ขออภัยโพสยาวนะครับ ถ้ายังไงอยากให้ลองอ่านในตอนท้ายของเรื่องที่ความคิดเห็นที่ 2 นะครับ
ขอออกตัวก่อนว่าเป้าหมายของโพสนี้ คือการแชร์ประสบการณ์การซื้อบ้าน ในราคา 8 หลักที่ประทับใจไม่รู้ลืม หวังว่าทางบริษัทเจ้าของโครงการ (ถ้ารู้ตัว) จะนำไปแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นนะครับ ออกตัวอีกนิดว่าเป็นจากมุมมองของผมเองนะครับ และขออนุญาตไม่เอ่ยนามบริษัทหรือผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะไม่อยากโดนฟ้องร้อง ถ้าใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมหลังไมค์มาได้ครับ
เริ่มต้นที่ผมและภรรยาไปดูบ้านที่โครงการนี้แล้ว ถูกใจทั้งพื้นที่ของตัวบ้าน และแบบบ้านจึงได้ทำการจองและทำสัญญา แม้ว่าชื่อเสียงของบริษัทเจ้าของโครงการจะเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงอสังหาฯ เมื่อขอสินเชื่อผ่าน ทางโครงการก็นัดโอน พร้อมให้เข้ามาตรวจบ้านโดยผมได้จ้าง inspector เข้ามาตรวจ อันนี้ยอมรับว่าย่ามใจเกินไปที่โอนบ้านก่อนที่จะตรวจรับบ้าน แต่เนื่องด้วยในสัญญามีการชดเชยในส่วนของการส่งบ้านล่าช้า เนื่องจากไม่สามารถเก็บงานได้ตามกำหนด 30 วันจากวันโอน หลังจากโอนบ้านเรียบร้อย ระหว่างรอทางโครงการเก็บ defect ก็เริ่มทำการวางแผนทั้งการต่อเติม บิ้วอิน การย้าย และที่สำคัญคือวางแผนชีวิตลูก เนื่องจากอยู่ในวัยที่กำลังจะเข้าอนุบาล ระหว่างนั้นก็มีแวะเข้าไปดูบ้านบ้างเป็นครั้งคราว เนื่องจากเริ่มทำการนัดหมาย ผรม เข้าไปดูหน้างานเพิ่อประเมินงานต่อเติม แต่ก็ไม่ได้ดูเรื่องงานแก้ไข defect เท่าไหร่ หลังจากทาง sale ของโครงการแจ้งว่าเก็บ defect เรียบร้อย ก่อนที่จะนัด inspector เข้าไปดู ก็ได้แวะเข้าไปดูหน้างานก่อน และเห็นว่า defect แทบไม่ได้แก้ไขเลย และยิ่งพอเราโฟกัสว่าจุดไหนแก้ หรือไม่แก้ยิ่งเจอ defect มากขึ้นๆ ก็ได้ทำรายงานส่งให้ทาง sale เพื่อแก้ไข
หลังจากนั้นผ่านไปอีก 1 เดือนเต็ม ทาง sale ก็แจ้งกลับมาว่าพร้อมตรวจแล้ว ซึ่งผมก็ขอเข้าไปดูเองก่อน และผลคงไม่ต้องเดา defect เก่ายังอยู่ defect ที่แจ้งเพิ่มไม่แก้ไข ให้ความเป็นธรรมนิดนึง ไม่ใช่ว่าทุกอย่างไม่ถูกแก้ไขเลย แต่การที่ทางโครงการแจ้งว่า พร้อมตรวจ defect น่าจะต้องถูกแก้ไขหมดแล้วสิ หลังจากนั้นทาง sale ให้ร้องเรียบผ่านทาง call center เพื่อเป็นการกดดันทางทีมช่างให้ดำเนินการแก้ไข รวมถึงให้เบอร์ติดต่อของวิศวกรโครงการ เพื่อติดตามงาน defect และตรวจสอบเรื่องเงินชดเชย ซึ่งก็ต้องใช้เวลาทั้งวันในการไล่ defect ทั้งหลังใหม่กับทางวิศวกรโครงการ หลังจากคุยแจกแจงรายละเอียดเรียบร้อย มีหลายเรื่องที่ทำได้เลย หลายเรื่องที่ต้องปรึกษาจากหลายๆ ฝ่ายก่อน ก็ไม่เป็นไร แต่ก็ยื่นเงื่อนไขให้ทางทีมวิศวกรโครงการทำหน้าที่ในการรายงานผลการแก้ไขทุกอาทิตย์ ช่วงเดือนนี้ผมเริ่มเข้าไปดูบ้านทุกอาทิตย์ เพราะต้องการเห็นความคืบหน้า แต่ว่าทุกอาทิตย์ผมกลับเป็ยคนที่ต้องตามกับทางวิศวกรโครงการว่ามีอะไรแก้ไขบ้าง บางทีก็ไม่ได้คำตอบ พอไปดูหน้างานก็เหมือนเดิม มีการแก้ไขบ้าง ในส่วนที่มีปัญหาหนักๆ จะเป็นเรื่องของบานประตูหน้าต่างอลูมิเนียม ที่มีความเสียหาย บานมีรอย รางบุบ อุปกรณ์ที่ใช้ไม่มาตรฐาน ชิ้นส่วนหาย และอย่างท้ายๆ คือเรื่องความเรียบร้อย
และแล้วเวลาก็ผ่านไปอีก 1 เดือน กับการโต้ตอบไปมากับทางวิศวกรโครงการ และงานที่แทบจะไม่คืบงาน defect ที่แจ้งไปตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้วบางส่วนก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งๆ ที่ก็ตามทุกอาทิตย์ว่ายังไม่แก้อีกเหรอ บางรายการแก้ไขก็ไม่เรียบร้อย เช่น ยาวแนวกรเบื้องยาแนวใหม่แต่ก็ยังมีช่องว่างในบางจุด ราวบันได้ที่แตกหัก ก็ไม่เปลี่ยนให้ แต่ใช้การโป้วแล้วทาสีทับ ต้องจิ้ๆๆๆ จึงจะเปลี่ยน มุมหลังคาที่แตกหักก็ไม่เปลี่ยนสักที เบ้าไฟที่ไม่ลงล๊อค ทุกดวง ย้ำทุกดวงก็ไม่ปรับให้ ทั้งๆที่ แค่ดึงออกมาแล้วใส่เข้าไปใหม่ก็เรียบร้อยแล้ว และเรื่องบางประตูหน้าต่าง อลูมิเนียมที่มีปัญหาก็ยังไม่มีแนวทางในการแก้ไข มีการเอาช่างอลูมิเนียมเข้ามาแก้ไข ซึ่งเป็นช่างจาก supplier ที่นำเข้าโดยเฉพาะ ในส่วนของรางที่บุบ ก็ทำการใช้อุปกรณ์สักอย่างในการดัดให้กลับมาตรง แต่ก็ทำให้รางเสียหายหนักกว่าเดิม มีการทำสีให้ใหม่ แต่ก็น่าเกียดว่าเดิม โดยเฉพาะตรงที่แก้ไขเรื่องบุบ บอกว่าต้องใช้สีพ่น แต่ตรงรอยบุบเห็นชัดๆ ว่าเอาสีมาปาด งานช่างมาตรฐานระดับโลกจิงๆ (ของเริ่มขึ้นละ) ซึ่งทางโครงการได้เชิญช่างเทคนิคของทาง supplier เข้ามาคุยเพื่อสรุปปัญหาและแนวทาง ซึ่งโดยสรุปก็คือจะหาเหตุผลหว่านล้อมให้ยอมรับบานประตูหน้าต่างที่เหมือนผ่านการใช้งานมาแล้วเป็นปีๆ และสุดท้ายก็ไม่สามารถให้ข้อสรุปได้ ณ จุดนี้ผมได้เริ่มคุยกับทาง sale ในส่วนข้อเรียกร้องในส่วนของค่าชดเชยตามสัญญา และการทำงานที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เสียทั้งเวลาและโอกาสหลายๆ อย่างเป็นยอดเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งทาง sale ก็จะไปเสนอทางผู้ใหญ่ให้
