ขอเกริ่นก่อนวันนี้ไปงานตรียัมปวาย-ตรีปวาย พิธี ช้าหงษ์ ของทาง พราหมณ์ มาร่วมงานในนามผู้โชคดีได้รับเลือกจากทางมิวเซี่ยมสยามเพื่อมาเข้าร่วมกิจกรรม จัดที่ เทวสถานใกล้ๆ แถวๆ เสาชิงช้า วัดสุทัศน์ฯ มีโรงเจ แจกอาหารเจให้ผู้เข้าร่วมงาน ประกอบพิธี...
คนเนืองแน่นไม่มีเก้าอี้/โต้ะ สำหรับวางของ ทานอาหาร ทุกคนก็เลือกมุมทานตามอัธยาศัย ก่อนเริ่มพิธี เราก็เลยหามุมวางของไว้นั่งขอบฟุตบาทตรงใกล้ต้นมะตูมต้นนึงในเทวสถาน แล้วเดินไปรับอาหารเจมาทาน... กลับมาโดนเบียดที่วางของไว้ โดยมีผู้หญิงเอเชียผมดำใส่เสื้อคลุมดำอยู่ตรงโคนต้นไม้ ...สเต้ปที่นั่งจะนั่งสูงกว่าเรา 1 ขยัก...ทีท่า คุยกับต่างชาติ ที่นั่งที่เก้าอี้อยู่ถัดไป ใกล้ๆ ติดๆกัน ผู้หญิงต่างชาติ(อายุน่าจะราวๆ หกสืบกว่า มีไม้พยุงเดิน) ผู้หญิงเสื้อคลุมดำตอนนี้ยังไม่รู้ว่าคนประเทศอะไรเพราะไม่ได้สนใจฟัง(อายุราวยี่สิบปลาย) และเรา (ซึ่งอายุมากกว่าแน่นอน 555)
ดอกแรก คือ เราก็นั่งตรงจุดที่เราวางของไว้ เดินกลับมา เราเดินกลับมา ทำท่าจะนั่งไม่มีการหลบเท้าตรงบริเวณที่เราวางของ เราก็บอกขอโทษนะคะ และก้มไปนั่ง เค้าวางขาตรงฟุตบาท ใกล้กับของเรา แต่ก็ไม่พูดและไม่ขยับเท้านั่งในท่ากางขาแบบ 45°
แบบนี้...แต่เราก็อืม... ช่างเถอะ เราขยับถัดไปอีกหน่อย ที่แคบถ้านั่งลงไปเต็มที่ก็ชนรองเท้า เราไม่คิดมาก ก็คนเยอะ นั่งฟุตบาทกันทั้งแถบ ก็แบ่งๆกันนั่งไป มุมการนั่งคือ หันหน้าตรงข้ามกัน เรานั่งหันเข้าทางด้านใน...ส่วน 2 คนนั้น หันออกด้านนอก
เราก็นั่งทานอาหารเจไป ... คือด้วยความนั่งติดๆ กัน แต่เราไม่ได้สนใจ เลยไม่ได้ยินอะไรชัดเจน เพราะผู้หญิงที่เรายังไม่รู้ว่าคุยประเทศอะไรพูดแค่ google translate จิ้มๆ ยื่นมือถือ เราก็ ยังไม่รู้ สักพัก google มันแปลไม่ได้รึแปลไม่ถูก ผู้หญิงเสื้อคลุมดำคงสื่อสารไม่ได้
พอดีเราทานอะไรเสร็จ หันหน้ามาดูอาหารที่มีคนมาแจกพอดี เลยเห็นว่ายังมีปัญหาพยายามสื่อสาร...ไป มา... แต่ยังไม่ได้คำตอบ...ด้วยหวังดีเผื่อเราช่วยอะไรได้ เลยพูภาษาไทยมีอะไรให้ช่วยไหมคะ? ทั้งสองก็หันมาทางเรา
ดอกที่สอง ผู้หญิงเสื้อคลุมดำหันกลับไปไม่ตอบ...เราก็เอ้รึไม่ใช่คนไทย...เลยลองถามภาษาอังกฤษดูว่ามีอะไรให้ช่วยไหม?...ผู้หญิงต่างชาติพูดกับเรา พูดกลับมาดีมากว่า... เค้าคุยไม่เข้าใจ เค้าอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ที่เสียสละเก้าอี้ให้คนนี้ชื่ออะไร google แปลก็ไม่ใช่...เค้าก็พูดไม่ได้ เลยถามว่าผู้หญิงเสื้อคลุมดำนี้คนไทยเหรอ? ผู้หญิงต่างชาติบอกใช่ เจอกันที่งานนี่แหละ
ดอกที่สาม...เราเลยหันไปถามผู้หญิงคนไทย ว่าชื่ออะไรเหรอคะ?...ผู้หญิงคนไทยยิ้มๆ แล้วหันมามองเราแล้วหัวเราะแบบเปิดปาก แบบขำๆ...แต่ไม่ตอบไม่พูด........ DeadAir ไปแพร้บ ....
