ถอยรถชนในอาคาร แต่ทางอาคารพูดว่าของเขาไม่ได้เสียหายให้จบๆกันไป ทางเขาไม่ติดใจ แต่กระจกรถเราแตกทั้งบาน

แจ้งก่อนนะคะ ว่ารถเราประกันหมดพอดี แล้วเราต้องไปหาหมอในอาคารนั้น แถวๆอโศก ก็ขับรถไปครั้งที่ 3 ได้ จอดรถชั้นใต้ติด ก็ถอยรถจอดตามช่องที่ว่าง รถมีกล้องถอย ก็ค่อยๆถอยจอด แล้วก็มีเสียงดังหันไปดูคือกระจกรถแตกราวทั้งบานและเป็นรู ถอยชนรางช่องลมเครื่องปรับอากาศเป็นเหล็กที่เอาไว้รับน้ำหนักมีรูปประกอบ





ลงไปดูคือระยะห่างหมอนรองที่เอาไว้กั้นยังเหลืออีกเยอะ แล้วอีกอย่างนึงที่เห็นเลยคือคานด้านบนไม่มีแควนไว้มีแต่โซ่เปล่าๆ หันไปมองอันอื่นดันมีครบหมด มันเป็นความผิดที่เราทั้งหมดเลยไหมคะ ที่ไม่ดูให้ดีก่อนจะถอย ตอนแรกก็คิดแบบนั้น เลยไปหาหมอก่อนว่าคงจะต้องซ่อมเอง เพราะเรายังไม่ได้ต่อประกัน เป็นความผิดพลาดของเรา พอหาหมอทำอะไรเสร็จก็แจ้งทางพนักงานว่าให้เขาไปเก็บเศษกระจกที่หล่นกลัวจะเป็นอันตราย พนักงานเลยให้เราแจ้ง รปภ ของอาคารเป็นคนละส่วนกัน พอลงมาดูรถอีกทีแล้วก็ถามตัวเองว่าผิดที่เราคนเดียวใช่ไหม เพราะถ้ามีคาน คานไม่หายก็คงไม่น่าจะชนจนกระแตกขนาดนี้ก็เลยตัดสินใจไปแจ้ง รปภ ว่าเราถอยรถชนแล้วก็จะถามเรื่องนี้ว่าทางเขามีส่วนผิดด้วยไหม ที่ช่องจอดไม่มีคานเอาไว้เตือนเหมือนช่องอื่นๆ ก็มีพนักงานผู้หญิงมา 2 คน มาดูเบื้องต้น แต่ก็ให้คำตอบไม่ได้ เลยเรียกอีกคนมาเป็นผู้ชายพอลงมาดู เราแจ้งเขาว่ารถเราไม่มีประกันนะ เราจะอธิบายแล้วก็จะถามคำถามที่เราติดใจ เขาก็พูดมาว่าไม่ต้องพูดอะไร เขาเข้าใจ น้ำเสียงเหมือนอารมณ์เสีย ว่าเขาดูแล้วไม่มีอะไรเสียหายแต่เขาจะคุยกับทางอาคารว่าจะเรียกร้องอะไรไหม คือสรุปเราต้องเป็นคนชดใช้ให้เขาหรอ ทั้งที่กระจกรถเราแตกทั้งบานซ่อมเองเบิกศูนย์ก็น่าจะราวๆหลักหมื่นแล้วมาพูดแบบนี้กลับเรา เลยชี้ให้ดูว่าคานแขวนไม่มีอยู่ช่องเดียว ช่องอื่นมีหมด คือซวยที่เราดันมาจอดช่องนี้หรอ เรามีกล้องหลังรถ และกล้องหน้า เช็คดูได้ อธิบายยาวอยู่นะ แล้วก็มีผู้ชายอีกคนลงมาดูถ่ายรูป สอบถามอีกที สรุปก็เดียวจะติดต่อเรามาในวันพรุ่งนี้ ขอเอกสารรถ บัตรประชาชนเราไป แล้วก็ยังพูดว่าทางเขาไม่ได้มีอะไรเสียหาย แต่เดียวเขาจะไปคุยกับหัวหน้าอีกทีแล้วโทรบอกในวันพรุ่งนี้ แล้วอีกวันก็โทรมาแจ้งว่าเหมือนเดิม ทางเขาไม่มีเรียกอะไรเพราะไม่มีอะไรเสียหาย ส่วนเรื่องรถที่ชนรถไม่มีประกัน ประกันของอาคารเขาไม่สามารถทำเรื่องเคลมให้ได้ เพราะรถเราไม่มีประกันก็เลยบอกเดียวเราติดต่อไปอีกที เลยเกิดคำถามเลย แต่รถมีเจ้าของถูกต้องตามกฎหมาย ประกันรับผิดชอบกับเจ้าของรถไม่ได้หรอ
สิ่งที่สงสัยเลยคือ
1.มันเป็นความผิดของเราทั้งหมดเลยใช่ไหมที่ขับรถไปถอยชนในอาคารจอดรถชั้นใต้ดินที่ซวยไปจอดในช่องที่มันไม่มีคานแขวน
2.แล้วถ้าเขาเรียกร้องค่าเสียหายกับเราเราต้องชดใช้ให้เขาใช่ไหม
3.แล้วถ้าเราจะเรียกร้องค่าเสียหายจากเขาจากเขาได้ไหม
4.รถไม่มีประกันถ้าเกิดอุบัติเหตุจะรับผิดชอบตนเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก ใช่ไหม
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
สยองมาก สยองสิ้นดี ...

