สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
คนที่สอง ตัดทิ้งเลย คุณไม่ชอบน้องเขา ซึ่งเพิ่งอยู่ ม 3 เขาจะต้องเลี้ยงกันอีกยาว กว่าจะส่งเรียนจนจบ
มีปัญหาขัดแย้งตามมาเยอะแน่ๆ และต่อให้แต่งงาน มีลูก เขาก็ยังต้องส่งเงินให้ที่บ้านค่ะ
เผลอๆ ถ้าน้องไม่มีความรับผิดชอบ เรียนจบ ไม่ทำงาน
เขาก็ยังต้องเลี้ยงดูยาวไป … (พอจะเห็นภาพของปัญหาไหมคะ ?)
คนที่สาม คนลักษณะนิสัยแบบนี้ ควรเป็นตัวเลือกแรกที่คัดทิ้งค่ะ (แต่คุณชอบเขาไง เราเลยเอามาเขียนไว้ย่อหน้านี้)
เขาอายุมากแล้ว แต่ไม่มีพฤติกรรมที่เหมาะกับความเป็นหัวหน้าครอบครัวสักนิด
คนชอบเที่ยว จะเปลี่ยนได้ ก็ต่อเมื่อเบื่อ หรือ เห็นการเที่ยวไม่มีสาระ หรือ มีสิ่งที่ดีกว่า น่าสนใจกว่าให้ทำ
อย่าแต่งงานกับคนที่คุณคาดหวัง ว่าเขาจะเปลี่ยนนิสัย ในอนาคตค่ะ __จะมีความผิดหวังรออยู่แน่นอน__
ในเมื่อห้ามตอบว่าไม่เลือกเลยทั้งสามคน
จึงจำต้องยอม กัดฟัน กล้อมแกล้ม เลือกคนที่ 1 มาแบบฝืนๆค่ะ
เพราะสนิทกันมา รู้จักกันมา
ข้อเสียเดียว คือ เขา ทำตัวไร้คุณค่า ไม่ทำงานทำการ ไม่พัฒนาตัวเอง
ตรงนี้ จะว่าแก้ง่าย ก็ง่ายอยู่
เขาอาจจะโตช้า ยังไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ ทางบ้านก็ตามใจ และไม่เคยมีเรื่องทุกข์ร้อนให้ต้องกดดันตัวเอง
ถ้าเขารักคุณจริงๆ รักมากกว่าความขี้เกียจของตัวเอง เขาจะยอมหางานทำ และถ้าจังหวะเหมาะ เจองานที่ถูกใจ
เขาจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ถึงตอนนั้น ค่อยพร้อมมีครอบครัวค่ะ
มีปัญหาขัดแย้งตามมาเยอะแน่ๆ และต่อให้แต่งงาน มีลูก เขาก็ยังต้องส่งเงินให้ที่บ้านค่ะ
เผลอๆ ถ้าน้องไม่มีความรับผิดชอบ เรียนจบ ไม่ทำงาน
เขาก็ยังต้องเลี้ยงดูยาวไป … (พอจะเห็นภาพของปัญหาไหมคะ ?)