เราก็งงว่าทำไมไม่ตอบ...เลยแก้ไขสถาณการณ์... เราเลยหันไปคุยกับต่างชาติเรื่องอื่น ถามว่าเป็นคนที่ไหนยังไง...แล้วก็บอกไปว่าฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงไทยคนนี้ชื่ออะไรนะ ...
(ในใจก็สับสน ตอนแรกนึกว่าไม่ใช่คนไทย ไหนว่าคนไทย ไม่พูด ไม่ได้ยินเรา รึไง??)
สักพักผู้หญิงเสื้อคลุมดำลุกขึ้นละไปเดินวนหาอะไรทานต่อ ... เราก็ไม่ได้คุยอะไร นั่งทานขนมคบเคี้ยวที่มีคนเดินมาแจก สักพักผู้หญิงเสื้อคลุมดำก็เดินกลับมา มานั่งพยายามคุยกับต่างชาติต่อ ... เราก็ไม่ยุ่งละ ...หันหลังเข้าด้านในตามท่านั่งแรกของเรา หันไปทานอาหารที่มาแจกต่อ ...
สักพักผู้หญิงต่างชาติก็มีแขกขาว(พูดไทยชัดเลย เสียงสนทนาดัง ไม่ต้องตั้งใจฟังก็ได้ยินเสียง) สไตล์แขกโพกผ้าบนศีรษะ บอกว่าเป็นเพื่อนของผู้หญิงต่างชาติ ... ผู้หญิงเสื้อคลุมดำก็เลยเอ่ยวาจาคำพูดภาษาไทย ถามนั่นนี่กับแขกขาวคนนั้น เกี่ยวกับต่างชาติเยอะเลย เค้ามาจากไหน ทำงานอะไร อยุ่ตรงไหน มายังไง อายุ เสียงดังในระยะประชิด ...จากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็เฉลยรู้แล้วว่า ผู้หญิงเสื้อคลุมดำคนนี้คือคนไทย พูดเสียงดังถนัดติดหูเลย 555 เราสพรึงกับเหตุการณ์ที่เราเจอนะ แต่ก็ยังนั่งทานอะไรไป แต่ในใจรู้สึกไม่อะเครกับการกระทำของผู้หญิงไทยคนนี้เลย ... เรารู้สึกว่าเรามานั่งตรงนี้ก่อนและเราก็มีความรู้สึกหวังดี อยากช่วยเหลือ เจอแบบนี้ไป สตั้นไปนิดนึงและช่างมั_ไปให้ไวๆ เลย
บรรยากาศมาคุจบลง ที่เราก็ทานขนมนมเนยต่อไป ผู้หญิงต่างชาติ+แขกขาว กำลังลุกจะกลับบ้านแต่แขกขาวมีพระพราหมณ์ผ่านมาพูดคุยทักทายกันอยู่นานเลย คราวนี้เหลือเรานั่งกับผู้หญิงคนไทย แต่เราอีกด้านที่เราหันมีคุณป้านั่งอยู่ แกเพิ่งลุกไปหาไรทานเพิ่มเติมถือกลับมาเต็มไม้เต็มมือ เราเลยขยับบอกแกว่าวางของเลยค่ะ แล้วก็ขยับของส่วนตัวเราให้แก...เลยพูดคุยกันเรื่องพิธีการนิดหน่อยเพราะแกมาบ่อยบ้านอยู่แถวนี้ แกแนะนำนั่นนี่เรานั่งไปจนทานเสร้จ คุณป้าก็ลุกไปแล้ว ...แขกขาวต่างชาติ พระพรามหณ์ยังคุยอยู่ เราก็วางแผนว่าจะไปซื้อชุดไหว้บริเวณด้านหน้า...ทีนี้ก็เหลือผู้หญิงคนไทยนั่งคนเดียว...ตอนเราลุก ผู้หญิงคนไทยเหมือนพูดอะไรอยู่คนเดียว เราก็ไม่ได้สนใจละเพราะความรู้สึกเราคือเค้าไม่อยากให้เรายุ่งมั้ง ถึงปฏิบัติกับเราแบบนั้น...งั้นเราก็อยู่ในที่ของเรา ไม่ยุ่งกัน...จริงๆ เพราะเราหลอนสีหน้าและการกระทำแบบนั้น ไม่เคยเจอ