1. คุณไปทำธุระที่ตึกนั้นเองนะครับ ... ไม่ใช่เค้าไปเรียกคุณมาให้บริการ หรือ มีภาระกิจอะไรที่ต้องการให้คุณไปทำธุระที่นั่น
2. แล้วช่องจอดรถเดิมๆ ก็กว้างขวางพอสมควร  ถ้าเป็นรถเตี้ยๆ คงจอดได้สบายๆ ตามปกติ แต่ปัญหา คือ รถคุณ "สูง"
3. แล้วตอนถอยจอด แทนที่คุณจะต้องระวัง มองด้วยตาคุณเอง หรือจะกล้องมองหลัง ก็ตาม แต่ไปชนของของเค้า ที่มันมีอยู่ก่อนแล้ว
ถึงแม้ว่า มันจะอยู่ด้านบน ไม่สูงไปกว่าหลังคารถคุณก็ตามเถอะ แต่คุณ "พลาด" เอง ที่ไปเลือกจะจอดช่องนั้น  ถ้าเป็นคนขับรถคันอื่น ที่ชำนาญขับรถสูงๆ เช่น รถตู้หลังคาสูง เค้าดูช่องจอด เค้าก็รู้แล้วว่า รถเค้าจอดไม่ได้ ... แต่คุณก็ยังถอยหลังจอด แล้วก็มองแต่กล้องมองหลัง ที่มันส่องแต่ "พื้น"
4. ที่ห่วยที่สุด คือ ... ไม่ทำประกันภัยรถชั้น 1 คุ้มครองรถตัวเอง .. ทั้งๆ ที่รถคันนี้ ราคา 1 ล้านกว่าบาทได้ ...

4 ข้อ .. พอหรือยังครับ  หรือยังไม่พอ จะเอามากกว่านี้อีก ??????????????????????
-------------------
มาตอบเพิ่มอีกหน่อย เผื่อยังคาใจ ...

