.."ฤทธิกิจการเมือง".. เป็นคำที่อาแปะดัดจริตประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่ออธิบายพฤติกรรมการชี้นำการเมือง ด้วยฤทธิอำนาจผ่านการวางหมากกลด้วยเงื่อนไขต่างๆผ่านข้อกฏหมาย  เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการครอบงำการเมืองด้วยกลุ่มบุคคล และ,หรือ บุคคล..

    คืออาแปะเห็นนักวิชาการเค้าคิดประดิษฐ์คำ"ธนกิจการเมือง"ขึ้นมา อาแปะก็เลยอยากคิดประดิษฐ์บ้าง
  ก็ด้วยความที่ชอบค้นคว้าทดลองชอบการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าหนะครับ   แต่การเปลี่ยนแปลงใดๆจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อมีทุกข์เนอะ ตราบใดที่มีทุกข์ตราบนั้นการแสวงหาสิ่งดับทุกข์ย่อมตามมา..
 

 โดยส่วนตัวอาแปะมองว่า ทั้ง"ธนกิจการเมือง" และ "ฤทธิกิจการเมือง"  เราคุ้นเคยรู้จักกันแล้ว ในชื่อของ"จตุสดมภ์" คือ เวียง วัง คลัง นา ..
 เวียง , วัง  อาแปะมองว่านี้จัดอยู่ใน "ฤทธิกิจการเมือง"..
 คลัง  ,  นา  อาแปะมองว่านี้จัดอยู่ใน "ธนกิจการเมือง"..
 
 ด้วยความที่ "เวียง วัง คลัง นา" เป็นระบบการเมืองแบบเก่า* จึงไม่ได้แยกพฤติกรรมแรงขับเคลื่อนการเมืองกันอย่างชัดเจน..
 ต่อมาเมื่อพ่อค้ามีบทบาทและโอกาสลงสนามการเมือง จึงได้เห็น "ธนกิจการเมือง"ชัดเจนขึ้น และการยกระดับสถานะของ"ฤทธิกิจการเมือง" ให้สูงขึ้นจนเป็นภาพลางๆที่ไม่ชัดเจน เรียกชื่อกันใหม่เป็นประชาธิปไตยxxx...

ฯลฯ..
 
 
อาแปะก็แค่อยากให้รู้จัก "ฤทธิกิจการเมือง"ไว้ก่อนเลือกตั้ง เพราะทั้ง"ธนกิจการเมือง" และ "ฤทธิกิจการเมือง" ก็ล้วนไม่เป็นผลดีกับประชาธิปไตยสมบูรณ์ที่ควรเป็นของอารยะชนคนไทยทั้งปวง...ก็เท่านั้น   จะเลือกพรรคไหน ก็พิจารณาให้ดีๆนะครับ..   

คนไทยบางกลุ่มมองเห็นแต่ ธนกิจการเมือง เพ่งโทษแต่ "ธนกิจการเมือง"  ...แต่กลับมองไม่เห็น "ฤทธิกิจการเมือง"...  อย่างนี้ก็ทำให้ชาติไม่พัฒนาเท่าที่ควรจะเป็นได้เหมือนกัน  เพราะถูกครอบงำด้วยวงจรของอำนาจแปลกๆ...นั่นเอง..

_{สวัสดีวันอาทิตย์สีแดง ต้องหาของแดงกิน..
ก็ได้หัวปลี ภานนอกแดง แต่ภายในขาวจั๊ว..
นี่ถ้าย้อนไปต้นกรุง อาแปะคงเสียภาษีต้นไม้ผลไม้เยอะแหง๋มๆ เพราะผลหมากรากไม้เต็มสวนอาแปะเลย..}