จากดราม่าของโอม ภวัต ที่เคยทำร้ายร่างกายเพื่อนที่เป็นออทิสติกสมัย ม ต้น เราว่ามันเป็นอะไรที่รุนแรงมากเลยนะ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะออกมาขอโทษผ่านทวิต แต่เราก็ไม่รู้ว่าคำพูดนั้นจะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งใช้คำว่าสมัยนั้นแสบ ซน คึกคะนองตามประสาเด็กผู้ชายด้วยคือเพลียมาก สำหรับเรา คำว่า แสบ ซน คึกคะนอง คือ แค่สำมะเลเทเมา ไม่สนใจเรียน โดดเรียนเก่ง ทำตัวผิดกฎระเบียบของโรงเรียนก็แค่นั้น อาจจะมีหยอกล้อเพื่อนบ้างนิดๆหน่อยๆแต่ถ้าไปจี้ปมเพื่อนก็จะขอโทษและไม่ทำอีก ซึ่งบางอย่างเราว่ามันดูปกติมากเลยนะเพราะกฎระเบียบของโรงเรียนบางอย่างมันดูโบราณไปหน่อยสำหรับยุคสมัยนี้ แต่การที่โอมไปกลั่นแกล้ง ทำร้ายเพื่อน ยิ่งเป็นเด็กออทิสติกนี่ สำหรับเรา เราว่าถ้าไม่เลวจริงทำไม่ได้แน่ เพราะเด็กออทิสติกเค้าจะไปสู้อะไรได้ เท่าที่อ่านมาจากทวิตคือเอาน้ำหวานรดใส่หัว ประหนึ่งลูกหยีเอาน้ำรดหัวลีลาในละครเรื่องไฟล้างไฟ เราอ่านแล้วของขึ้นเลยค่ะ แบบนี้เนี่ยนะเรียกว่าแสบซน? ส่วนตัวเราก็เป็นออทิสติกเหมือนกันค่ะ สมัย ม ต้น เราก็เคยโดนทำร้ายร่างกายและจิตใจสารพัดมาก ทั้งโดนรุมกระทืบ ถืบ เตะ ต่อย ตบหัว บิดหัวนม เหยียบมือ ไถเงิน ขโมยข้าวของ ฉีกหนังสือ การบ้าน จิกหัวใช้งานราวกับทาสในเรือนเบี้ย โชคดีที่เราไม่โดนถึงขั้นที่ว่าแม้แต่ครูยังร่วมมือกับพวกมันด้วย แต่ครูก็ทำได้แค่ตีเท่านั้น ซึ่งวัยนี่ค่อนข้างจะด้านไม้เรียวมากๆ มีอยู่ครั้งนึงเราโดนเพื่อนจับถอดเสื้อแล้วเอาเสื้อไปโยนทิ้งในแม่น้ำข้างโรงเรียน คือโรงเรียนเรามันเป็นโรงเรียนชายล้วนที่บรรดาครูทั้งหลายไม่ได้ถือสาที่นักเรียนจะมาถอดเสื้อนั่งเรียนหรือเดินไปไหนมาไหนในโรงเรียน เราก็เป็นเด็กผู้ชายที่ดูนุ่มนิ่มกว่าชายชาตรีทั่วไปแต่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นกะเทย (เรามาแกรนด์โอเพนนิ่งตอน ม ปลาย) ซึ่งตอนนั้นคือเราอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีเลยค่ะ คือด้วยความที่เราเป็นกะเทยแล้วมาโดนอะไรแบบนี้ เราแทบจะแทรกแผ่นดินหนีเลยค่ะ โชคยังดีที่เราใช้มารยาขอครูไปนอนห้องพยาบาลแล้วแอบไปซื้อเสื้อใหม่ที่สหกรณ์ จากนั้นก็ให้พ่อแม่เรามารับกลับบ้าน โชคดีที่ที่บ้านยังไม่รู้เรื่องนี้และไม่ผิดสังเกต เพราะเสื้อที่เราโดนถอดแล้วเอาไปทิ้งคือเสื้อพละ แล้วก็เพิ่งเปิดเทอม ม 1 ไปได้ไม่นาน ถ้าจับได้ เรื่องราวจะโกลาหลไปกว่านี้มาก แม้แต่เสื้อนักเรียนเราก็เคยโดนเพื่อนฉีกกระดุมจนขาดหมดเลย ยังดีที่วันนั้นเรายังมีเสื้อฮู้ตในกระเป๋านักเรียนอยู่ ไม่งั้นเราคงต้องถอดเสื้อเรียนอีกครั้งแน่ ซึ่งเรื่องนี้ที่บ้านเราก็ไม่รู้อีกเช่นเคยเพราะเราอ้างว่าเสื้อเลอะเลยถอด พอถึงบ้านเราก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็เย็บกระดุมกลับทันที