... มีต่อ (1/3)
ซื้อบ้าน 8 หลักประทับใจไม่รู้ลืม
ขอออกตัวก่อนว่าเป้าหมายของโพสนี้ คือการแชร์ประสบการณ์การซื้อบ้าน ในราคา 8 หลักที่ประทับใจไม่รู้ลืม หวังว่าทางบริษัทเจ้าของโครงการ (ถ้ารู้ตัว) จะนำไปแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นนะครับ ออกตัวอีกนิดว่าเป็นจากมุมมองของผมเองนะครับ และขออนุญาตไม่เอ่ยนามบริษัทหรือผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะไม่อยากโดนฟ้องร้อง ถ้าใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมหลังไมค์มาได้ครับ
เริ่มต้นที่ผมและภรรยาไปดูบ้านที่โครงการนี้แล้ว ถูกใจทั้งพื้นที่ของตัวบ้าน และแบบบ้านจึงได้ทำการจองและทำสัญญา แม้ว่าชื่อเสียงของบริษัทเจ้าของโครงการจะเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงอสังหาฯ เมื่อขอสินเชื่อผ่าน ทางโครงการก็นัดโอน พร้อมให้เข้ามาตรวจบ้านโดยผมได้จ้าง inspector เข้ามาตรวจ อันนี้ยอมรับว่าย่ามใจเกินไปที่โอนบ้านก่อนที่จะตรวจรับบ้าน แต่เนื่องด้วยในสัญญามีการชดเชยในส่วนของการส่งบ้านล่าช้า เนื่องจากไม่สามารถเก็บงานได้ตามกำหนด 30 วันจากวันโอน หลังจากโอนบ้านเรียบร้อย ระหว่างรอทางโครงการเก็บ defect ก็เริ่มทำการวางแผนทั้งการต่อเติม บิ้วอิน การย้าย และที่สำคัญคือวางแผนชีวิตลูก เนื่องจากอยู่ในวัยที่กำลังจะเข้าอนุบาล ระหว่างนั้นก็มีแวะเข้าไปดูบ้านบ้างเป็นครั้งคราว เนื่องจากเริ่มทำการนัดหมาย ผรม เข้าไปดูหน้างานเพิ่อประเมินงานต่อเติม แต่ก็ไม่ได้ดูเรื่องงานแก้ไข defect เท่าไหร่ หลังจากทาง sale ของโครงการแจ้งว่าเก็บ defect เรียบร้อย ก่อนที่จะนัด inspector เข้าไปดู ก็ได้แวะเข้าไปดูหน้างานก่อน และเห็นว่า defect แทบไม่ได้แก้ไขเลย และยิ่งพอเราโฟกัสว่าจุดไหนแก้ หรือไม่แก้ยิ่งเจอ defect มากขึ้นๆ ก็ได้ทำรายงานส่งให้ทาง sale เพื่อแก้ไข
หลังจากนั้นผ่านไปอีก 1 เดือนเต็ม ทาง sale ก็แจ้งกลับมาว่าพร้อมตรวจแล้ว ซึ่งผมก็ขอเข้าไปดูเองก่อน และผลคงไม่ต้องเดา defect เก่ายังอยู่ defect ที่แจ้งเพิ่มไม่แก้ไข ให้ความเป็นธรรมนิดนึง ไม่ใช่ว่าทุกอย่างไม่ถูกแก้ไขเลย แต่การที่ทางโครงการแจ้งว่า พร้อมตรวจ defect น่าจะต้องถูกแก้ไขหมดแล้วสิ หลังจากนั้นทาง sale ให้ร้องเรียบผ่านทาง call center เพื่อเป็นการกดดันทางทีมช่างให้ดำเนินการแก้ไข รวมถึงให้เบอร์ติดต่อของวิศวกรโครงการ เพื่อติดตามงาน defect และตรวจสอบเรื่องเงินชดเชย ซึ่งก็ต้องใช้เวลาทั้งวันในการไล่ defect