เลี้ยงลูกอยู่บ้านเเต่สามีไม่ชอบ

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ พอดีมีเรื่องเครียดมากไม่รู้จะปรึกษาใครได้ ตามหัวข้อเลยนะคะ 
เราเเต่งงานกับสามีมา11ปี มีลูกด้วยกัน2คน 
คนโตอายุ4ขวบเข้าอนุบาล1 คนเล็ก2ขวบ ยังไม่เข้าเรียน ก่อนมีลูกเราเคยทำงาน พอมีลูกเราเลยตัดสินใจมาอยู่บ้านเพื่อเลี้ยงลูกเอง โดยที่สามีเป็นคนหาเงินคนเดียว สามีเรารับราชการ เงินเดือนไม่เยอะเเต่อาศัยขายของออนไลน์ ซึ่งเราก็ช่วย  งานบ้านทุกอย่างเราเป็นคนทำทั้งหมด ทั้งเลี้ยงลูก ทำกับข้าว ซักผ้า กวดบ้านถูบ้าน ทุกอย่างตั้งเ้ต่ตื่นนอนจนเข้านอน เรื่องงานบ้านเราทำทั้งหมด สามีมีหน้าที่เเค่ทำงานนอกบ้าน ตื่นเช้ามาเค้าก็อาบน้ำไปทำงานเลย 
สามีไม่เคยช่วยเหลืองานบ้าน โดยเขาพูดว่างานบ้านเป็นหน้าที่เรา ถ้าเขาทำงานบ้านด้วยเท่ากับว่าเขาต้องรับผิดชอบทุกอย่างสิ  เขาชอบพูดว่าเราไม่คิดจะออกไปหางานทำบ้างหรอ ลูกก็ให้ปู่ย่าตายายเลี้ยงให้ เพื่อช่วยเขาหาเงิน ซึ่งเราบอกตรงนี้เลยนะคะ ตั้งเเต่เราไม่มีงาน เราไม่เคยได้ซื้ออะไรเป็นของตัวเอง ไม่เคนเรียงร้องอยากได้อยากกินของเเพงเลย  เเต่สามีกับเเม่สามีมักมาว่าเราตลอดว่าไม่ออกไปทำงาน เหมือนคนไร้ค่า  เราเคยออกไปทำงานละทำตามที่เขาเเนะนำคือให้ปู่ย่าตายายเลี้ยงลูก เเต่สิ่งที่ได้คือ ลูกเราป่วยตลอด ผอม เข้าโรงพยาบาล 
เราทนเห็นเเบบไหนไม่ได้ก็เลยต้องออกงานมาเลี้ยงเอง ลูกเราไม่ป่วยอีกเลย เเต่ก็ต้องทะเลาะกับสามีทุกวัน (สามีเราเป็นคนติดเที่ยวกินเเพง)  เราเคยคุยเรื่องหย่ากันเเล้ว เขาบอกจะเอาลูกไว้ ซึ่งเขามีสิทธิ์เพราะเราไม่มีงานยังไงเขาก็ได้ลูก  ตอนนี้เราเครียดมากค่ะ ร้องไห้คนเดียวตลอด เราต้องทำยังไงดีคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
แสดงว่าไม่ได้วางแผนครอบครัวร่วมกันล่วงหน้าว่าจะมีลูกกี่คน ใครจะเป็นคนเลี้ยง ฯลฯ ใช่ไหมคะ ไม่งั้นอาจทวนสิ่งที่เคยคุยกันไว้ได้ กรณีที่ไม่ได้วางแผนกันก่อนนี่คิดอีกแง่ก็เข้าใจสามีอยู่บ้างตรงที่เขาไม่ได้รู้ตัวหรือเตรียมตัวมาว่าจะต้องเป็นคนทำมาหาเลี้ยงคน 4 คน ซึ่งยังไม่รวมพ่อแม่ของเขา ในขณะเดียวกันสามีดูหัวโบราณและผลักภาระหน่อยๆ เพราะคิดแต่จะให้ปู่ย่าตายายเลี้ยงลูกให้ เราคิดว่ามีทางเลือกหลายทาง ทางหนึ่งคือให้ปู่ย่าตายายเลี้ยงแบบที่สามีบอกแล้วคุณออกไปทำงาน เด็กเล็กป่วยบ่อยเป็นสิ่งที่พบได้บ่อย ป้องกันแก้ไขเท่าที่ทำได้แล้วพยายามทำใจให้สบาย ทางสองคือขอให้รอจนลูกคนเล็กเข้ารร.แล้วคุณกลับไปทำงาน ทางสามถ้าจะหย่า คุณควรหางานให้ได้ก่อนหรือปรึกษานักกฎหมาย (หรือรอนักกฎหมายมาช่วยตอบ) ว่าพ่อจะมีสิทธิในตัวลูกเลยจริงๆ เหรอในกรณีที่แม่ไม่ได้ทำงาน พื้นฐานและฐานะครอบครัวฝ่ายแม่มีผลไหม เป็นต้น ยังไงขอให้กำลังใจค่ะ เข้าใจเลยว่าการดูแลลูกกับทำงานบ้านทั้งหมดมันเหนื่อยและเครียดมากอยู่แล้วยังมีปัญหากับสามีอีก กอดๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ถ้าคุณอยากเลี้ยงเพื่อความสบายใจคุณ