โดยที่ไม่มีใครจับได้ แต่ที่หนักที่สุดคือ สมัยที่ทางนาดาวกำลังหาเด็กมาแคสฮอร์โมน เราโดนถุงดำคลุมหน้าแล้วเอามาขังในห้องน้ำ เพราะเพื่อนกลัวว่าเราจะได้รับเลือกไปแคสติ้ง กว่าจะหลุดออกมาได้ก็เกือบเลิกเรียนแล้ว เรายังแปลกใจเลยค่ะว่าขนาดเราเป็นออทิสติก โดนมาสารพัดอย่าง ยังสามารถจบมาได้ยังไง หรือเพราะว่าเราเป็นแค่แอสเพอร์เกอร์เลยยังพออดทนไปได้บ้าง แล้วเพื่อนที่เคยรุมทำร้ายเราสารพัด ปัจจุบันก็ได้ดีทั้งนั้น ทั้งทางหน้าที่การงาน การเงิน และความรัก บางคนแต่งงานมีลูกเมีย ครอบครัวอบอุ่น ฐานะร่ำรวย มั่นคงไปแล้ว ในขณะที่เรายังหาเงินเข้ากระเป๋าได้แค่เดือนละไม่เกิน 2-3 หมื่น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ขัดสนอะไร แต่เราก็ยังดูด้อยกว่าพวกนั้นหลายสเต็ป
กลับมาเรื่องของโอมค่ะ เราคิดว่าวีรกรรมของโอมนี่ร้ายแรงกว่าจีซู พระเอกเกาหลีที่เคยบูลลี่คนอื่นสมัยมัธยมเหมือนกัน จนทำให้จีซูต้องออกจากวงการบันเทิงไปเลย เพราะเพื่อนที่จีซูทำร้ายไม่ได้เป็นออทิสติกเหมือนเพื่อนโอมซักหน่อย แต่โอมนี่จิตใจเข้าขั้นอำมหิตมากเลยนะที่ทำร้ายเด็กออทิสติกได้ลงคอ แล้วเด็กพวกนี้ถ้ามาเจออะไรแบบนี้มันจะเป็นแผลใจไปจนวันตายเลย แม้แต่เราทุกวันนี้ก็ยังมีอาการทางประสาท หวาดระแวงแม้กระทั่งคนที่ดีกับเรามากๆอยู่เลย แล้วเรายิ่งของขึ้นมากกว่าเดิมอีก ที่เห็นนังชะนีหลายนางไปให้กำลังใจโอม นี่แหละนะเมืองไทย เกิดมาหน้าตาดีโลกจะใจดีกับคุณ บางคนยังซ้ำอีกว่า เป็นเด็กออทิสติกก็ควรรู้ว่าควรจะอยู่แค่ที่ไหน ขนาดทุกวันนี้ที่มีการรณรงค์เรื่องการบูลลี่ ทำร้ายเด็กพิเศษ ก็ยังไม่วายมีคนมากมายในโซเชี่ยลที่บูลลี่ได้แม้กระทั่งเด็กพิเศษและคนพิการ อย่างไม่นานมานี้ก็ยังมีแฮชแท็ก #ครับมาแตล ดังมากๆ ซึ่งมาจากผู้ชายออทิสติกคนนึงที่ชื่อมาแตล ที่ออกมาไลฟ์ทางแอป tiktok บ่อยๆ เราว่าเค้าเป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดีมาก คือเรามองแวบแรกนึกว่าดารานายแบบเลยนะ หน้าตาดี หุ่นดี สูงตั้ง 180 กว่า คือเทสพระเอกซีรี่ย์วัยรุ่นเลยค่ะ เค้าเป็นชอบออกกำลังกายแล้วก็ร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ถึงจะมีมุมฉุนเฉียวตามประสาเด็กออทิสติกอยู่บ้างก็เถอะแต่ก็ถือว่าเป็นลูกที่น่ารักกว่าเด็กปกติหลายคนด้วยซ้ำไป ยังเอามาบูลลี่กันได้ แล้วโดนหนักจนช่องปลิวไปเลย ยังดีที่กลับมาได้ แต่เรามองว่าเด็กออทิสติก ถ้าเรากล้าไปแกล้งนี่ถือว่าเลวเกินมนุษย์มนาแล้วค่ะ กลับกันเราควรจะเห็นใจเค้า เอ็นดูเค้า ช่วยเหลือเค้า หรือทำยังไงก็ได้ที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเค้าให้มากขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างมาแตลเค้าโชคดีมากๆเลยนะคะที่มีครอบครัวที่เข้าใจและซัพพอร์ตเค้าในทุกๆเรื่อง ส่วนโอม รวมถึงทุกๆคนที่เคยทำร้ายเด็กออทิสติก เราว่าเค้าควรจะได้รับกรรมหนักๆ แบบโดนทัวร์ลงไม่หยุดหย่อน ไปสมัครงานที่ไหนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ หรือถ้ามีครอบครัวแล้วลูกหลานโดนแบบเดียวกับที่ตัวเองเคยทำทำกับเค้าไว้ น่าจะเป็นสิ่งที่สาสมที่สุดสำหรับคนเลวๆพันนี้แล้วค่ะ
