เท่าที่ใจจะรักได้ (16)



.
โดย : ชลัน

               ๑๖
               _________________________


               หลังจากวันที่ปลัดมาทำความรู้จักกับครอบครัวของฉัน เราสองคนเริ่มสนิทและคุยกันมากขึ้น อาจเป็นเพราะย้ายมาที่นี่เขายังไม่รู้จักใคร รู้จักกับฉันเพียงคนเดียว จึงดูพูดคุยและสนิทมากกว่าใคร ๆ ทว่าเราไม่ค่อยเจอกันนัก จะเจอกันก็เพียง ตอนเช้าบ้างบางวัน ตอนเที่ยง และเลิกงาน

               "คุณปลัดคนใหม่ล้อหล่อเนอะ ยังหนุ่มอยู่ด้วย ทำให้ก้อยอยากมาทำงานทุกวัน" พี่ก้อยคุยกับพี่อ้อม
               
                "อิจฉากัญตา ถามหน่อย มีปิ๊ง ๆ กันยัง" พี่อ้อมถามฉันตรง ๆ

                "พี่อ้อมคะ ตากับเขากับคุณปลัดเป็นญาติกันค่ะ ไม่มีอะไรปิ๊ง ๆ เขาเลยคุยกับตามากเป็นพิเศษหน่อย ว่าแต่เที่ยงนี้ไปทานข้าวด้วยกันมั้ยคะ บางทีเขาอาจจะปิ๊งพี่อ้อมก็ได้" ฉันแซวกลับ เป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะพี่อ้อมแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว

               "บ้า! เห็นสามีพี่ไม่หล่อเท่าคุณปลัด พี่ก็รักของพี่นะ ให้ยัยก้อยว่าไปอย่าง" พี่อ้อมโยนให้พี่ก้อย

               "ไป ๆ ว่าแต่คุณปลัดเขาจะไม่ว่าพวกเรานะ บางทีเขาอาจไม่อยากให้พวกเราไปเป็นก้างก็ได้ แต่พี่ก็อยากไป อยากไปชมความหล่อ อยากไปนั่งมองหน้าใกล้ ๆ" พี่ก้อยพูดพลางหัวเราะ พวกเราก็หัวเราะตามไปด้วย พอใกล้จะถึงมื้อเที่ยงพวกเราจับกลุ่มพูดถึงเรื่องทานข้าว ฉันเก็บเอกสารและงานเข้าแฟ้มเรียบร้อย รอเพียงเวลาไปทานข้าวกับปลัดพศินเท่านั้น
               
              ระหว่างนั้นพี่ทีรุฒน์ก็เดินออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว "พวกเราออกไปทานข้าวข้างนอกกัน เปลี่ยนบรรยากาศหน่อย ไปมั้ย" พี่ทีรุฒน์ชวน
              
              "ว้า! อดได้ไปนั่งจ้องหน้าคุณปลัดสุดหล่อเลย ไปก็ไปค่ะ กัญตาคงต้องได้ไปทานข้าวเป็นเพื่อนคุณปลัดคนเดียวแล้วล่ะ พวกพี่จะออกไปกับพี่ทีรุฒน์" พี่ก้อยพูด ทำหน้าเสียดายออกมาอย่างชัดเจน เพราะว่าทั้งพี่ก้อยพี่แนนและพี่อ้อมต้องเลือกไปกับหัวหน้าของตนอยู่แล้ว ส่วนพี่ทีรุฒน์มองหน้าฉัน
              
              "อ้าวทำไมล่ะ กัญตาจะไปทานที่ไหน" ฉันรู้ว่าพี่ทีรุฒน์แกล้งถาม "พักนี้พี่ไม่เห็นตาห่อข้าวมาทานมื้อเที่ยงเหมือนเดิมเลย ตั้งแต่มีปลัดคนใหม่ย้ายมา"