คุณก็ตั้งเป้าไว้เลย ว่าจะเลี้ยงถึงอายุเท่านี้ๆ โดยทั่วไปเด็กโตหน่อยก็พอรู้เรื่องดูแลไม่ยากไม่ป่วยบ่อยอะไรแล้ว 4 ขวบนี่สบาย ก็เหลือลูกคนเล็กคุณแค่นั้น ตีซะว่า 2 ปี แล้วก็คุยกับที่บ้านเลยว่าขอดูถึงอายุเท่านั้นแล้วค่อยไปทำงาน เขาโอเคไหม

ยังไงก็ตาม ถึงตอนนี้คุณจะหางานทำได้เลย และเลิกกันหรือแยกกัน คุณก็ยังไม่ได้ดูลูก ต้องเอาไปฝากสถานรับเลี้ยงอยู่ดี ซึ่งทั่วๆ ไป แล้ว ก็ไม่ได้ดีไปกว่าญาติเลี้ยงหรอก

เกริ่นไว้หน่อย ว่า ปัญหาทุกอย่าง อย่าเพิ่งเอาความคิดตัวเราเองเป็นที่ตั้งอย่างเดียว ในมุมของบางคน เขาก็อาจจะมองว่า เด็ก 2 ขวบก็โตแล้ว ถ้ารายได้ไม่มาก ก็น่าจะไปช่วยกันหารายได้มากกว่า ในเมื่อครอบครัวก็ช่วยเลี้ยง ส่วนปัญหาที่ว่าป่วยบ่อย ก็ต้องไปดูให้ลึกอีก ว่าป่วยเป็นอะไร สาเหตุเพราะอะไร เกิดจากการเลี้ยงดูที่ผิดไหม ถ้าใช่ เราจะ Educate เขา หรือแก้ไขตรงไหนได้ไหม

เรื่องทุกอย่าง อย่าเพิ่งหวังให้คนอื่นต้องคิดเหมือนเรา ทำเหมือนเราแล้วถึงจะถูก พอคนคิดไม่ตรงก็ด่า บางทีคนเรามันต้องปรับกันจูนกัน ถ้าเอาแต่ด่ากันว่าคิดไม่เหมือนคือแย่ คือเห็นแก่ตัว แบบนี้มันมีแต่จะยิ่งร้าว

ปล.บางทีความเห็นพันทิปนี่มันช่างย้อนแย้ง บางอย่างถ้าผู้ชายทำ อย่างอยู่บ้านเลี้ยงลูก ให้เมียไปทำงาน รับรองโดนด่าว่าแมงดาแน่ๆ ขนาดทำงานคนเดียว เมียอยู่บ้านทำงานบ้านเลี้ยงลูก ยังโดนด่าว่าเลวเลย ความเห็นส่วนตัวผม 4 ขวบกับ 2 ขวบนี่ก็โตพอจะส่งสถานรับเลี้ยงได้แล้วไม่ได้อ่อนมาก สมัยนี้ทำงานคนเดียว ยิ่งถ้ารับราชการคงไม่พอใช้แน่ ในบางมุม เช่นมุมของสามีคุณ เขาก็คงมองว่า คุณจะอยู่บ้านเลี้ยงลูกแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่ ลูกก็เริ่มโตแล้ว พ่อแม่ก็เลี้ยงให้ พอบอกให้ไปทำงานก็ดันจะเลิก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่