เรื่องก็ประมานว่า ผู้ชายคนหนึ่งเคยทำงานเป็นหัวหน้ารปภ.ที่บริษัทมหาชนแห่งหนึ่งสี่ปีที่แล้ว และคนๆนี้ก็ลาออกจากบริษัทมหาชนนั้นไปแล้ว..
เมื่อวานมีข่าวว่า อดีตหัวหน้ารปภ.คนนี้ไปซั่มเมียชาวบ้าน ผัวเค้าฟ้องผ่านทนาย ทนายก็เอาพฤติกรรมชู้มาโพนทะนาให้สลิ่มฟัง..
สลิ่มจะด่าไปถึงบริษัทที่เค้าทำงานอยู่ด้วยไหมนะ.?
ในมุมมองด้านนิติบุคคล..อาแปะว่า อดีตของอดีตรปภ.เค้า ในการเป็น
บุคคลในนิติบุคคลนั้นสิ้นสุดไปสี่ปีแล้ว..
ดังนั้นการกระทำใดๆของบุคคลนั้นย่อมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียต่อชื่อเสียงของบริษัทมหาชนอีก..
ปัจจุบัน บุคคลนั้นก็คือคนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง เมื่อเค้าก่อคดีความใดๆก็ว่ากันไปตามกฏหมายส่วนบุคคล..
แต่การที่ทนายหน้ากากคุณธรรมเอาคดีของส่วนบุคคลพยายามโยงไปให้บริษัทมหาชนนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียง..
อาแปะก็ยังสงสัยว่าทำไปเพื่อจุดประสงค์อะไร (อยากอัพราคาค่าว่าความป่ะ.?ทำให้เป็นคดีหน้าสื่อ รีดราคาไปอีก ได้โล่ห์ด้วย) จะว่าไม่รู้กฏหมายก็ไม่ใช่ ...เนอะ.
...เฮ้อ... คดีอะไรๆก็เอามาโพนทะนา สลิ่มก็แย้วๆไปไม่รู้เรื่อง ตายเป็ดตายไก่ตายหานกันหมดแล้วสมอง...
ในมุมมองด้านกฏหมายของพรรคการเมือง กฏหมายระบุว่าพรรคการเมืองสามารถเป็นโจทย์ได้เสมือนว่าพรรคการเมืองเป็นนิติบุคคล คือใครทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงพรรคการเมืองก็สามารถฟ้องร้องเอาผิดได้ หากการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงนั้นไม่ได้ประโยชน์กับสาธารณ.. อันนี้อาแปะก็อ่านมาจากข้างถุงกล้วยทอดอ่ะน่ะ ในข้อกฏหมายจะถูกต้องหรือไม่ก็อยู่ที่ฝ่ายกฏหมายของพรรคการเมืองนั่นเองที่จะวินิจฉัย ต่อการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของ"ทนายหน้ากากคุณธรรม"
ในมุมมองของสามัญชนคนเผาถ่านที่มีต่ออาชีพทนายความ.. อาแปะมองว่าทนายที่เก่ง คือทนายที่มั่นคงในข้อกฏหมาย เชื่อมั่นในความรู้ความสามารถของตนเองไม่ต้องใช้สื่อโซเซียลช่วย ว่าความด้วยความบริสุทธิยุติธรรมทั้งต่อลูกความและคู่ความ ไม่ค้าคดีความจนละเมิดจรรยาบรรณของทนายและเพื่อนร่วมอาชีพ..
ทนายความที่เก่งในสายตาอาแปะไม่จำเป็นต้องโปรโมตโฆษณาตัวเองมากมายตามหน้าสื่อ ความเด่น,ความดัง,และความเก่งจะกระจายไปปากต่อปากเอง..
ที่สำคัญ ทนายที่เก่งจริงมักจะมีคุณธรรมจริงด้วย ส่วนทนายที่เก่งปลอมๆก็จะมีคุณธรรมปลอมๆด้วย จึงเป็นภาพของ"ทนายหน้ากากคุณธรรม"...นั่นเอง..
อมิตพุทธ..
ສະບາຍດີຕອນເຊົ້າ..
หมายเหตุ..ทู้นี้ไม่มีสตอเบอรี่ มีแต่หม่อนเบอรี่ ของจริงจากใจสายกลางล้วนๆน๊ะจ๊ะ..