                ฉันยิ้ม "ตาไปทานเป็นเพื่อนคุณปลัดค่ะ เขายังไม่สนิทใครเลย อีกอย่างตาไปทานด้วยก็ไม่เห็นแปลก เขาเป็นญาติของตานี่" ฉันพูดเจือรอยยิ้ม ส่วนคนฟังทำหน้านิ่ง และมีคนคอยสังเกตคือพี่ก้อย ทุกคนต่างทราบดีว่าปลัดพศินกับฉันไม่ได้เป็นญาติกันทางสายเลือด ครอบครัวเพียงรู้จักและสนิทกันเท่านั้น

              "ทำงานจะเข้าสองเดือนแล้วยังไม่รู้จักหรือสนิทกับใครในองค์กรเลยเหรอ ปลัดคนนี้มีนิสัยเข้ากับสังคมยากหรือไงนะ" พี่ทีรุฒน์ประชดและมองหน้าฉัน ฉันปรายตามองเขาจากที่ไม่อยากสบตา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร คนพูดคือพี่ก้อยอีกตามเคย เพราะจับตามองฉันกับพี่ทีรุฒน์อยู่แล้ว

              "แหม... พี่ทีรุฒน์คะ จะไปบังคับกัญตาทำไม กัญตาไปกับคุณปลัดน่ะดีแล้ว บางทีเขาสองคนอาจไม่ได้อยากแค่ไปนั่งทานข้าวด้วยกันก็ได้ อาจมีความรู้สึกพิเศษอะไรมากกว่านั้น" พี่ก้อยพูดด้วยถ้อยคำมีเลศนัย มองฉันสลับกับมองพี่ทีรุฒน์ "ว่าไม่ได้นะคะ กัญตาก็โสด คุณปลัดก็น่าจะโสด ถ้ากัญตาจะมอง ๆ คุณปลัดไว้เป็นแฟนในอนาคตก็ไม่เสียหาย หรือพี่ทีรุฒน์ทานข้าวไม่ลงถ้ากัญตาไม่ไปด้วย" พี่ก้อยพูดอย่างตรงไปตรงมา ฉันถอนหายใจ เป็นเรื่องให้พี่ก้อยค่อนแคะได้ทุกที

               "เปล่า… งั้นเราไปกันเถอะ กัญตาก็ทานข้าวมื้อเที่ยงกับคุณปลัดให้อร่อยนะ" พี่ทีรุฒน์เปลี่ยนเรื่อง พูดจบก็เดินนำพี่ ๆ ทุกคนออกไป โดยไม่สนใจฉันอีก ประจวบเหมาะกับปลัดพศินโทรมาตามฉันพอดี เราสองคนก็จะออกไปทานข้าวข้างนอก เพราะเบื่อกับข้าวโรงอาหารเต็มทนเหมือนกัน

              ฉันกับปลัดออกมาทานข้าวร้านอาหารตามสั่งอยู่ใกล้ ๆ กับที่ทำงาน ส่วนพวกพี่ทีรุฒน์คงพากันเข้าไปทานในตัวเมือง ที่ทำงานของฉันกับตัวเมืองใกล้กันนิดเดียว วันนี้ฉันขี้เกียจจึงไม่ชวนปลัดไป

               "กัญตาผมเองครับ คุณนั่งรอเลย" ฉันกำลังจะลุกไปบริการเสิร์ฟน้ำให้คุณปลัดทว่าโดนห้ามเอาไว้ และเขาก็ลุกจากโต๊ะเป็นคนบริการฉันเอง

                "แหม... คุณพศินแค่นี้เองค่ะ ตาทำเองได้"

                "ก็ผมอยากให้คุณมองผมเป็นสุภาพบุรุษนี่นา" ปลัดพูดปนยิ้มแหย่ฉันเล่น แล้วฉันก็ขำไปกับคำพูดเขาด้วย ดู ๆ ไปปลัดก็น่ารักดี ถ้ากัญญาจะคบไม่เสียหายอะไร ติดอยู่ปัญหาเดียวคือกัญญามีเจ้าของแล้ว คน ๆ นั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น และฉันก็ไม่ได้ใจดำเกินจะทำร้ายทั้งสองคน ฉันทราบดีว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้ 'มันให้ความสุขแสนพร่ำเพรื่อ และมันก็ให้ความเจ็บปวดแสนโหดร้ายเช่นกัน'

