อันนี้แค่ข้อสงสัยส่วนตัวนะครับ ในด้านกฎหมายบ้านเรา ที่เคยผ่านตากับการทำผิดจนเคยชิน เรียกง่ายๆว่าติดจนมากกว่านิสัยไปเสียแล้วก็ย่อมได้

กฎหมายที่ออกมา เรียกง่ายๆกฎหมายตัดแต้ม เริ่มที่ตัด 1, 2, 3 จนถึง 4 แต้ม

โดยที่ค่าตั้งต้น ทุกคนที่มีใบขับขี่ทางกฎหมายเริ่มต้นให้เลย 12 คะแนน และจะถูกตัดไปเรื่อยๆตามความร้ายแรงของพฤติกรรม

หากคะแนนที่เรามีคงเหลือ 0 คะแนน เราจะโดนพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ทันที 90 วันหลังจากวันที่โดนตัดจนเหลือ 0 คะแนน

และหากมีพฤติกรรมซ้ำซาก อาจมีผลถึงขั้นพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตไปเลย

ทีนี้สำหรับผมที่เคยใช้ชีวิต จักรยานยนต์เป็นหลัก และส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างในเขตพื้นที่ กทม ที่ผมพบการกระทำผิดมากที่สุด และซ้ำซากที่สุด

เช่น การฝ่าฝืนไฟจราจร เรียกสั้นๆ ฝ่าไฟแดง หรือไม่รอสัญญาณ หรือเมาแล้วขับ รวมไปถึงขี่บนทางเท้า จอดรถบนทางเท้า อื่นๆ มากมายที่สรรหาเจอ

แล้วกลุ่มคนที่เจอบ่อยสุด ก็คงหนีไม่พ้น กลุ่มคนที่ทำงานสายขนส่งมวลชน พี่วิน พนักงานส่งของ พนักงานส่งอาหาร รวมไปถึงประชาชนทั่วๆไปเองก็ทำ

ตอนใช้ชีวิตอยู่ใน กทม พูดตรงๆ ง่ายๆ เจอทุกแยก เจอทุกช่วงเวลา การฝ่าไฟแดงเนี่ย แล้วยังไง? แก้ไขอะไรได้หรอครับ กฎหมายนี้ มีใครกลัวไหม

วันหนึ่งถ้านับจริงๆ คะแนนติดลบเสียด้วยซ้ำนะ สำหรับกลุ่มคนบางกลุ่ม หรือบางคน แล้วพวกนี้กลัวกันจริงๆหรือ

และที่สงสัยหนักไปกว่านั้นก็คือ บ้านเราคนที่ขับ ขี่ หรือใช้รถบนท้องถนนบ้านเรา มีใบขับขี่กันแล้ว 100% หรือยัง ตอบง่ายๆ ไม่ต้องคาดคิด ยังครับ

แล้วกฎหมายบ้านเราคือ ไม่พกใบขับขี่ ไม่มี ปรับ 500 ปรับ 1,000 บาท ครับ แค่นั้นแหละ แล้วไงต่อ? ต่อให้ทำผิดจนคะแนนหมด ก็แค่โดนปรับ

สุดท้ายแล้วความกลัวต่อกฎหมายอยู่ตรงไหน ในเมื่อออกมาก็ไม่ได้บังคับใครให้เลิกมีพฤติกรรมนั้นๆได้ ที่เห็นประกาศปาวๆ ว่าติดคุก เคยมีเคสไหนบ้าง

ที่ทำให้คนเหล่านี้กลัวการทำผิดครับ

อันนี้เน้นย้ำนะครับว่า ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ จากประสบการณ์จริงบนท้องถนนเมืองไทย ไม่ใช่แค่ กทม แต่ที่ยกมาเพราะมันเยอะมากจริงๆ