ตั้งแต่สหรัฐประกาศช่วยเหลืออูเครนเพิ่มเติม และพวกนาโตประกาศให้อาวุธอูเครนมากขึ้น 

มีการรับประกันว่า ยุทโธปกรณ์ที่ให้ไปทั้งหลายนั้น สามารถสกัดขีปนาวุธของรัสเซียได้

รัสเซียทดลองคำคุยของสหรัฐและนาโตโดยการยิงถล่มเมืองหลวงด้วยขีปนาวุธอิสกันเดอร์ไป 3 ลูก 

ปรากฎว่ายุทโธปกรณ์ที่ให้มาสกัดไม่ได้ 
แถมยังไม่สามารถรู้ได้ว่าขีปนาวุธของรัสเซียยิงมาจากที่ไหน 

อูเครนถามไปยังนาโตว่า อ้า นายครับ มันยิงมาจากไหนกันแน่ครับ ดาวเทียมของพวกนายจับความเคลื่อนไหวของไอ้ทั้ง 3 ลูกนี่ได้ไหมครับ

พวกนาโตสั่นหัวดิก บ้างก็ทำนายทายว่ามาจากรัสเซีย บ้างก็ว่ามันน่าจะถูกยิงมาจากเบลารุส 

ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทราบแหล่งที่ยิง
ทั้งรัฐบาล และคนอูเครนกำลังอยู่ในอาการหวาดผวาหน้าซีดเผือด

กลัวว่ารัสเซียจะโจมตีเมืองหลวงอีก
ที่รัสเซียบุกหนัก เพราะตระหนักชัดเจนแล้วว่า สงครามครั้งนี้ ตนไม่ได้สู้กับอูเครน 
แต่กำลังรบกับสหรัฐและนาโต้

เป็นเหตุการณ์ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ 
สมัยฝรั่งเศสเป็นมหาอำนาจโลก พระเจ้านโปเลียนมหาราชก็ทรงให้ยกทัพมาตีรัสเซีย 
สมัยฮิตเลอร์เรืองอำนาจ ก็ให้กองทัพเยอรมันมาตีรัสเซีย

แต่แล้วก็แพ้รัสเซียในช่วงฤดูหนาวทั้งสองมหาอำนาจ

ที่เห็นไฟกำลังไหม้นั้น ไม่ใช่ฝีมือของขีปนาวุธอิสกันเดอร์ แต่เป็นขีปนาวุธธรรมดาถล่มโรงไฟฟ้ากรุงคีฟไป 28 ลูก

ส่วนภาพที่มีตึกสูงๆ คือเมืองดนีโปร (เยคาเตรีโนสลัฟ) ของอูเครน

ตอนนี้หน้าหนาว คนอูเครนขาดแคลนไฟฟ้าไม่มีเครื่องทำความอบอุ่นให้ประชาชน 
ถึงตอนนี้ เซเลนสกีอยากจะขอเจรจายุติสงคราม แต่สหรัฐไม่ยอม 

คนที่กำลังกลัดกลุ้มรุมรุกทุกข์ทรมานบานตะไทนัยนาบ้าบอคอแตก-ดูดจนพูดอะไรไม่ถูกก็คือ นายเซเลนสกี ประธานาธิบดีอูเครน
ตอนแรกดันไปเชื่อสหรัฐว่า เมื่อนาโตทุกประเภทร่วมด้วยช่วยกัน ก็จะสามารถตีรัสเซียให้ม่อยกระรอกได้ภายในเวลาอันสั้น
แต่คำพูดที่ว่าจะชนะในเวลาอันสั้นไม่เป็นจริง
สงครามกลับลากยาวไปเรื่อยๆ จนอูเครนกำลังจะกลายเป็นซีเรีย 2 

ตึกรามบ้านช่องห้องหอพังวินาศสันตะโรอย่างที่เห็น

ถามคนรัสเซีย ได้รับคำตอบว่า…
โดยแท้ที่จริง เราไม่อยากให้มีสงคราม 
แต่เมื่ออูเครนลากอเมริกาและนาโตมาอยู่หน้าประตูบ้าน พร้อมที่จะทำลายรัสเซีย รัสเซียก็ต้องจัดการ

เดิมพวกตนอยากให้สงครามสงบจบไวๆ 
แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว….

เพราะไหนๆ ก็เสียหายเพราะสงครามแล้ว
ให้สงครามลากยาวเนิ่นนานบานออกไปดีกว่า รบกันต่อไปเพื่อใช้โอกาสของสงครามครั้งนี้ปรับสมดุลอำนาจโลกเสียใหม่ 

อยากให้มหาอำนาจเดี่ยวที่คอยยุแยงตะแคงรั่ว กดหัวประเทศเล็กชาติน้อยด้วยกฎเกณฑ์ที่ตัวเองและตะวันตกตั้งขึ้นมาเพียงฝ่ายเดียว 
ถูกลดความเชื่อถือลง



เครดิตบทความโดย : FBนิติภูมิธณัฐ