คนที่สาม คนลักษณะนิสัยแบบนี้ ควรเป็นตัวเลือกแรกที่คัดทิ้งค่ะ (แต่คุณชอบเขาไง เราเลยเอามาเขียนไว้ย่อหน้านี้)
เขาอายุมากแล้ว แต่ไม่มีพฤติกรรมที่เหมาะกับความเป็นหัวหน้าครอบครัวสักนิด
คนชอบเที่ยว จะเปลี่ยนได้ ก็ต่อเมื่อเบื่อ หรือ เห็นการเที่ยวไม่มีสาระ หรือ มีสิ่งที่ดีกว่า น่าสนใจกว่าให้ทำ
อย่าแต่งงานกับคนที่คุณคาดหวัง ว่าเขาจะเปลี่ยนนิสัย ในอนาคตค่ะ __จะมีความผิดหวังรออยู่แน่นอน__
ในเมื่อห้ามตอบว่าไม่เลือกเลยทั้งสามคน
จึงจำต้องยอม กัดฟัน กล้อมแกล้ม เลือกคนที่ 1 มาแบบฝืนๆค่ะ
เพราะสนิทกันมา รู้จักกันมา
ข้อเสียเดียว คือ เขา ทำตัวไร้คุณค่า ไม่ทำงานทำการ ไม่พัฒนาตัวเอง
ตรงนี้ จะว่าแก้ง่าย ก็ง่ายอยู่
เขาอาจจะโตช้า ยังไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ ทางบ้านก็ตามใจ และไม่เคยมีเรื่องทุกข์ร้อนให้ต้องกดดันตัวเอง
ถ้าเขารักคุณจริงๆ รักมากกว่าความขี้เกียจของตัวเอง เขาจะยอมหางานทำ และถ้าจังหวะเหมาะ เจองานที่ถูกใจ
เขาจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ถึงตอนนั้น ค่อยพร้อมมีครอบครัวค่ะ
ความคิดเห็นที่ 4
ใน 3 คนนี้คนที่ 1 ดีสุดครับไม่ได้บอกว่าคุณหิวเงินนะครับ สิ่งสำคัญคือคนที่ 1 รวยแล้วฉลาดด้วยไหมครับ ถ้าโง่นี้รวยไปเดี๋ยวก็หมดครับ เนื่องจากผมก็มีเพื่อนรวย คนรวยอะครับไม่ต้องทำงานก็มีกินทั้งชีวิตแล้วครับ ถ้ารู้จักที่จะใช้เงิน
แต่ว่าคนที่ 3 นี้แย่สุดเพราะว่าอายุเยอะแล้วถ้าเที่ยวทุกวันสุขภาพตอนหลังจะแย่มากๆ คุณเองยังไม่เคยเห็นจุดจบสายเที่ยวเวลาป่วยจะไปเร็วมาก รุ่นพี่ผมก็ทรงนี้แต่กินจนหมอถามว่าจะเลิกหรือจะตาย คนเราบางทีสุดไปมันก็ไม่ดีครับ คือถ้าเที่ยวแบบนานๆครั้งก็ยังบอกว่า แต่ถ้าเที่ยวหนักๆเลยระยะยาวมีปัญหาแน่ๆ
คน 2 กลางๆคบไปน่าจะมีปัญหาเรื่องการเงินบางที่อาจจะต้องไปช่วยบ้านเค้า
อันนี้ตอบเล่นๆนะครับ ถ้าใจจริงจะบอกว่าในโลกไม่ได้มีผู้ชายแค่ 3 คน คุณทำงานไปเรื่อยๆใช่ไหมครับเดี๋ยวก็มีคนมีจีบเพิ่ม แบบให้เพื่อนช่วยแนะนำก็ได้นะครับ ถ้ามันแย่ทั้ง 3 คนอยู่คนเดียวไปเลยอาจจะดีกว่านครับ
แต่ว่าคนที่ 3 นี้แย่สุดเพราะว่าอายุเยอะแล้วถ้าเที่ยวทุกวันสุขภาพตอนหลังจะแย่มากๆ คุณเองยังไม่เคยเห็นจุดจบสายเที่ยวเวลาป่วยจะไปเร็วมาก รุ่นพี่ผมก็ทรงนี้แต่กินจนหมอถามว่าจะเลิกหรือจะตาย คนเราบางทีสุดไปมันก็ไม่ดีครับ คือถ้าเที่ยวแบบนานๆครั้งก็ยังบอกว่า แต่ถ้าเที่ยวหนักๆเลยระยะยาวมีปัญหาแน่ๆ
