ขอเล่าคร่าวๆก่อนนะ ว่าเรากับเพื่อนคนนี้ สนิทกันพอสมควร บ้านอยู่ใกล้กัน แต่ตอนเด็กเคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน ไม่ถูกกันด้วย เพราะมันไม่พอใจอะไรเราไม่รู้เลยบอกให้เพื่อนๆคนอื่นไม่คุยกับเรา อ่ะ.. พอโตขึ้นก็แยกย้ายกันไป แล้วก็ได้เริ่มกลับมาคุยกันตอนช่วงๆนึง เพราะดันมาเรียนที่เดียวกัน เริ่มสนิทกันมากขึ้น ตอนแรกคิดว่าโตๆกันแล้ว นิสัยคนเรามันเปลี่ยนกันได้ แต่กลับ... เอิ่มม มันเอาเราไปพูดให้คนอื่นๆฟัง พวกเพื่อนๆ พูดต่อหน้าครูๆ ว่า เราเป็นลูกคุณหนู อย่างงั้นอย่างงี้ ซึ่งตัวเราเอง ไม่ใช่ลูกคนหนู จน+หางานทำอยู่ เอาอะไรไปลูกคุณหนูก๊อนนนน ตัวเราเองจะพูดตลอดเลย ว่าถ้ากูเป็นลูกคุณหนูจริง คงไม่ดิ้นรนหางานทำหรอก แล้วต่อมาเราได้งานทำที่นึง เป็นที่ที่ครูเราเป็นเจ้าของ แล้วคุณครูก็พูดประมาณว่า ไม่คิดเลย ว่าลูกคุณหนูอย่างเราจะมาทำงานนี้ เราก็แบบ ครูคะ ไปเอามาจากไหนว่าหนูเป็นลูกคุณหนู ปกติเราไม่เคยทำตัวให้ใครคิดแบบนั้นเลย ติดดินแบบมากๆ บอกตลอดว่า ตังไม่มีจะแ_กแล้วค่าาา.. ก็เลยมาย้อนนึกกลับไปว่า อ่ออ เพื่อนคนนี้เป็นคนเคยพูด ก็เลยแบบ ไม่รู้จะต้องรู้สึกยังไง มันงงอ่ะ อันนี้คือเรื่องแรก
เรื่องสองคือ เราออกจากงาน และได้งานที่นึง ซึ่งเพื่อนคนนี้ก็มาทำด้วย แต่มาทีหลัง มาสมัครก็ไม่เคยบอกเราด้วย มารู้อีกทีคือแม่เราบอก โดยที่เราก็เป็นคนช่วยติวเรื่องสอบสัมภาษณ์ให้ แต่มันก็บอกกับทุกคนว่า ที่มันสอบได้ว่าเพราะคนที่สัมภาษณ์เห็นหน้ามันแล้วชอบ เลยรับเข้าทำงาน. //เอิ่มม อะเค ไม่ว่ากัน// และต่อมาคือ เราเครียดกับงานมากขึ้น เพราะเปนช่วงเริ่มงานใหม่ๆ เยอะ+ยาก ต้องปรับตัวหลายๆอย่าง ต้องหาหอ หารถ ไปทำงาน เลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลาคุยกับใคร แต่เพื่อนคนนี้ทักมาเราก็ตอบตลอดนะ ไม่ใช่ไม่ตอบ แต่มันกลับไปบอกคนอื่นว่าเราไม่คุยกับมัน ต่อมาก็เรื่องหอ มันไปบอกกับพ่อแม่มันว่าเราไม่ให้อยู่หอด้วย บอกเราจะอยู่คนเดียว เราก็ห้ะ.. ไม่เคยทักมาถามเลยนะ ว่าเอออ กูมาอยู่หอด้วยได้มั้ย หารกันมั้ย.. มันไม่เคยถามเลย มีแต่ถามว่า.. อยู่หอไหน ราคาเท่าไร ค่าน้ำค่าไหหน่วยเท่าไร เราก็ตอบทุกอย่างที่มันถาม.. แต่มันพูดแบบนั้น เราก็งงว่าเราไปพูดตอนไหนว่าไม่อยากให้มันอยู่ด้วย สรุปคือ คนอื่นๆก็พามองเราไม่ดีว่า เอออ.. เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ไม่คุยกันซะละ คนที่บ้านมันก็กลายเป็นไม่คุยกะเราสะงั้น สรุปเราผิดปะ อันนี้งงจริง จะทักไปถามหลายรอบละ แต่แม่เราห้ามไว้
ยังไม่รวมถึงเรื่องที่มันเหยียดเพื่อนสนิทอีกคนของเราอีกนะ แต่ไม่อยากเล่าลงลึก เพราะมันไม่ได้มาเหยียดเรา แต่เพื่อนสนิทอีกคนของเราก็เล่าให้ฟังว่า มันก็นินทานะ แต่ไม่รู้ และที่กูไม่อยากบอก เพราะบอกไปกลัวไม่เชื่อ และคนที่จะดูไม่ดี มันคือกู กูเลยให้รับรู้ด้วยตัวเองดีกว่า.. มันมีหลายเรื่องนะเอาจริง แต่พิมไม่หมด ยังไงก็ขอความเห็นจากหลายๆมุมมองหน่อยว่า สรุปเราผิด เราคิดมากไปเอง หรือมันต้องการอะไรจากเรา งงจริงๆ
พิมถูกๆผิดๆ หรือพิมงงๆ ก็ขออภัยด้วยนะคะ 🙏🏻🙏🏻
ใครเคยมีเพื่อนที่แบบแปลกๆมั้งปะ แปลกแบบงงว่าต้องการอะไรจากกู แบบเนี่ย??
