สวัสดีครับ นี่เป็นการเขียนกระทู้รีวิวการเดินทางครั้งแรกของผมนะครับ ภาษาที่ใช้อาจจะไม่ค่อยเรียบร้อยสักเท่าไหร่ ตกหล่นตรงไหนไปก็ขอโทษด้วยนะครับ
ขอเกริ่นก่อนว่าผมก็เป็นคนนึงที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวด้วยขนส่งสาธารณะ แม้แต่การไปต่างจังหวัดยังต้องเน้นขึ้นรถสองแถวเป็นหลัก แต่แล้วผมก็ได้เจอคลิปหนึ่งที่ได้รีวิวการท่องเที่ยวด้วยรถไฟไฟยังสิงคโปร์ด้วยความบังเอิญ
https://youtube.com/watch?v=6riS47VCJbs&si=EnSIkaIECMiOmarE
https://youtube.com/watch?v=9Jw5AkcM6yg&si=EnSIkaIECMiOmarE
ซึ่งผมก็วางแผนอยากที่จะไปสิงคโปร์ด้วยรถไฟสักครั้งในชีวิตมานานแล้ว เมื่อเห็นคลิปนี้ผมก็ไม่รอช้าที่จะหาข้อมูลในการเดินทางอย่างไว ได้ลองหารอบรถไฟทั้งฝั่งไทยและฝั่งมาเลเซียเพื่อให้ต่อรถได้อย่างต่อเนื่องกัน แรก ๆ ก็กะเวลาผิดถูกบ้างเพราะเวลาทั้ง 2 ประเทศไม่เท่ากัน หาข้อมูลจากคนที่เคยเดินทางด้วยวิธีนี้ก็มีค่อนข้างน้อยและข้อมูลก็เก่าแล้ว ผมก็ได้เช็คในเว็บการรถไฟมาเลเซียด้วยตนเองเลย ศึกษาวิธีการจองเอาเอง ก็ลองทำแบบผิด ๆ ถูก ๆ จนได้ โดยในตอนแรกผมวางแผนว่าขาไปจะเดินทางด้วยรถไฟ ขากลับจะขึ้นเครื่องบินเพราะขี้เกียจนั่งรถแล้ว 555 โดยแผนคือจะเดินทางวันที่ 30 ธ.ค. 2565 ถึงวันที่ 5 ม.ค. 2566 ที่เลือกกลับวันนี้เพราะตั๋วเครื่องบินช่วงนั้นถูกสุด โดยขบวนที่จะไปคือ ขบวน 171 รถเร็ว กรุงเทพ-สุไหงโกลก ลงที่ชุมทางหาดใหญ่ จากนั้นก็กินข้าวเช้าที่หาดใหญ่แล้วต่อด้วยขบวน 947 ไปลงที่ปาดังเบซาร์ฝั่งมาเลเซีย พอถึงฝั่งมาเลเซียก็ต่อรถ KTM KOMUTER UTARA ไปยัง Butterworth นั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยังเกาะปีนังเพื่อฉลองปีใหม่ที่นั่น จากนั้นก็นั่งรถไฟ ETS ไปลงที่ KL SENTRAL และแวะเที่ยวที่นั่นอีกสักคืน แล้วก็นั่งรถไฟไป JB SENTRAL เพื่อต่อไปยังสิงคโปร์โดยจะต้องต่อรถที่สถานี Gemas พอถึงที่ยะโฮร์ก็ไปเช็คอินโรงแรมที่นั่นแล้วนั่งรถไฟ Shuttle Tebrau เพื่อข้ามช่องแคบยะโฮร์ไปยังด่าน Woodlands ที่สิงคโปร์ โดยผมตั้งเป้าว่าการเดินทางในครั้งนี้จะใช้รถไฟในการเดินทางเพียงอย่างเพียว จะไม่มีขนส่งแบบอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเลย ซึ่งค่อนข้างจะเสี่ยง เพราะถ้าตกรถไปก็จะเสียหายต่อกันเป็นทอด ๆ เลย ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดเรื่องเทศกาลปีใหม่เลยว่าจะมีคนเยอะ คิดแค่ว่ามันเป็นแค่วันหยุดวันหนึ่ง ซึ่งผมก็เกือบจะทริปล่มตั้งแต่ตอนแรกเลย