คน 2 กลางๆคบไปน่าจะมีปัญหาเรื่องการเงินบางที่อาจจะต้องไปช่วยบ้านเค้า
อันนี้ตอบเล่นๆนะครับ ถ้าใจจริงจะบอกว่าในโลกไม่ได้มีผู้ชายแค่ 3 คน คุณทำงานไปเรื่อยๆใช่ไหมครับเดี๋ยวก็มีคนมีจีบเพิ่ม แบบให้เพื่อนช่วยแนะนำก็ได้นะครับ ถ้ามันแย่ทั้ง 3 คนอยู่คนเดียวไปเลยอาจจะดีกว่านครับ
แสดงความคิดเห็น
เราตัดสินใจถูกมั้ยถ้าจะเลือกผู้ชายไลฟ์สไตล์ต่างกันมาเป็นแฟน
คนแรกเป็นเพื่อนสมัยเรียนปริญญาตรี อยู่คณะเดียวกันค่ะ ที่บ้านเขาค่อนข้างมีฐานะดีมาก แล้วก็รู้จักกันมาแล้วหลายปี แต่ปัญหาก็คือเพื่อนเราคนนี้เขาไม่ได้ทำงานค่ะ ไม่ทำงานที่หมายถึงไม่ทำงานจริงๆและไม่ได้เรียนต่อปริญญาโทหรือใดใดด้วย ก่อนหน้าที่จะไปเรียนปริญญาโทวันที่เขาไปส่งเรา (ตอนนั้นยังไม่ได้จีบกันนะคะ) เขาเคยรับปากเราว่ากลับมาเขาจะทำงานแต่พอเรากลับมาเขาก็ยังไม่ทำงานค่ะ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมที่บ้านเขาถึงยอม ไม่แน่ใจว่าเขามีแผนจะทำงานของที่บ้านหลังจากนี้มั้ยแต่ ณ ปัจจุบันเหมือนจะไม่ค่ะ ซึ่งเราก็เคยคุยกับเพื่อนๆในกลุ่มถึงเรื่องนี้ว่าที่บ้านเขายอมรึเปล่าแต่เขาก็เป็นลูกชายคนเดียวอะค่ะ ที่บ้านเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาเลยอยู่บ้านเฉยๆไปเรื่อย (เขาบอกว่าเราว่าเขาเล่นหุ้นค่ะ เงินทุนคือที่บ้านให้ แต่เท่าที่ดูในช่วงนี้ตลาดหุ้นมันก็ไม่ได้สวยเลยค่ะ เขาเองก็เล่นแบบนานๆเล่นทีไม่ได้ใช้ effort ในการศึกษาเท่าไหร่ เรามองว่าเขาเล่นแบบ Speculator อะค่ะไม่ใช่ Investor ซึ่งเรามองว่าแบบนี้ไม่ใช่การทำงานค่ะ) เราชอบนิสัยเขานะคะ รู้สึกอยู่ด้วยแล้วเป็นตัวเองเพราะเป็นเพื่อนกันมาก่อนรู้จักกันเกือบทุกอย่าง แต่ที่เราไม่ชอบคือเราไม่ชอบผู้ชายไม่ทำงานค่ะ เราไม่รู้ว่าถ้าแต่งงานและมีลูกกันไปเขาจะสอนลูกเราได้ยังไงถ้าพ่อเป็นแบบนี้อะค่ะ
คนที่สองเป็นเพื่อนของเพื่อนสมัยประถมค่ะ เราเคยนัดเจอกับเพื่อนสมัยประถมและเขาพาเพื่อนมาด้วยซึ่งก็คือผู้ชายคนนี้ เขามีอาชีพเป็นข้าราชการค่ะ เงินเดือนน้อยกว่าเราเป็นหลักเท่า แต่เขานิสัยดีมากกกค่ะ เขาค่อนข้างเอาใจเราแล้วก็ปากหวานแล้วก็เป็นคนที่มีวินัยในตัวเองเป็นอย่างมาก ทั้งยังเป็นคนประหยัดอดออมด้วย แต่เราคิดว่าเขาไม่ได้รู้จักเราเท่าไหร่เพราะเขาก็รู้จักเราผ่านเพื่อนอีกทีแต่ยังไงก็ตามในนิสัยที่ผิวเผินเราก็ชอบในความตื่นเช้าเหมือนกัน