เรื่องสองคือ เราออกจากงาน และได้งานที่นึง ซึ่งเพื่อนคนนี้ก็มาทำด้วย แต่มาทีหลัง มาสมัครก็ไม่เคยบอกเราด้วย มารู้อีกทีคือแม่เราบอก โดยที่เราก็เป็นคนช่วยติวเรื่องสอบสัมภาษณ์ให้ แต่มันก็บอกกับทุกคนว่า ที่มันสอบได้ว่าเพราะคนที่สัมภาษณ์เห็นหน้ามันแล้วชอบ เลยรับเข้าทำงาน. //เอิ่มม อะเค ไม่ว่ากัน// และต่อมาคือ เราเครียดกับงานมากขึ้น เพราะเปนช่วงเริ่มงานใหม่ๆ เยอะ+ยาก ต้องปรับตัวหลายๆอย่าง ต้องหาหอ หารถ ไปทำงาน เลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลาคุยกับใคร แต่เพื่อนคนนี้ทักมาเราก็ตอบตลอดนะ ไม่ใช่ไม่ตอบ แต่มันกลับไปบอกคนอื่นว่าเราไม่คุยกับมัน ต่อมาก็เรื่องหอ มันไปบอกกับพ่อแม่มันว่าเราไม่ให้อยู่หอด้วย บอกเราจะอยู่คนเดียว เราก็ห้ะ.. ไม่เคยทักมาถามเลยนะ ว่าเอออ กูมาอยู่หอด้วยได้มั้ย หารกันมั้ย.. มันไม่เคยถามเลย มีแต่ถามว่า.. อยู่หอไหน ราคาเท่าไร ค่าน้ำค่าไหหน่วยเท่าไร เราก็ตอบทุกอย่างที่มันถาม.. แต่มันพูดแบบนั้น เราก็งงว่าเราไปพูดตอนไหนว่าไม่อยากให้มันอยู่ด้วย สรุปคือ คนอื่นๆก็พามองเราไม่ดีว่า เอออ.. เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ไม่คุยกันซะละ คนที่บ้านมันก็กลายเป็นไม่คุยกะเราสะงั้น สรุปเราผิดปะ อันนี้งงจริง จะทักไปถามหลายรอบละ แต่แม่เราห้ามไว้
ยังไม่รวมถึงเรื่องที่มันเหยียดเพื่อนสนิทอีกคนของเราอีกนะ แต่ไม่อยากเล่าลงลึก เพราะมันไม่ได้มาเหยียดเรา แต่เพื่อนสนิทอีกคนของเราก็เล่าให้ฟังว่า มันก็นินทานะ แต่ไม่รู้ และที่กูไม่อยากบอก เพราะบอกไปกลัวไม่เชื่อ และคนที่จะดูไม่ดี มันคือกู กูเลยให้รับรู้ด้วยตัวเองดีกว่า.. มันมีหลายเรื่องนะเอาจริง แต่พิมไม่หมด ยังไงก็ขอความเห็นจากหลายๆมุมมองหน่อยว่า สรุปเราผิด เราคิดมากไปเอง หรือมันต้องการอะไรจากเรา งงจริงๆ
พิมถูกๆผิดๆ หรือพิมงงๆ ก็ขออภัยด้วยนะคะ 🙏🏻🙏🏻