พอผมวางแผนเสร็จก็ได้ไปจองตั๋วรถไฟขบวนไปหาดใหญ่เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ตอนแรกผมจะจองผ่านแอป d-ticket แต่ระบบไม่ให้จอง ผมเห็นท่าไม่ดีจึงรีบบึ่งไปที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่อไปจองตั๋วให้ทัน ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่ผมคาดจริง ๆ ว่าที่นั่งเต็มเกือบหมด เหลืออยู่ไม่กี่ที่ เพราะเป็นช่วงเทศกาล แต่ผมก็จองมาได้ทันพอดี
ผมจ่ายด้วย TRUE MONEY WALLET ซึ่งค่อนข้างจะสะดวก สามารถตัดผ่านบัตรเครดิตได้ แต่ข้อเสียคือถ้าหากจะคืนตั๋วจะไม่สามารถขอเงินคืนได้ แต่พอผมจองตั๋วได้ไม่กี่วันก็มีเหตุระเบิดเส้นทางรถไฟไปปาดังฯติดต่อกัน 2 วันเลย
https://www.prachachat.net/local-economy/news-1141938
(ปัจจุบันเปิดให้บริการตามปกติแล้วครับ เริ่มวันที่ 1 ม.ค. 2566)
เมื่อได้เห็นข่าวนี้ ผมก็กังวลตลอดเลยว่าจะมีรถต่อไปไหม จะทันเปิดให้บริการรึเปล่า ได้ถามที่เพจ PR การรถไฟอยู่เป็นระยะ ๆ แต่การรถไฟก็บอกได้แค่ว่าต้องติดตามเอาเอง ผมก็ต้องหาวิธีการเดินทางใหม่เผื่อไว้หากเส้นทางไปปาดังฯยังไม่เปิดให้บริการ และยังโชคดีที่มีรถให้บริการส่งถึงหน้าด่าน ผมก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง ต่อมาผมก็ได้ค้นคว้าเกี่ยวกับขบวนรถไฟมาเลเซียว่ามีรอบอะไรบ้าง แต่ละรอบราคาเท่าไหร่ แต่ผมดันมาจองตอนใกล้วันที่เดินทางแล้ว ทำให้รถบางคนเริ่มใกล้จะเต็มแล้ว ผมก็ได้จองเส้นทางจาก KL ไปยะโฮร์ก่อน เพราะมันต้องมีต่อที่สถานี Gemas ถ้าพลาดแล้วทริปก็จะเปลี่ยนไปหมดเลย แต่ผมก็ไม่เช็คให้ดี จองขบวน KL SENTRAL-Gemas แล้ว แต่ขบวน Gemas-JB SENTRAL ที่วางแผนไว้กลับเต็มอยู่ขบวนเดียว แผนทั้งหมดของผมจึงต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด จากที่จะค้างคืน KL ก็ต้องเที่ยววันเดียวแล้วนอนบนรถไฟเอา จากที่ออกจาก Butterworth ช่วงสาย ๆ ก็ต้องออกตั้งแต่เช้าตรู่ ทุกอย่างเลยกระชั้นชิดเร็วขึ้น ตั๋วที่ผมจองจึงมีหน้าตาประมาณนี้
วิธีการจองตั๋วรถไฟมาเลเซีย: (Coming Soon)
ส่วนตั๋วขากลับ ผมได้จองไว้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ธ.ค.แล้ว โดยจะขึ้นที่สนามบิน Senai รัฐยะโฮร์ ที่เลือกสนามบินนี้เพราะตั๋วถูกกว่าขึ้นที่สิงคโปร์ตั้ง 3 เท่า และการเดินทางไปสนามบินก็มีรถบัสจาก JB SENTRAL โดยตรงและราคาค่อนข้างถูก ส่วนที่พักเน้นเป็น Hostel เพราะราคาค่อนข้างประหยัดและไปเที่ยวตัวคนเดียว จึงไม่ได้จำเป็นที่จะต้องอยู่โรงแรมให้เปลืองตังค์
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็เริ่มออกเดินทางได้ .....