ทั้งหลังใหม่กับทางวิศวกรโครงการ หลังจากคุยแจกแจงรายละเอียดเรียบร้อย มีหลายเรื่องที่ทำได้เลย หลายเรื่องที่ต้องปรึกษาจากหลายๆ ฝ่ายก่อน ก็ไม่เป็นไร แต่ก็ยื่นเงื่อนไขให้ทางทีมวิศวกรโครงการทำหน้าที่ในการรายงานผลการแก้ไขทุกอาทิตย์ ช่วงเดือนนี้ผมเริ่มเข้าไปดูบ้านทุกอาทิตย์ เพราะต้องการเห็นความคืบหน้า แต่ว่าทุกอาทิตย์ผมกลับเป็ยคนที่ต้องตามกับทางวิศวกรโครงการว่ามีอะไรแก้ไขบ้าง บางทีก็ไม่ได้คำตอบ พอไปดูหน้างานก็เหมือนเดิม มีการแก้ไขบ้าง ในส่วนที่มีปัญหาหนักๆ จะเป็นเรื่องของบานประตูหน้าต่างอลูมิเนียม ที่มีความเสียหาย บานมีรอย รางบุบ อุปกรณ์ที่ใช้ไม่มาตรฐาน ชิ้นส่วนหาย และอย่างท้ายๆ คือเรื่องความเรียบร้อย
และแล้วเวลาก็ผ่านไปอีก 1 เดือน กับการโต้ตอบไปมากับทางวิศวกรโครงการ และงานที่แทบจะไม่คืบงาน defect ที่แจ้งไปตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้วบางส่วนก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งๆ ที่ก็ตามทุกอาทิตย์ว่ายังไม่แก้อีกเหรอ บางรายการแก้ไขก็ไม่เรียบร้อย เช่น ยาวแนวกรเบื้องยาแนวใหม่แต่ก็ยังมีช่องว่างในบางจุด ราวบันได้ที่แตกหัก ก็ไม่เปลี่ยนให้ แต่ใช้การโป้วแล้วทาสีทับ ต้องจิ้ๆๆๆ จึงจะเปลี่ยน มุมหลังคาที่แตกหักก็ไม่เปลี่ยนสักที เบ้าไฟที่ไม่ลงล๊อค ทุกดวง ย้ำทุกดวงก็ไม่ปรับให้ ทั้งๆที่ แค่ดึงออกมาแล้วใส่เข้าไปใหม่ก็เรียบร้อยแล้ว และเรื่องบางประตูหน้าต่าง อลูมิเนียมที่มีปัญหาก็ยังไม่มีแนวทางในการแก้ไข มีการเอาช่างอลูมิเนียมเข้ามาแก้ไข ซึ่งเป็นช่างจาก supplier ที่นำเข้าโดยเฉพาะ ในส่วนของรางที่บุบ ก็ทำการใช้อุปกรณ์สักอย่างในการดัดให้กลับมาตรง แต่ก็ทำให้รางเสียหายหนักกว่าเดิม มีการทำสีให้ใหม่ แต่ก็น่าเกียดว่าเดิม โดยเฉพาะตรงที่แก้ไขเรื่องบุบ บอกว่าต้องใช้สีพ่น แต่ตรงรอยบุบเห็นชัดๆ ว่าเอาสีมาปาด งานช่างมาตรฐานระดับโลกจิงๆ (ของเริ่มขึ้นละ) ซึ่งทางโครงการได้เชิญช่างเทคนิคของทาง supplier เข้ามาคุยเพื่อสรุปปัญหาและแนวทาง ซึ่งโดยสรุปก็คือจะหาเหตุผลหว่านล้อมให้ยอมรับบานประตูหน้าต่างที่เหมือนผ่านการใช้งานมาแล้วเป็นปีๆ และสุดท้ายก็ไม่สามารถให้ข้อสรุปได้ ณ จุดนี้ผมได้เริ่มคุยกับทาง sale ในส่วนข้อเรียกร้องในส่วนของค่าชดเชยตามสัญญา และการทำงานที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เสียทั้งเวลาและโอกาสหลายๆ อย่างเป็นยอดเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งทาง sale ก็จะไปเสนอทางผู้ใหญ่ให้
... มีต่อ (1/3)