ดีที่คนอื่นๆ ที่พบ เจอในงานพิธี ดีหมดทุกท่าน มีเมตตา มีน้ำใจ สุภาพกันมากๆ เวลารับอาหารขอบคุณ ยกมือไหว้...และพอ ตอนเราจุดธูป สักการะไหว้ครบ 3 โบสถ์ + ศิวลึงก์ เสร็จก็ผ่านจุดที่เราเคยนั่ง ไม่มีใครอยู่ละ เปลี่ยนกลุ่มคนนั่งไปหมดละ จากที่คนเยอะ ตอน 6 โมงหลังพิธีรับพระ โรงทานเริ่มแจกอาหาร ตอนนี้ 2 ทุ่มกว่า เหลือแต่คนนั่งรอทำพิธี อาหารที่มาแจกเริ่มหมดละ
เราก็เลยกลับไปนั่งจุดเดิม นั่งขยับไปมาพอคนนั้นลุกก็ขยับๆ ไม่ลงตัวก็เราอยากเห็นพิธีตรงจอทีวีใกล้ จนมีพี่สุภาพสตรีอายุมากกว่าเราท่านคนนึง...น่ารักใจดีมากๆ น่าจะเห็นเราขยับไปตรงหน้าทีวีที่ฉายงานในโบสถ์อยู่...แกเดินมาสะกิดละบอกว่านั่งเก้าอี้ไหมมีว่างแล้ว...ที่สำคัญแกเดินไปยกมาวางข้างๆ แกให้เลย น่ารักมาก คนที่นั่งถัดไปก็ขยับให้เรามีช่องว่างเราก็กล่าวขอบคุณ เค้าบอกจะได้นั่งสบายๆ ...ใจดีน่ารักกันมาก [:miniheart: ] แกก้นั่งอยู่คนเดียวแต่มาไหว้ที่นี่ประจำ...แกก็พูดคุยเรื่องรอทำพิธี ขั้นตอนของพิธี คุยเรื่องอาหาร เรื่อยเปื่อย...ขอบคุณพี่มากๆ พี่ทำให้เราใจฟูขึ้นมาจากที่หลอนไปแพร้บนึงช่วงเย็น 555 เราก็เลยได้นั่งเก้าอี้ยาว ร่วมพูดคุยเรื่องพิธีต่างๆ กับแกไป
สรุปนั่งร่วมพิธี ไปถึง ขั้นตอนแรก ราวๆ 22.30น.แล้วกลับเพราะเดะ MRT,BTSหมดละจะลำบาก ก่อนกลับตอนราว สี่ทุ่มเรายกมือไหว้ ลาแกเดินทางกลับหลังจบขั้นตอนที่ 1 ในโบสถ์แรก เพราะกว่าจะจบทุกขั้นตอนเห็นว่าตี 1-2 เราไม่สะดวก แต่ขอบคุณพี่มากๆ จริง ที่ทำให้ยังมีความรู้สึกดีๆกับคนดีๆ
แค่งง..ว่าทำไม? ไม่คุยกับคนไทยด้วยกันแถม อายุน้อยกว่าเราแต่มารยาท??? และเท่าที่ฟังลักษณะการพูดคำถามที่ถามแขกขาว น้ำเสียงแลดู เสียงห้วนๆ ไม่มีคำลงท้าย... ถามก็ไม่ตอบ มองเราแบบ ยิ้ม หัวเราะคือ...
บางทีเจอคนแบบนี้ก็ทำให้เราไม่อยากทำดี รึเสนอตัวช่วยอะไรใครเลย...เอาตรงๆ รู้สึกนอยด์ หลอน และรู้สึกไม่อะเคร
แต่ก็พอเข้าใจสัจธรรม ว่าคนบางคน เราก็ไม่รู้เค้าคิดอะไรอยู่ แต่เรามีแต่ความจริงใจ หวังดีให้เท่านั้นเอง
งง ว่าเราทำผิดอะไรเหรอ??? ถึงทำแบบนั้น กคนคิดว่ายังไงคะ เวลาเจอคนแบบนี้ใส่ จัดการกับความรู้สึกรึแก้ไขกันยังไง แนะนำได้คะ ขอบคุณค่ะ
หวังดี เราผิดเหรอ? แต่ดันเจอคนไม่มีมารยาทใส่ จัดการกับความรู้สึกไงดี???