                 "คุณตาคิดอะไรอยู่เหรอครับ ใจลอยเชียว" คุณปลัดทักฉัน พร้อมนำแก้วน้ำมาวางให้

                 "เปล่าค่ะ สั่งกับข้าวกันเถอะตาหิวแล้ว คุณพศินจะทานอะไรคะ" ฉันกุลีกุจอจดเมนู เมื่อได้เมนูของเขาและของฉันแล้ว จึงนำไปส่งให้กับแม่ค้า ระหว่างรอเราสองคนก็คุยกันไปเรื่อย

               "วันนี้ศุกร์พอดี เย็นนี้ผมว่าจะแวะไปที่บ้านหาคุณอาทั้งสองสักหน่อย คุณตาจะว่าอะไรมั้ยครับ" คุณปลัดถาม ฉันทำหน้างง จะไปว่าได้อย่างไร คนกันเอง แล้ววันนี้ก็ไม่ใช่วันแรกที่เขาแวะไปที่บ้าน เขาไปทุกวันศุกร์สุดสัปดาห์ ตั้งแต่ย้ายมาทำงานที่นี่

              "ไม่ว่าหรอกค่ะ จะว่าคุณพศินทำไม ว่าแต่ที่อยากไปเนี่ย เพราะอยากเจอคุณลุงกับคุณแม่หรืออยากเจอน้องสาวของตากันแน่ วันนี้กัญญากลับบ้านนะ" ฉันแซว แม้ภายในใจจะขัดแย้งกับคำพูดก็ตาม หากฉันเดาไม่ผิด คุณปลัดก็คงแอบมองกัญญาเหมือนกัน และข่าวร้ายที่ฉันรู้มาคือ ปลัดยังไม่มีหวานใจ นั่นก็แปลว่าโสด

                "เฮ้ย! ไม่ใช่ครับ ผมอยากแวะทักทายคุณอาแค่นั้น ไม่อยากทำตัวเหมือนคนไม่มีญาติหรือข้ามหัวผู้ใหญ่ครับ คุณอาทั้งสองผมนับถือ" คุณปลัดอธิบาย ฉันพยักหน้าเข้าใจ ไม่นานแม่ค้าก็นำกับข้าวที่เราสั่งมาเสิร์ฟให้ เราทานข้าวกันไปคุยกันไป ปลัดถามถึงกัญญาเป็นช่วง ๆ ฉันเดาไม่ผิดแน่ ว่าปลัดแอบชอบกัญญา ถึงได้ชอบพูดถึงบ่อย ๆ

                เขาถามถึงแฟนของกัญญา ฉันเลี่ยงที่จะบอกความจริง แต่ก็ไม่ปิดบัง ฉันบอกไม่แน่ใจเพราะกัญญาไม่เคยพามาบ้านหรือพูดให้ฟัง แต่เห็นคุยโทรศัพท์ในบางครั้ง ก็เลยไม่แน่ใจว่ามีแฟนแล้วหรือไม่ บ่ายครึ่งที่พวกเรากลับเข้าไปทำงาน

              "อ้าวมากันแล้วเหรอคะ มาเร็วจัง" ฉันพูดเขิน ๆ เพราะกลับเข้ามาทำงานรอบบ่ายช้ากว่าใคร ๆ แม้ทราบดีอาจโดนดุ แต่ก็นั่นแหละมันโอนอ่อนผ่อนปรนกันได้

               "กับข้าวอร่อยแน่เลย ทานเพลินเชียว จะบ่ายสองแล้วจ้าคุณเธอ" พี่อ้อมล้อฉัน ฉันหัวเราะไม่ได้ถือสาอะไร

              "ไปทานข้าวกันถึงไหนเหรอกัญตากลับมาเอาป่านนี้" พี่ทีรุฒน์เดินออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว พร้อมแฟ้มเอกสารในมือหลายเล่ม "นี่เลยเวลามากี่นาทีแล้ว ถ้าชาวบ้านเขามาติดต่อราชการ เกิดไม่เห็นพนักงานจะว่ายังไง เขาจะเอาไปพูดเสีย ๆ หายหรือเปล่า ว่าแผนกกองคลังเข้างานช้า ทำงานไม่คุ้มเงินเดือนภาษีเขาน่ะ" พี่ทีรุฒน์บ่นฉัน ทุกคนเงียบกริบ แม้แต่พี่ก้อยเองก็ไม่กล้าเอ่ยคำใดแทรกออกมา