แล้วก็ธรรมะธรรมโมของเขา บางทีไปเดทกันเขาชอบพาเราไปวัดค่ะเพราะเขารู้ว่าเราชอบโดยเฉพาะวัดที่คนน้อยๆ (เราไม่ชอบที่ที่คนเยอะค่ะ) แล้วเขาก็ยังเป็นคนสุภาพแล้วก็ใจเย็นมากๆๆด้วย แต่ประเด็นคือเราค่อนข้างโตกันมาอย่างต่างกันอะค่ะ เขาเป็นคนต่างจังหวัดค่ะแต่เราเป็นคนกรุงเทพ แล้วเขาก็เป็นเสาหลักของบ้านเป็นพี่ชายคนโตที่มีน้องสาวแล้วก็แม่กับยายที่อยู่บ้านที่ต่างจังหวัด ทำให้เขาก็เหมือนต้องคอยดูแลน้องๆและครอบครัว และเป็นคนที่ต้องส่งเงินให้ที่บ้านน่ะค่ะ แล้วก็ยังต้องส่งน้องเรียนด้วย (ตอนนี้น้องอยู่ม.3ค่ะ เราเคยเจอ เรามองว่าเป็นเด็กที่ไม่ค่อยเอาอ่าวเท่าไหร่ มองดูแล้วก็รู้ว่าน่าจะมีปัญหาในอนาคตแน่) ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าถ้าอนาคตเราแต่งงานกับเขา เขายังจะต้องแบ่งเงินไปจุนเจือกับครอบครัวอยู่หรือเปล่า
ส่วนคนสุดท้ายเป็นคนที่เราชอบที่สุดค่ะเป็นรุ่นพี่ที่ทำงาน เขาเป็นหัวหน้าฝ่ายที่ไม่ใช่ฝ่ายของเราค่ะ แต่จบปริญญาโทมาจากอังกฤษเหมือนกันแล้วก็จบมหาลัยเดียวกับเราตอนปริญญาตรีด้วย แต่คนละคณะ เขาค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ค่ะอายุ 35 ที่บ้านมีฐานะดีมาก เขาเป็นพี่ชายคนโต แล้วก็เป็นคนที่นอกจากจะทำงานประจำแล้วก็ยังทำธุรกิจเล็กๆของตัวเองด้วย(เรื่องรายได้เราไม่ทราบค่ะเราไม่กล้าถาม) ฟังดูเหมือนจะดีใช่มั้ยคะแต่ประเด็นคือพี่คนนี้เขาเป็นคนเที่ยวกลางคืน (แบบเราเมื่อก่อน) ค่ะ ซึ่งเราอ่ะ พอเราเลิกเที่ยวแล้วเราไม่ชอบผู้ชายเที่ยวกลางคืนค่ะ เราไม่ชอบคนกินเหล้าสูบบุหรี่ซึ่งพี่เขาทำหมดแล้วทำบ่อยมากกกกด้วยแบบแทบจะทุกวัน ยิ่งถ้าช่วงไหนงานน้อยคือทุกวันค่ะ แต่เรื่องอื่นเขาก็โอเคนะคะ เขาจีบเราแบบที่เราชอบ ไม่ได้ดูปากหวานเกินไปแต่ก็ไม่ได้ดูถ่อยเกินไป ไม่ได้ยัดเยียดที่จะเปย์เราและมองว่าเราเป็นผู้หญิงหิวเงิน (เพราะเราไม่ได้หิวค่ะเราอิ่มแล้ว) คือเขาชอบเปย์ค่ะแต่เราก็ชอบจ่ายเหมือนกัน เลยผลัดกันจ่าย (ซึ่งเขาจ่ายมากกว่า) ทัศนคติและความเป็นมาของชีวิตค่อนข้างคล้ายกันแต่ติดอย่างเดียวก็คือเรื่องที่เขายังเที่ยวและติดเพื่อนอยู่อะค่ะ หลายๆครั้งเขาก็พอเราไปด้วยซึ่งเราเองก็สามารถเข้าได้กับเพื่อนเขานะคะ พอดีเราเองเป็นผู้หญิงคอแข็งแล้วก็เป็นคนเฮฮาประมาณหนึ่ง