๑๐. โสตาปัตติสังยุต
เวฬุทวารวรรคที่ ๑
ราชาสูตร
คุณธรรมของพระอริยสาวก
[๑๔๑๑] พระนครสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พระเจ้าจักรพรรดิเสวยราชสมบัติเป็นอิสราธิบดีในทวีปทั้ง ๔
สวรรคตแล้วย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ คือ ได้เป็นสหายของพวกเทพชั้นดาวดึงส์
ท้าวเธอแวดล้อมไปด้วยหมู่นางอัปสร เอิบอิ่ม พรั่งพร้อมบำเรออยู่ด้วยกามคุณ ๕ อั
นเป็นทิพย์ ณ สวนนันทวัน ในดาวดึงส์พิภพนั้น
ท้าวเธอประกอบด้วยธรรม ๔ ประการก็จริง
ถึงอย่างนั้น ท้าวเธอก็ยังไม่พ้นจากนรก จากกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน <---------ยังไม่รอดนรก
จากปิตติวิสัย และจากอบาย ทุคติ วินิบาต.
[๑๔๑๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อริยสาวกเยียวยาอัตภาพอยู่ด้วยคำข้าวที่แสวงหามาด้วยปลีแข้ง
นุ่งห่มแม้ผ้าที่เศร้าหมอง เธอประกอบด้วยธรรม ๔ ประการก็จริง
ถึงอย่างนั้น เธอก็พ้นจากนรก จากกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน <--------รอดนรก..แล้ว
จากปิตติวิสัย และจากอบาย ทุคติ วินิบาต
ธรรม ๔ประการเป็นไฉน?
อริยสาวกในธรรมวินัยนี้
1.
ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก
เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว
เป็นผู้จำแนกธรรม
2.
ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรมว่า พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว
อันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน
3.
ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค
ปฏิบัติดีแล้ว ปฏิบัติตรง ปฏิบัติเป็นธรรม ปฏิบัติสมควร คือ คู่แห่งบุรุษ ๔
บุรุษบุคคล ๘ นี่พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค ผู้ควรของคำนับ ควรของต้อนรับ ควรของ
ทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
4.
ประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไท วิญญูชนสรรเสริญ
อันตัณหาและทิฏฐิไม่ลูบคลำแล้ว เป็นไปเพื่อสมาธิ
อริยสาวกย่อมประกอบด้วยธรรม ๔ ประการเหล่านี้
[๑๔๑๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
การได้ทวีปทั้ง ๔ กับการได้ธรรม ๔ ประการ
การได้ทวีปทั้ง ๔ ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ ซึ่งจำแนกออกไปแล้ว ๑๖ หน ของการได้ธรรม ๔ ประการ.<-----เทียบไม่ได้กับโสดาบัน
https://etipitaka.com/read/thai/19/344/
สรุป...ตอนที่ 2..นี้ <-----อันนี้ความเห็นผมเอง....ผู้อื่นอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างจากผม...ก็กรุณาแนะนำได้เลย ครับ
1. แม้นจะเป็นถึงพระะเจ้าจักรพรรดิ...ถ้ายังไม่เป็นอริยบุคคล...ก็งานกร่อยหละ...
เพราะยังไม่รอด..อาบาย~นรก-ทุกคติ-วินิบาต...นะ
2. มีพระสูตรหนึ่ง... ที่พระศาสดากล่าวถามสาวกว่า...ดินที่พระองค์ช้อนขึ้นมาด้วยเล็บนี้..
เที่ยบกับ...แผ่นดินทั้งโลก..อันไหนมากกว่ากัน
พระองค์ทรงสรุปว่า..เช่นกัน....ผู้ที่ตายจากอัตภาพนี้จะไปสู่..นรก...มากกว่ามาก....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. จากข้อ 2.... อย่านิ่งดูดาย... มองผู้คนรอบข้าง..รวมตัวเราเองด้วย...
เมื่อตายไปก็ไปสู่ " นรก "...ด้วยความน่าจะเป็นถึง 99.9999% ว่าแน่ใจได้เลย..ครับ
4. พระโสดาบัน....ท่านรอดนรก... ถ้าต้องการความมั่นใจ 100% ที่จะรอดนรก....