               "ตาสายแค่ไม่กี่นาทีเองนะคะ" ฉันยอมจำนนและไม่แก้ตัว "ขอโทษค่ะ วันหลังตาจะไม่ทำอีก"

                "ไม่กี่นาทีอะไร ครึ่งชั่วโมง! กับข้าวมันอร่อยมากหรือไง ร้านไหนบอกพี่บ้างสิ พี่จะลองไปทานดู ว่ามันจะอร่อยแค่ไหน ถึงได้ติดใจทานเพลินจนเข้างานสายขนาดนี้"

              "พี่ทีรุฒน์..." ฉันเริ่มโกรธ แต่พูดอะไรได้ เขายังคงจ้องมองฉันไม่ละสายตา "ตาขอโทษค่ะ" ฉันขอโทษอีกครั้ง

              "อืมม์ ไม่เป็นไร และนี่งาน ทำให้เสร็จด้วยนะ พี่จะเอาวันนี้" พี่ทีรุฒน์สั่งงานและยื่นแฟ้มให้ฉัน จากนั้นก็เดินกลับเข้าห้องทำงานของตนไป ไม่สนใจเสียงซุบซิบของพี่ก้อยกับพี่แนนสักนิด พี่อ้อมมองฉันด้วยความเข้าใจที่สุด จากนั้นฉันก็เริ่มทำงานที่พี่ทีรุฒน์สั่งให้เสร็จ

            ช่วงบ่ายฉันทำงานให้พี่ทีรุฒน์เกือบ ๆ ถึงเวลากลับบ้าน กว่าจะเสร็จเหลือเพียงชั่วโมงเดียวก็เลิกงาน พอเสร็จหมดทุกแฟ้มก็เดินนำแฟ้มเอกสารไปให้เขา แม้ในใจจะไม่อยากเข้าไปเผชิญหน้าด้วยก็ตาม

             "ขออนุญาตค่ะพี่รุฒน์ ตานำงานมาส่งค่ะ" ฉันขออนุญาตก่อนเดินเข้าไป เขาวางมือจากงานที่ทำแล้วจ้องหน้าฉันเขม่น ใบหน้ายังคงบึ้งตึงใส่ฉันตั้งแต่บ่ายจนตอนนี้ พี่ทีรุฒน์นำแฟ้มงานจากฉันไปเปิดดูทีละแฟ้มจนครบทุกแฟ้มก่อนจะส่งคืนฉัน

                "มัวแต่คิดถึงใครอยู่เหรอกันกัญตา หรือว่าคิดถึงรสชาติอาหารมื้อเที่ยงของวันนี้อยู่ ผิดเยอะเลยเอาไปแก้" พี่ทีรุฒน์บอกฉัน ฉันตกใจจะทำไม่ถูกได้ยังไง อีกอย่างก็รู้สึกสะอึกกับคำพูดของเขาด้วย ทำไมเขาต้องคิดและว่าฉันอย่างนั้น

             "พี่ทีรุฒน์ งานผิดตาไม่ว่านะคะที่จะดุตา แต่ทำไมพี่ทีรุฒน์ต้องกระแนะกระแหนตาเรื่องคุณปลัดด้วย" ฉันต่อว่าเขา

               "พี่ไม่ได้ต่อว่าพี่แค่ถาม ปกติเราไม่เคยทำงานผิดขนาดนี้"

                 "อ๋อ เหรอคะ แล้วตาทำผิดตรงไหนคะ ตาจะรีบไปแก้ วันนี้ตามีนัด คงอยู่ทำโอทีให้ไม่ได้"  ฉันถาม แม้จะงงว่าฉันทำงานผิดตรงไหน ก่อนนำมาส่งก็ตรวจทานดีแล้ว

                "ตาจะไปไหน" คราวนี้น้ำเสียงของเขาดูอ่อนลง

                 "เรื่องของตาค่ะ" ฉันตอบ ยังทำปั้นปึ่งให้ เพราะยังโกรธที่เขาว่าฉันเรื่องคุณปลัด

                 "อ่อ... พี่ลืมไป คงไม่ใช่มีนัดกับคุณปลัดหรอกเนอะ"

