าใจว่า ทักษิณเซ็นชื่อซื้อที่ดินรัชดา แต่ความจริงไม่ใช่
ข้อเท็จจริงคือ คุณหญิงพจมานเป็นผู้ประมูล ชนะการประมูล เมื่อชนะการประมูล ก็ต้องตามด้วยการทำนิติกรรมซื้อ-ขาย-โอน
ในทางกฎหมาย สามี หรือ ภริยา จะทำนิติกรรมใด ๆ ต้องให้คู่สมรสลงนามเซ็นชื่อยินยอม เพื่อให้นิติกรรมนั้น ๆ สมบูรณ์ตามกฎหมาย
ดังนั้น เมื่อคุณหญิงพจมาน จะทำสัญญาซื้อ และรับโอนที่ดินรัชดา จึงต้องให้สามี คือทักษิณ ลงนามเซ็นชื่อยินยอม
ทักษิณก็เซ็นให้ ตรงนี้แหละ ที่ศาลฎีกาฯบอกว่า นั่นคือทักษิณทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ฝ่าฝืนกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 100
พิพากษาจำคุกสองปี ไม่รอลงอาญา
สาธุชนทั้งหลาย ยกเว้นสลิ่ม จะเห็นตรงกันว่า บทลงโทษนี้รุนแรงเกินไป
อย่างมากหากจะว่าผิด ก็ควรรอลงอาญา เพราะเนื้อหาของคดี ผู้ซื้อไม่ผิด ผู้ขายไม่ผิด ไม่มีใครฉ้อโกง
ทักษิณ ในฐานะนายกรัฐมนตรีไม่ได้ใช้อำนาจใด ๆ แทรกแซงการประมูล แค่ลงนามเซ็นชื่อให้เมียซื้อขายและโอนที่ดินเท่านั้น
นั่นแหละ คำว่า เมียซื้อ ผัวเซ็น ผัวติดคุก จึงเกิดขึ้น
และเรื่องที่ดินรัชดานี่ หากทักษิณไม่เซ็น ก็ซื้อขายกันได้ โอนกันได้
แต่เพราะทักษิณเห็นว่า ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย จึงได้ลงนามไปตามกฎหมายเพื่อให้นิติกรรมสมบูรณ์
2. ในการต่อสู้คดี การอ้างถึงกฤษฎีกา ก็เพื่อแสดงให้ศาลเห็นว่า
การกระทำของทักษิณในการลงนามเซ็นชื่อนั้น ไม่ใช่ "เจตนาทุกจริต" แต่ทำตามคำแนะนำของกฤษฎีกา
ในทางอาญา จะถือเรื่อง "เจตนา" เป็นหลัก ถ้าไม่มีเจตนา ไม่ผิด ยกเว้นการกระทำที่กฎหมายระบุไว้ว่าต้องรับผิด
เช่น ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ขับรถชนคนตายโดยประมาท (อุบัติเหตุ) ฯลฯ
ก็คิดดู กฤษฎีกา ก็ล้วนเป็นนักกฎหมายเก่ง ๆ ผู้พิพากษาก็นักกฎหมาย แล้วทำไมเห็นไม่ตรงกัน ???
กฤษฎีกาว่าทำได้ แต่ผู้พิพากษาบอกว่าผิด ถ้าใครเป็นทักษิณก็คงมึนตึ๊บ
อย่างเรื่องหวยบนดิน รัฐบาลทักษิณปรึกษากฤษฎีกาฝ่ายกฎหมาย ที่มีนายวิษณุ เครืองาม เป็นประธาน
ก็บอกว่ารัฐบาลสามารถทำได้ แล้วเป็นไงล่ะ ผลก็คือ ศาลบอกว่ารัฐบาลทักษิณผิด
นายวิษณุ แม้ไม่ผิดด้วย แต่ไม่เคยเอ่ยปากเรื่องนี้อีกเลย
3. เรื่องว่า กองทุนฟื้นฟูสถาบันการเงินเป็นหน่วยงานของรัฐหรือไม่
เรื่องนี้ เป็นมุมมองที่แตกต่าง ระหว่างฝ่ายทักษิณ กับ ศาลฎีกาฯ
ฝ่ายทักษิณเห็นว่า กองทุนฟื้นฟูฯ จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ธปท. อยู่ในการกำกับดูแลของ ธปท. มีสถานะเป็นนิติบุคคล
มีคณะกรรมการบริหารจัดการ ไม่ได้ขึ้นกับส่วนราชการใด ๆ
แต่ศาลฎีกาฯ อ้างเรื่อง พรบ.หน่วยงานของรัฐมา "ครอบจักรวาล" ว่ากองทุนฟื้นฟูฯ เป็นหน่วยงานของรัฐ
และชี้ว่า นายกรัฐมนตรี (ทักษิณ) เป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยงานของรัฐทุกหน่วย เมื่อลงนามย่อมถือว่าทำสัญญา ผิด
ตรงนี้แหละคือประเด็นใหญ่
เมื่อศาลบอกว่า กองทุนฟื้นฟูฯ เป็นหน่วยงานของรัฐ แค่นี้ไม่พอ ต้องบอกว่าทักษิณกำกับดูแลด้วย ถึงจะผิด
ตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 100 ที่บัญญัติว่า
ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ที่เจ้าหน้าที่รัฐนั้นกำกับดูแลตรวจสอบควบคุมสั่งการ
ประเด็นก็คือ ทักษิณ ในฐานะนายกฯ มีอำนาจกำกับดูแลสั่งการตรวจสอบกองทุนฟื้นฟูฯ จริงหรือไม่ ?
ซึ่งข้อเท็จจริงก็คือ ไม่ กองทุนมีคณะกรรมการบริหาร เป็นไปตามกฎหมาย ธปท. รัฐบาลไม่เกี่ยว
นายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจสั่งการ ควบคุม ฯ ใด ๆ เลย
แต่ด้วยการ "ครอบจักรวาล" ว่า นายกฯ มีอำนาจกำกับดูแลหน่วยงานของรัฐทุกหน่วย ทักษิณต้องผิด
หึหึ สุดท้าย หลังจากกองทุนฟื้นฟูฯ คืนเงินให้คุณหญิงพจมาน 772 ล้านพร้อมดอกเบี้ย
ก็ขายทีดินรัชดาให้พฤกษา ไม่เห็นต้องขออนุมัติจากรัฐบาล ไม่เห็นต้องรายงานหน้าไหน
แล้วนายกรัฐมนตรีมีอำนาจกำกับดูแลยังไง ???