ก็จะต้องทำให้ความเป็นโสดาบันเกิดกับเราให้ได้
ไม่งั้นก็ไปลุ้นเอากกับ......0.000...001%....ที่อาจจะรอดจากนรกเอา...ครับ
5. จากพระสูตรนี้...พระศาสดากล่าวถือคุณธรรรม 4 ประการ..ของพระโสดาบันไว้ดังนี้ ครับ
- มั่นคงใน...พระพุทธ
- มั่นคงใน...พระธรรม
- มั่นคงใน...พระสงฆ์
- มีศีล..อันเป็นที่รักของพระอริยเจ้า ( ศีล๕...สำหรับผู้ครองเรือน)
ปล. แต่ที่จริง...คุณธรรมของพระโสดาบัน.มีหลายนัย.... กล่าวได้ถึง 20-30นัย..เลย
แล้วจะเอามาแสดงเรื่อยๆ...ครับ
อันนี้..ตอนที่ 1👉https://ppantip.com/topic/41811597
สัตว์ผู้อริยสาวก..ผู้โสดาบัน..ตอนที่ 2
๑๐. โสตาปัตติสังยุต
เวฬุทวารวรรคที่ ๑
ราชาสูตร
คุณธรรมของพระอริยสาวก
[๑๔๑๑] พระนครสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระเจ้าจักรพรรดิเสวยราชสมบัติเป็นอิสราธิบดีในทวีปทั้ง ๔
สวรรคตแล้วย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ คือ ได้เป็นสหายของพวกเทพชั้นดาวดึงส์
ท้าวเธอแวดล้อมไปด้วยหมู่นางอัปสร เอิบอิ่ม พรั่งพร้อมบำเรออยู่ด้วยกามคุณ ๕ อั
นเป็นทิพย์ ณ สวนนันทวัน ในดาวดึงส์พิภพนั้น
ท้าวเธอประกอบด้วยธรรม ๔ ประการก็จริง
ถึงอย่างนั้น ท้าวเธอก็ยังไม่พ้นจากนรก จากกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน <---------ยังไม่รอดนรก
จากปิตติวิสัย และจากอบาย ทุคติ วินิบาต.
[๑๔๑๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อริยสาวกเยียวยาอัตภาพอยู่ด้วยคำข้าวที่แสวงหามาด้วยปลีแข้ง
นุ่งห่มแม้ผ้าที่เศร้าหมอง เธอประกอบด้วยธรรม ๔ ประการก็จริง
ถึงอย่างนั้น เธอก็พ้นจากนรก จากกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน <--------รอดนรก..แล้ว
จากปิตติวิสัย และจากอบาย ทุคติ วินิบาต
ธรรม ๔ประการเป็นไฉน?
อริยสาวกในธรรมวินัยนี้
1. ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก
เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว
เป็นผู้จำแนกธรรม
2. ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรมว่า พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว
อันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน
3. ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค
ปฏิบัติดีแล้ว ปฏิบัติตรง ปฏิบัติเป็นธรรม ปฏิบัติสมควร คือ คู่แห่งบุรุษ ๔
บุรุษบุคคล ๘ นี่พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค ผู้ควรของคำนับ ควรของต้อนรับ ควรของ
ทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
4. ประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไท วิญญูชนสรรเสริญ
อันตัณหาและทิฏฐิไม่ลูบคลำแล้ว เป็นไปเพื่อสมาธิ
อริยสาวกย่อมประกอบด้วยธรรม ๔ ประการเหล่านี้
[๑๔๑๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย การได้ทวีปทั้ง ๔ กับการได้ธรรม ๔ ประการ
การได้ทวีปทั้ง ๔ ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ ซึ่งจำแนกออกไปแล้ว ๑๖ หน ของการได้ธรรม ๔ ประการ.<-----เทียบไม่ได้กับโสดาบัน
https://etipitaka.com/read/thai/19/344/
สรุป...ตอนที่ 2..นี้ <-----อันนี้ความเห็นผมเอง....ผู้อื่นอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างจากผม...ก็กรุณาแนะนำได้เลย ครับ
1. แม้นจะเป็นถึงพระะเจ้าจักรพรรดิ...ถ้ายังไม่เป็นอริยบุคคล...ก็งานกร่อยหละ...
เพราะยังไม่รอด..อาบาย~นรก-ทุกคติ-วินิบาต...นะ
2. มีพระสูตรหนึ่ง... ที่พระศาสดากล่าวถามสาวกว่า...ดินที่พระองค์ช้อนขึ้นมาด้วยเล็บนี้..
เที่ยบกับ...แผ่นดินทั้งโลก..อันไหนมากกว่ากัน
พระองค์ทรงสรุปว่า..เช่นกัน....ผู้ที่ตายจากอัตภาพนี้จะไปสู่..นรก...มากกว่ามาก....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้