                 "พี่รุฒน์คะ! ทำไมต้องว่าตาเรื่องคุณปลัดด้วย เขาเกี่ยวอะไร เขาเป็นญาติตา ถ้าตาจะสนิทกับเขาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ตามีนัดเพราะวันนี้น้องสาวตากลับบ้านค่ะ วันนี้วันศุกร์ เรามีนัดกัน" ฉันบอกกับหัวหน้างาน "จะว่าไปตายังโสด ถ้าตาจะคบกับปลัดก็ไม่แปลก เพราะคุณปลัดเขาก็ยังไม่มีใครเหมือนกัน" คราวนี้ฉันเหลืออดจึงประชดพี่ทีรุฒน์คืนบ้าง

                "กัญตา!" พี่ทีรุฒน์เรียกชื่อฉันเบา ๆ พร้อมแววตาที่มองฉันอย่างเจ็บปวด ฉันเองก็รู้สึกไม่แพ้กันที่ถูกเขามองแบบนั้น ทั้งที่ฉันไม่เคยคิดอะไรกับคุณปลัดพศินเลย หากแต่ในใจลึก ๆ ของฉันพี่ทีรุฒน์รู้ดีว่าฉันมีใครอยู่ในนั้น พี่ทีรุฒน์ลุกจากโต๊ะทำงาน จะนำแฟ้มมาเก็บที่ชั้น "พี่เข้าใจ พี่ขอโทษนะ แล้วงานไม่ต้องเอากลับไปแก้ ตาไปเตรียมตัวกลับบ้านเถอะ"

               "ไม่ค่ะ! ตาต้องแก้ตรงไหน พี่รุฒน์เอามาให้ตากลับไปทำ" ฉันแย่งแฟ้มจากมือของเขา แต่เขาดึงรั้งเอาไว้ "พี่รุฒน์ปล่อยแฟ้มให้ตาค่ะ ตาจะรีบนำไปแก้ให้เสร็จ"

                "พี่บอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำ เดียวพี่จัดการเอง" พี่ทีรุฒน์ไม่ยอมคืนแฟ้มให้ฉัน ยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมา ฉันสู้แรงเขาไม่ไหว เขากระฉากแฟ้มไปจากฉันทำให้ร่างของฉันเซถลาไปตามแรงดึง และซบที่ตัวของเขาพอดี เขาฉวยโอกาสรวบตัวของฉันเอาไว้

                "พี่รุฒน์ปล่อยค่ะ พี่ก้อยหรือใครมาเห็นเข้ามันจะดูไม่ดี ลำพังตาไม่เท่าไหร่ แต่พี่รุฒน์จะแย่เอานะคะถ้าพี่อุ่นรู้" ฉันพูดขณะอยู่ในอ้อมกอดของเขา และเขาก็รวบตัวของฉันไว้แน่น

              "ตากับคุณปลัดไม่ได้คิดอะไรกันจริง ๆ เหรอ" พี่ทีรุฒน์ถามฉันขณะกอดร่างของฉันอยู่ และดมที่แก้มของฉันเบา ๆ เขายิ้มเพราะฉันไม่ได้ขัดขืน

              "พี่ทีรุฒน์ปล่อยตาค่ะ ถ้าไม่ปล่อยตาจะร้องให้คนช่วย" มันได้ผล เขายอมปล่อยฉัน แต่แววตาของเขาที่มองฉันดูเศร้า ฉันเข้าใจแววตาคู่นั้นดี ฉันเข้าใจ! "ตายืนยันว่าตากับปลัดเราไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกัน เขาชอบน้องสาวตาค่ะ เขากำลังตามจีบกัญญาอยู่ และวันนี้เขาก็จะไปทานข้าวที่บ้านกับกัญญา" ฉันไม่ได้โกหก

              พี่ทีรุฒน์เผยยิ้มอีก "ตาก็รู้ว่าพี่รู้สึกยังไงกับตา เราสองคนรู้สึกยังไงต่อกัน..."
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่