คนเนืองแน่นไม่มีเก้าอี้/โต้ะ สำหรับวางของ ทานอาหาร ทุกคนก็เลือกมุมทานตามอัธยาศัย ก่อนเริ่มพิธี เราก็เลยหามุมวางของไว้นั่งขอบฟุตบาทตรงใกล้ต้นมะตูมต้นนึงในเทวสถาน แล้วเดินไปรับอาหารเจมาทาน... กลับมาโดนเบียดที่วางของไว้ โดยมีผู้หญิงเอเชียผมดำใส่เสื้อคลุมดำอยู่ตรงโคนต้นไม้ ...สเต้ปที่นั่งจะนั่งสูงกว่าเรา 1 ขยัก...ทีท่า คุยกับต่างชาติ ที่นั่งที่เก้าอี้อยู่ถัดไป ใกล้ๆ ติดๆกัน ผู้หญิงต่างชาติ(อายุน่าจะราวๆ หกสืบกว่า มีไม้พยุงเดิน) ผู้หญิงเสื้อคลุมดำตอนนี้ยังไม่รู้ว่าคนประเทศอะไรเพราะไม่ได้สนใจฟัง(อายุราวยี่สิบปลาย) และเรา (ซึ่งอายุมากกว่าแน่นอน 555)
ดอกแรก คือ เราก็นั่งตรงจุดที่เราวางของไว้ เดินกลับมา เราเดินกลับมา ทำท่าจะนั่งไม่มีการหลบเท้าตรงบริเวณที่เราวางของ เราก็บอกขอโทษนะคะ และก้มไปนั่ง เค้าวางขาตรงฟุตบาท ใกล้กับของเรา แต่ก็ไม่พูดและไม่ขยับเท้านั่งในท่ากางขาแบบ 45°
แบบนี้...แต่เราก็อืม... ช่างเถอะ เราขยับถัดไปอีกหน่อย ที่แคบถ้านั่งลงไปเต็มที่ก็ชนรองเท้า เราไม่คิดมาก ก็คนเยอะ นั่งฟุตบาทกันทั้งแถบ ก็แบ่งๆกันนั่งไป มุมการนั่งคือ หันหน้าตรงข้ามกัน เรานั่งหันเข้าทางด้านใน...ส่วน 2 คนนั้น หันออกด้านนอก
เราก็นั่งทานอาหารเจไป ... คือด้วยความนั่งติดๆ กัน แต่เราไม่ได้สนใจ เลยไม่ได้ยินอะไรชัดเจน เพราะผู้หญิงที่เรายังไม่รู้ว่าคุยประเทศอะไรพูดแค่ google translate จิ้มๆ ยื่นมือถือ เราก็ ยังไม่รู้ สักพัก google มันแปลไม่ได้รึแปลไม่ถูก ผู้หญิงเสื้อคลุมดำคงสื่อสารไม่ได้
พอดีเราทานอะไรเสร็จ หันหน้ามาดูอาหารที่มีคนมาแจกพอดี เลยเห็นว่ายังมีปัญหาพยายามสื่อสาร...ไป มา... แต่ยังไม่ได้คำตอบ...ด้วยหวังดีเผื่อเราช่วยอะไรได้ เลยพูภาษาไทยมีอะไรให้ช่วยไหมคะ? ทั้งสองก็หันมาทางเรา
ดอกที่สอง ผู้หญิงเสื้อคลุมดำหันกลับไปไม่ตอบ...เราก็เอ้รึไม่ใช่คนไทย...เลยลองถามภาษาอังกฤษดูว่ามีอะไรให้ช่วยไหม?...ผู้หญิงต่างชาติพูดกับเรา พูดกลับมาดีมากว่า... เค้าคุยไม่เข้าใจ เค้าอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ที่เสียสละเก้าอี้ให้คนนี้ชื่ออะไร google แปลก็ไม่ใช่...เค้าก็พูดไม่ได้ เลยถามว่าผู้หญิงเสื้อคลุมดำนี้คนไทยเหรอ? ผู้หญิงต่างชาติบอกใช่ เจอกันที่งานนี่แหละ
ดอกที่สาม...เราเลยหันไปถามผู้หญิงคนไทย ว่าชื่ออะไรเหรอคะ?...ผู้หญิงคนไทยยิ้มๆ แล้วหันมามองเราแล้วหัวเราะแบบเปิดปาก แบบขำๆ...แต่ไม่ตอบไม่พูด........ DeadAir ไปแพร้บ ....