มันจะดูเกินไปมั้ยคะ ถ้าโทษของโอม ภวัต ที่เคยทำร้ายเพื่อน คือโดนปลดจากค่าย และโดนแบนจากการไปสมัครงานไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม
กลับมาเรื่องของโอมค่ะ เราคิดว่าวีรกรรมของโอมนี่ร้ายแรงกว่าจีซู พระเอกเกาหลีที่เคยบูลลี่คนอื่นสมัยมัธยมเหมือนกัน จนทำให้จีซูต้องออกจากวงการบันเทิงไปเลย เพราะเพื่อนที่จีซูทำร้ายไม่ได้เป็นออทิสติกเหมือนเพื่อนโอมซักหน่อย แต่โอมนี่จิตใจเข้าขั้นอำมหิตมากเลยนะที่ทำร้ายเด็กออทิสติกได้ลงคอ แล้วเด็กพวกนี้ถ้ามาเจออะไรแบบนี้มันจะเป็นแผลใจไปจนวันตายเลย แม้แต่เราทุกวันนี้ก็ยังมีอาการทางประสาท หวาดระแวงแม้กระทั่งคนที่ดีกับเรามากๆอยู่เลย แล้วเรายิ่งของขึ้นมากกว่าเดิมอีก ที่เห็นนังชะนีหลายนางไปให้กำลังใจโอม นี่แหละนะเมืองไทย เกิดมาหน้าตาดีโลกจะใจดีกับคุณ บางคนยังซ้ำอีกว่า เป็นเด็กออทิสติกก็ควรรู้ว่าควรจะอยู่แค่ที่ไหน ขนาดทุกวันนี้ที่มีการรณรงค์เรื่องการบูลลี่ ทำร้ายเด็กพิเศษ ก็ยังไม่วายมีคนมากมายในโซเชี่ยลที่บูลลี่ได้แม้กระทั่งเด็กพิเศษและคนพิการ อย่างไม่นานมานี้ก็ยังมีแฮชแท็ก #ครับมาแตล ดังมากๆ ซึ่งมาจากผู้ชายออทิสติกคนนึงที่ชื่อมาแตล ที่ออกมาไลฟ์ทางแอป tiktok บ่อยๆ เราว่าเค้าเป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดีมาก คือเรามองแวบแรกนึกว่าดารานายแบบเลยนะ หน้าตาดี หุ่นดี สูงตั้ง 180 กว่า คือเทสพระเอกซีรี่ย์วัยรุ่นเลยค่ะ เค้าเป็นชอบออกกำลังกายแล้วก็ร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ถึงจะมีมุมฉุนเฉียวตามประสาเด็กออทิสติกอยู่บ้างก็เถอะแต่ก็ถือว่าเป็นลูกที่น่ารักกว่าเด็กปกติหลายคนด้วยซ้ำไป ยังเอามาบูลลี่กันได้ แล้วโดนหนักจนช่องปลิวไปเลย ยังดีที่กลับมาได้ แต่เรามองว่าเด็กออทิสติก ถ้าเรากล้าไปแกล้งนี่ถือว่าเลวเกินมนุษย์มนาแล้วค่ะ กลับกันเราควรจะเห็นใจเค้า เอ็นดูเค้า ช่วยเหลือเค้า หรือทำยังไงก็ได้ที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเค้าให้มากขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างมาแตลเค้าโชคดีมากๆเลยนะคะที่มีครอบครัวที่เข้าใจและซัพพอร์ตเค้าในทุกๆเรื่อง ส่วนโอม รวมถึงทุกๆคนที่เคยทำร้ายเด็กออทิสติก เราว่าเค้าควรจะได้รับกรรมหนักๆ แบบโดนทัวร์ลงไม่หยุดหย่อน ไปสมัครงานที่ไหนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ หรือถ้ามีครอบครัวแล้วลูกหลานโดนแบบเดียวกับที่ตัวเองเคยทำทำกับเค้าไว้ น่าจะเป็นสิ่งที่สาสมที่สุดสำหรับคนเลวๆพันนี้แล้วค่ะ