สมมุติว่าอดีตหัวหน้ารปภ.ไปสอยมาลีชาวบ้าน สลิ่มจะด่าไปถึงบริษัทที่เค้าเคยทำงานไหมนะ..
เมื่อวานมีข่าวว่า อดีตหัวหน้ารปภ.คนนี้ไปซั่มเมียชาวบ้าน ผัวเค้าฟ้องผ่านทนาย ทนายก็เอาพฤติกรรมชู้มาโพนทะนาให้สลิ่มฟัง..
สลิ่มจะด่าไปถึงบริษัทที่เค้าทำงานอยู่ด้วยไหมนะ.?
ในมุมมองด้านนิติบุคคล..อาแปะว่า อดีตของอดีตรปภ.เค้า ในการเป็นบุคคลในนิติบุคคลนั้นสิ้นสุดไปสี่ปีแล้ว..
ดังนั้นการกระทำใดๆของบุคคลนั้นย่อมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียต่อชื่อเสียงของบริษัทมหาชนอีก..
ปัจจุบัน บุคคลนั้นก็คือคนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง เมื่อเค้าก่อคดีความใดๆก็ว่ากันไปตามกฏหมายส่วนบุคคล..
แต่การที่ทนายหน้ากากคุณธรรมเอาคดีของส่วนบุคคลพยายามโยงไปให้บริษัทมหาชนนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียง..
อาแปะก็ยังสงสัยว่าทำไปเพื่อจุดประสงค์อะไร (อยากอัพราคาค่าว่าความป่ะ.?ทำให้เป็นคดีหน้าสื่อ รีดราคาไปอีก ได้โล่ห์ด้วย) จะว่าไม่รู้กฏหมายก็ไม่ใช่ ...เนอะ.
...เฮ้อ... คดีอะไรๆก็เอามาโพนทะนา สลิ่มก็แย้วๆไปไม่รู้เรื่อง ตายเป็ดตายไก่ตายหานกันหมดแล้วสมอง...
ในมุมมองด้านกฏหมายของพรรคการเมือง กฏหมายระบุว่าพรรคการเมืองสามารถเป็นโจทย์ได้เสมือนว่าพรรคการเมืองเป็นนิติบุคคล คือใครทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงพรรคการเมืองก็สามารถฟ้องร้องเอาผิดได้ หากการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงนั้นไม่ได้ประโยชน์กับสาธารณ.. อันนี้อาแปะก็อ่านมาจากข้างถุงกล้วยทอดอ่ะน่ะ ในข้อกฏหมายจะถูกต้องหรือไม่ก็อยู่ที่ฝ่ายกฏหมายของพรรคการเมืองนั่นเองที่จะวินิจฉัย ต่อการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของ"ทนายหน้ากากคุณธรรม"
ในมุมมองของสามัญชนคนเผาถ่านที่มีต่ออาชีพทนายความ.. อาแปะมองว่าทนายที่เก่ง คือทนายที่มั่นคงในข้อกฏหมาย เชื่อมั่นในความรู้ความสามารถของตนเองไม่ต้องใช้สื่อโซเซียลช่วย ว่าความด้วยความบริสุทธิยุติธรรมทั้งต่อลูกความและคู่ความ ไม่ค้าคดีความจนละเมิดจรรยาบรรณของทนายและเพื่อนร่วมอาชีพ..
ทนายความที่เก่งในสายตาอาแปะไม่จำเป็นต้องโปรโมตโฆษณาตัวเองมากมายตามหน้าสื่อ ความเด่น,ความดัง,และความเก่งจะกระจายไปปากต่อปากเอง..
ที่สำคัญ ทนายที่เก่งจริงมักจะมีคุณธรรมจริงด้วย ส่วนทนายที่เก่งปลอมๆก็จะมีคุณธรรมปลอมๆด้วย จึงเป็นภาพของ"ทนายหน้ากากคุณธรรม"...นั่นเอง..
อมิตพุทธ..
ສະບາຍດີຕອນເຊົ້າ..
หมายเหตุ..ทู้นี้ไม่มีสตอเบอรี่ มีแต่หม่อนเบอรี่ ของจริงจากใจสายกลางล้วนๆน๊ะจ๊ะ..