เปิดประสบการณ์นั่งรถไฟไปสิงคโปร์ด้วยตัวคนเดียว ทำเองทุกอย่าง พร้อมกับความวุ่นวายจนวินาทีสุดท้าย
ขอเกริ่นก่อนว่าผมก็เป็นคนนึงที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวด้วยขนส่งสาธารณะ แม้แต่การไปต่างจังหวัดยังต้องเน้นขึ้นรถสองแถวเป็นหลัก แต่แล้วผมก็ได้เจอคลิปหนึ่งที่ได้รีวิวการท่องเที่ยวด้วยรถไฟไฟยังสิงคโปร์ด้วยความบังเอิญ
https://youtube.com/watch?v=6riS47VCJbs&si=EnSIkaIECMiOmarE
https://youtube.com/watch?v=9Jw5AkcM6yg&si=EnSIkaIECMiOmarE
ซึ่งผมก็วางแผนอยากที่จะไปสิงคโปร์ด้วยรถไฟสักครั้งในชีวิตมานานแล้ว เมื่อเห็นคลิปนี้ผมก็ไม่รอช้าที่จะหาข้อมูลในการเดินทางอย่างไว ได้ลองหารอบรถไฟทั้งฝั่งไทยและฝั่งมาเลเซียเพื่อให้ต่อรถได้อย่างต่อเนื่องกัน แรก ๆ ก็กะเวลาผิดถูกบ้างเพราะเวลาทั้ง 2 ประเทศไม่เท่ากัน หาข้อมูลจากคนที่เคยเดินทางด้วยวิธีนี้ก็มีค่อนข้างน้อยและข้อมูลก็เก่าแล้ว ผมก็ได้เช็คในเว็บการรถไฟมาเลเซียด้วยตนเองเลย ศึกษาวิธีการจองเอาเอง ก็ลองทำแบบผิด ๆ ถูก ๆ จนได้ โดยในตอนแรกผมวางแผนว่าขาไปจะเดินทางด้วยรถไฟ ขากลับจะขึ้นเครื่องบินเพราะขี้เกียจนั่งรถแล้ว 555 โดยแผนคือจะเดินทางวันที่ 30 ธ.ค. 2565 ถึงวันที่ 5 ม.ค. 2566 ที่เลือกกลับวันนี้เพราะตั๋วเครื่องบินช่วงนั้นถูกสุด โดยขบวนที่จะไปคือ ขบวน 171 รถเร็ว กรุงเทพ-สุไหงโกลก ลงที่ชุมทางหาดใหญ่ จากนั้นก็กินข้าวเช้าที่หาดใหญ่แล้วต่อด้วยขบวน 947 ไปลงที่ปาดังเบซาร์ฝั่งมาเลเซีย พอถึงฝั่งมาเลเซียก็ต่อรถ KTM KOMUTER UTARA ไปยัง Butterworth นั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยังเกาะปีนังเพื่อฉลองปีใหม่ที่นั่น จากนั้นก็นั่งรถไฟ ETS ไปลงที่ KL SENTRAL และแวะเที่ยวที่นั่นอีกสักคืน แล้วก็นั่งรถไฟไป JB SENTRAL เพื่อต่อไปยังสิงคโปร์โดยจะต้องต่อรถที่สถานี Gemas พอถึงที่ยะโฮร์ก็ไปเช็คอินโรงแรมที่นั่นแล้วนั่งรถไฟ Shuttle Tebrau เพื่อข้ามช่องแคบยะโฮร์ไปยังด่าน Woodlands ที่สิงคโปร์ โดยผมตั้งเป้าว่าการเดินทางในครั้งนี้จะใช้รถไฟในการเดินทางเพียงอย่างเพียว จะไม่มีขนส่งแบบอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเลย ซึ่งค่อนข้างจะเสี่ยง เพราะถ้าตกรถไปก็จะเสียหายต่อกันเป็นทอด ๆ เลย ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดเรื่องเทศกาลปีใหม่เลยว่าจะมีคนเยอะ คิดแค่ว่ามันเป็นแค่วันหยุดวันหนึ่ง ซึ่งผมก็เกือบจะทริปล่มตั้งแต่ตอนแรกเลย พอผมวางแผนเสร็จก็ได้ไปจองตั๋วรถไฟขบวนไปหาดใหญ่เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ตอนแรกผมจะจองผ่านแอป