เราก็งงว่าทำไมไม่ตอบ...เลยแก้ไขสถาณการณ์... เราเลยหันไปคุยกับต่างชาติเรื่องอื่น ถามว่าเป็นคนที่ไหนยังไง...แล้วก็บอกไปว่าฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงไทยคนนี้ชื่ออะไรนะ ...
(ในใจก็สับสน ตอนแรกนึกว่าไม่ใช่คนไทย ไหนว่าคนไทย ไม่พูด ไม่ได้ยินเรา รึไง??)
สักพักผู้หญิงเสื้อคลุมดำลุกขึ้นละไปเดินวนหาอะไรทานต่อ ... เราก็ไม่ได้คุยอะไร นั่งทานขนมคบเคี้ยวที่มีคนเดินมาแจก สักพักผู้หญิงเสื้อคลุมดำก็เดินกลับมา มานั่งพยายามคุยกับต่างชาติต่อ ... เราก็ไม่ยุ่งละ ...หันหลังเข้าด้านในตามท่านั่งแรกของเรา หันไปทานอาหารที่มาแจกต่อ ...
สักพักผู้หญิงต่างชาติก็มีแขกขาว(พูดไทยชัดเลย เสียงสนทนาดัง ไม่ต้องตั้งใจฟังก็ได้ยินเสียง) สไตล์แขกโพกผ้าบนศีรษะ บอกว่าเป็นเพื่อนของผู้หญิงต่างชาติ ... ผู้หญิงเสื้อคลุมดำก็เลยเอ่ยวาจาคำพูดภาษาไทย ถามนั่นนี่กับแขกขาวคนนั้น เกี่ยวกับต่างชาติเยอะเลย เค้ามาจากไหน ทำงานอะไร อยุ่ตรงไหน มายังไง อายุ เสียงดังในระยะประชิด ...จากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็เฉลยรู้แล้วว่า ผู้หญิงเสื้อคลุมดำคนนี้คือคนไทย พูดเสียงดังถนัดติดหูเลย 555 เราสพรึงกับเหตุการณ์ที่เราเจอนะ แต่ก็ยังนั่งทานอะไรไป แต่ในใจรู้สึกไม่อะเครกับการกระทำของผู้หญิงไทยคนนี้เลย ... เรารู้สึกว่าเรามานั่งตรงนี้ก่อนและเราก็มีความรู้สึกหวังดี อยากช่วยเหลือ เจอแบบนี้ไป สตั้นไปนิดนึงและช่างมั_ไปให้ไวๆ เลย
บรรยากาศมาคุจบลง ที่เราก็ทานขนมนมเนยต่อไป ผู้หญิงต่างชาติ+แขกขาว กำลังลุกจะกลับบ้านแต่แขกขาวมีพระพราหมณ์ผ่านมาพูดคุยทักทายกันอยู่นานเลย คราวนี้เหลือเรานั่งกับผู้หญิงคนไทย แต่เราอีกด้านที่เราหันมีคุณป้านั่งอยู่ แกเพิ่งลุกไปหาไรทานเพิ่มเติมถือกลับมาเต็มไม้เต็มมือ เราเลยขยับบอกแกว่าวางของเลยค่ะ แล้วก็ขยับของส่วนตัวเราให้แก...เลยพูดคุยกันเรื่องพิธีการนิดหน่อยเพราะแกมาบ่อยบ้านอยู่แถวนี้ แกแนะนำนั่นนี่เรานั่งไปจนทานเสร้จ คุณป้าก็ลุกไปแล้ว ...แขกขาวต่างชาติ พระพรามหณ์ยังคุยอยู่ เราก็วางแผนว่าจะไปซื้อชุดไหว้บริเวณด้านหน้า...ทีนี้ก็เหลือผู้หญิงคนไทยนั่งคนเดียว...ตอนเราลุก ผู้หญิงคนไทยเหมือนพูดอะไรอยู่คนเดียว เราก็ไม่ได้สนใจละเพราะความรู้สึกเราคือเค้าไม่อยากให้เรายุ่งมั้ง ถึงปฏิบัติกับเราแบบนั้น...งั้นเราก็อยู่ในที่ของเรา ไม่ยุ่งกัน...จริงๆ เพราะเราหลอนสีหน้าและการกระทำแบบนั้น ไม่เคยเจอ