ทำให้เพื่อนๆเขาก็โอเคกับเราหลายๆครั้งพี่เขาก็จะมาชวนเราไปด้วยเพราะบอกว่าเพื่อนเขาอยากเจอเรา แล้วเขาก็บอกว่าเขาอยากใช้เวลากับเราซึ่งเราก็เห็นอยู่เพราะหลายทีที่เข้าพยายามหาเวลาไปออกกำลังกายกับเราวันเสาร์อาทิตย์หรือไม่ก็ชวนกันไปปีนเขาเพราะเขารู้ว่าเราชอบ (เรารู้ว่าเขาเองก็ไม่ได้จอยเท่าไหร่) เราเองเลยอยากแสดงให้เขาเห็นถึงความพยายามที่เรามีบ้างอะค่ะ แต่จะให้เราไปเที่ยวกับเขาบ่อยๆเราเองก็ไปไม่ไหวค่ะ แต่ประเด็นคือเราไม่อยากดื่มแล้วอะค่ะ เราว่ามันเสียสุขภาพ แล้วเวลาเรากลับบ้านดึกๆแม่กับอาม่าเราเขาก็เป็นห่วงเราด้วยค่ะ พอเราบอกพี่เขาพี่เขาก็เข้าใจนะคะ แล้วเราก็มีแยบๆไปด้วยว่าเราเองก็ไม่อยากให้เขาดื่มแต่เขาก็ย้อนถามกลับมาว่าดื่มแล้วผิดอะไรซึ่งเราก็สตั๊นไปเหมือนกันเพราะตอบไม่ได้ เพราะถ้าจะว่าว่าเสียสุขภาพเขาก็ไม่ได้กินเอาจริงเอาจังขนาดนั้นหรือถ้าจะบอกว่าเปลืองเงินเขาก็มีเงินเหลือมากพอที่ต่อจะให้ดื่มทุกวันเขาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะค่ะ
คำถามก็คือ จริงๆแล้วเราควรเลือกพี่เขาตามที่ใจเราบอกถูกมั้ยคะ (อันนี้แนะนำมาได้เลยค่ะ เราไม่ใช่ผู้หญิงที่ใช้แค่ความรู้สึกในการตัดสินใจที่จะมีความรัก เราคิดหลายเรื่องค่ะ เรามองว่าชีวิตคู่มันคือส่วนเสริมของชีวิตค่ะไม่ใช่ส่วนหลัก เพราะงั้นเราจะใช้สมองในการตัดสินใจค่อนข้างมาก) แล้วถ้าเราเลือกเขาแล้วในอนาคตจะมีปัญหากันมั้ยอะคะ
คำถามถัดมาคือแล้วพอจะมีวิธีไหนที่ถ้าเราตัดสินใจคบกันจริงๆแล้วพี่เขาพอจะเปลี่ยนได้มั้ย เพราะถ้าจะให้เราเปลี่ยนเราก็ไม่อยากเปลี่ยนอะค่ะ เราเที่ยวมาเยอะแล้วตอนเป็นวัยรุ่นตอนนี้เราแก่แล้วค่ะ เราไม่ชอบตัวเองตอนไปเที่ยวกลางคืนเท่าไหร่ เราว่าเราโตเกินที่จะเสพความสุขจากแสงสีแล้วอะค่ะ เอาจริงๆแค่ได้อยู่บ้านแล้วเห็นอาม่ากินข้าวที่แม่ทำจนหมดเราก็มีความสุขโคตๆแล้วค่ะ
ปล แนะนำยังไงก็ได้แต่อย่าบอกให้เททุกคนแล้วเลือกรอคนอื่นนะคะ เพราะเราไม่รู้ว่าต่อจากนี้ทั้งชาติเราจะมีผู้ชายมาจีบอีกมั้ยงะ แงแง ผู้ชายมันหายากนะคะสมัยนี้ ยิ่งผู้ชายที่ตรงสิ่งที่เราคาดหวังไว้สำหรับเรามันยิ่งยากค่ะ เราไม่ได้เป็นคนสวยมากค่ะเรารู้ตัวดี แค่พอไปวัดไปวา แล้วเราก็อายุเยอะมากแล้ว เพื่อนๆทยอยแต่งงานกันแล้ว ยิ่งปีที่ผ่านมาเราไปงานแต่งมาเกิน 5 ครั้งแล้วค่ะ
อีกปลนะคะ เรามักโดนเพื่อนด่าว่าเลือกเยอะค่ะ แล้วก็โดนแขวะว่าเลือกเยอะมักได้แร่555 กลัวได้แร่ค่ะ