d-ticket แต่ระบบไม่ให้จอง ผมเห็นท่าไม่ดีจึงรีบบึ่งไปที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่อไปจองตั๋วให้ทัน ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่ผมคาดจริง ๆ ว่าที่นั่งเต็มเกือบหมด เหลืออยู่ไม่กี่ที่ เพราะเป็นช่วงเทศกาล แต่ผมก็จองมาได้ทันพอดี
ผมจ่ายด้วย TRUE MONEY WALLET ซึ่งค่อนข้างจะสะดวก สามารถตัดผ่านบัตรเครดิตได้ แต่ข้อเสียคือถ้าหากจะคืนตั๋วจะไม่สามารถขอเงินคืนได้ แต่พอผมจองตั๋วได้ไม่กี่วันก็มีเหตุระเบิดเส้นทางรถไฟไปปาดังฯติดต่อกัน 2 วันเลย
https://www.prachachat.net/local-economy/news-1141938
(ปัจจุบันเปิดให้บริการตามปกติแล้วครับ เริ่มวันที่ 1 ม.ค. 2566)
เมื่อได้เห็นข่าวนี้ ผมก็กังวลตลอดเลยว่าจะมีรถต่อไปไหม จะทันเปิดให้บริการรึเปล่า ได้ถามที่เพจ PR การรถไฟอยู่เป็นระยะ ๆ แต่การรถไฟก็บอกได้แค่ว่าต้องติดตามเอาเอง ผมก็ต้องหาวิธีการเดินทางใหม่เผื่อไว้หากเส้นทางไปปาดังฯยังไม่เปิดให้บริการ และยังโชคดีที่มีรถให้บริการส่งถึงหน้าด่าน ผมก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง ต่อมาผมก็ได้ค้นคว้าเกี่ยวกับขบวนรถไฟมาเลเซียว่ามีรอบอะไรบ้าง แต่ละรอบราคาเท่าไหร่ แต่ผมดันมาจองตอนใกล้วันที่เดินทางแล้ว ทำให้รถบางคนเริ่มใกล้จะเต็มแล้ว ผมก็ได้จองเส้นทางจาก KL ไปยะโฮร์ก่อน เพราะมันต้องมีต่อที่สถานี Gemas ถ้าพลาดแล้วทริปก็จะเปลี่ยนไปหมดเลย แต่ผมก็ไม่เช็คให้ดี จองขบวน KL SENTRAL-Gemas แล้ว แต่ขบวน Gemas-JB SENTRAL ที่วางแผนไว้กลับเต็มอยู่ขบวนเดียว แผนทั้งหมดของผมจึงต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด จากที่จะค้างคืน KL ก็ต้องเที่ยววันเดียวแล้วนอนบนรถไฟเอา จากที่ออกจาก Butterworth ช่วงสาย ๆ ก็ต้องออกตั้งแต่เช้าตรู่ ทุกอย่างเลยกระชั้นชิดเร็วขึ้น ตั๋วที่ผมจองจึงมีหน้าตาประมาณนี้
วิธีการจองตั๋วรถไฟมาเลเซีย: (Coming Soon)
ส่วนตั๋วขากลับ ผมได้จองไว้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ธ.ค.แล้ว โดยจะขึ้นที่สนามบิน Senai รัฐยะโฮร์ ที่เลือกสนามบินนี้เพราะตั๋วถูกกว่าขึ้นที่สิงคโปร์ตั้ง 3 เท่า และการเดินทางไปสนามบินก็มีรถบัสจาก JB SENTRAL โดยตรงและราคาค่อนข้างถูก ส่วนที่พักเน้นเป็น Hostel เพราะราคาค่อนข้างประหยัดและไปเที่ยวตัวคนเดียว จึงไม่ได้จำเป็นที่จะต้องอยู่โรงแรมให้เปลืองตังค์
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็เริ่มออกเดินทางได้ .....