ดีที่คนอื่นๆ ที่พบ เจอในงานพิธี ดีหมดทุกท่าน มีเมตตา มีน้ำใจ สุภาพกันมากๆ เวลารับอาหารขอบคุณ ยกมือไหว้...และพอ ตอนเราจุดธูป สักการะไหว้ครบ 3 โบสถ์ + ศิวลึงก์ เสร็จก็ผ่านจุดที่เราเคยนั่ง ไม่มีใครอยู่ละ เปลี่ยนกลุ่มคนนั่งไปหมดละ จากที่คนเยอะ ตอน 6 โมงหลังพิธีรับพระ โรงทานเริ่มแจกอาหาร ตอนนี้ 2 ทุ่มกว่า เหลือแต่คนนั่งรอทำพิธี อาหารที่มาแจกเริ่มหมดละ
เราก็เลยกลับไปนั่งจุดเดิม นั่งขยับไปมาพอคนนั้นลุกก็ขยับๆ ไม่ลงตัวก็เราอยากเห็นพิธีตรงจอทีวีใกล้ จนมีพี่สุภาพสตรีอายุมากกว่าเราท่านคนนึง...น่ารักใจดีมากๆ น่าจะเห็นเราขยับไปตรงหน้าทีวีที่ฉายงานในโบสถ์อยู่...แกเดินมาสะกิดละบอกว่านั่งเก้าอี้ไหมมีว่างแล้ว...ที่สำคัญแกเดินไปยกมาวางข้างๆ แกให้เลย น่ารักมาก คนที่นั่งถัดไปก็ขยับให้เรามีช่องว่างเราก็กล่าวขอบคุณ เค้าบอกจะได้นั่งสบายๆ ...ใจดีน่ารักกันมาก [:miniheart: ] แกก้นั่งอยู่คนเดียวแต่มาไหว้ที่นี่ประจำ...แกก็พูดคุยเรื่องรอทำพิธี ขั้นตอนของพิธี คุยเรื่องอาหาร เรื่อยเปื่อย...ขอบคุณพี่มากๆ พี่ทำให้เราใจฟูขึ้นมาจากที่หลอนไปแพร้บนึงช่วงเย็น 555 เราก็เลยได้นั่งเก้าอี้ยาว ร่วมพูดคุยเรื่องพิธีต่างๆ กับแกไป
สรุปนั่งร่วมพิธี ไปถึง ขั้นตอนแรก ราวๆ 22.30น.แล้วกลับเพราะเดะ MRT,BTSหมดละจะลำบาก ก่อนกลับตอนราว สี่ทุ่มเรายกมือไหว้ ลาแกเดินทางกลับหลังจบขั้นตอนที่ 1 ในโบสถ์แรก เพราะกว่าจะจบทุกขั้นตอนเห็นว่าตี 1-2 เราไม่สะดวก แต่ขอบคุณพี่มากๆ จริง ที่ทำให้ยังมีความรู้สึกดีๆกับคนดีๆ
แค่งง..ว่าทำไม? ไม่คุยกับคนไทยด้วยกันแถม อายุน้อยกว่าเราแต่มารยาท??? และเท่าที่ฟังลักษณะการพูดคำถามที่ถามแขกขาว น้ำเสียงแลดู เสียงห้วนๆ ไม่มีคำลงท้าย... ถามก็ไม่ตอบ มองเราแบบ ยิ้ม หัวเราะคือ...
บางทีเจอคนแบบนี้ก็ทำให้เราไม่อยากทำดี รึเสนอตัวช่วยอะไรใครเลย...เอาตรงๆ รู้สึกนอยด์ หลอน และรู้สึกไม่อะเคร
แต่ก็พอเข้าใจสัจธรรม ว่าคนบางคน เราก็ไม่รู้เค้าคิดอะไรอยู่ แต่เรามีแต่ความจริงใจ หวังดีให้เท่านั้นเอง
งง ว่าเราทำผิดอะไรเหรอ??? ถึงทำแบบนั้น กคนคิดว่ายังไงคะ เวลาเจอคนแบบนี้ใส่ จัดการกับความรู้สึกรึแก้ไขกันยังไง แนะนำได้คะ ขอบคุณค่ะ