กรณีที่ คุณจะเรียกร้องความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถคุณได้นั้น ... เท่าที่ผมนึกออกต่อไปนี้ (แค่ยกตัวอย่างนะ)
1. ตอนคุณไปจอด สถานที่มันกว้าง โล่ง สูง เป็นปกติ คุณจอดเสร็จเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร แต่ระหว่างที่คุณไปทำธุระ ภารกิจอะไรก็ตามแต่เสร็จแล้ว กลับมาที่รถ กลับพบว่า มีอุปกรณ์อะไรก็ตามแต่ของอาคารๆ นั้น มาสร้างความเสียหายให้รถคุณ เช่น ท่อทางเดินอากาศ หรือท่อน้ำ ฯลฯ แตก พัง หล่นมาใส่หลังคารถ กระจกรถคุณเสียหาย ... แบบนี้ เรียกร้องได้ครับ
2. เกิดเหตุไฟไหม้ อันเนื่องมาจากระบบไฟฟ้าอาคารลัดวงจร แล้วมีผลให้รถคุณเสียหาย
ฯลฯ  อะไรประมาณเนี้ย สรุป คือ มีเหตุเกิดขึ้น หลังจากคุณไปจอดรถเสร็จแล้วเรียบร้อยดี
ความคิดเห็นที่ 38
ตกใจความเห็นส่วนใหญ่เหลือเกิน ประมาณเข้าไปใช้พื้นที่เขา (ถึงแม้พื้นที่นั้นจะไม่ปลอดภัย)
เจ้าของพื้นที่ไม่ต้องรับผิดชอบกับความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เกิดเหตุเพราะคนใช้ไม่ระวัง
เดี๋ยวนะครับ! กฎหมายควบคุมอาคารและสิ่งปลูกสร้างมันมีนะครับ เพราะมันคือเรื่องความปลอดภัยของชีวิต และ ทรัพย์สิน
โอ้โห ไม่งั้นเจ้าของอาคาร นายทุนทั้งหลายยิ้มหวานเลยครับ ลด Cost ตัดอุปกรณ์ Safety ไปให้หมดได้เลย

งี้ผมเป็นเจ้าของตึก ราวบันไดก็เอาออกได้ เดินตกบันไดไป ก็เพราะคุณไม่ระวังเอง
ประตูลิฟท์บานละแสน ผมก็เอาออกให้หมด เดินตกปล่องลิฟท์ ไปก็เพราะคุณไม่ระวังเอง
พื้นห้องน้ำก็ใช้กระเบื้องถูกๆ หน่อย ไม่ต้องดูค่า R เยอะๆ ลื่นล้มไป ก็เพราะคุณไม่ระวังเอง
หัวดับเพลิงผมว่าก็ไม่ต้องมีแหละ ไฟไหม้มา หนีไม่ทัน ก็เพราะคุณเอง
ฯลฯ

สุดยอดแนวคิดคนไทย ฮ่าๆๆ
ความคิดเห็นที่ 29
ถ้าสามารถแสดงหลักฐานได้ว่า  สถานที่นี้ไม่ปลอดภัยเพียงพอเพื่อจอดรถ  ก็ไปแจ้งความครับ   เถียงกันไปกันมา  ไม่จบ​ ฝั่งอาคารสถานที่เขาไม่มาเสียเงินง่ายๆให้จขกท.หรอกครับ

ต้องสู้ในศาลครับ  เรื่องป้ายเตือนการจอด  หรือ​ข้อห้าม​ เมื่อไม่มีแปลว่าเราต้องจอดได้ทุกที่

คนไทยอาจจะมองมุมว่า  คนจอดประมาท  รถทรงสูงต้องระวัง  แต่จริงๆแล้ว  คนดูแลพื้นที่ต้องมีความปลอดภัยในทุกจุด  มีป้ายเตือน  ป้ายข้อห้ามต่างๆ ให้ชัดเจน​  ไม่มีแปลว่า  ทางนั้นก็ประมาทเช่นกัน
ความคิดเห็นที่ 8
ถ้าเมืองนอก (ประเทศที่พัฒนาแล้ว) ผมว่าฟ้องได้ ชนะด้วย

นึกภาพตามนะ เค้ามีป้าย+คานจำกัดความสูงแล้ว ดังนั้น เราขับรถที่มีความสูงต่ำกว่าที่เค้ากำหนด ขับเข้าไปตามช่องทางที่กำหนด (ไม่ใช่ไปปีนป่ายจุดที่เค้าห้าม) แล้วไปชนสิ่งกีดขวาง
เจ้าของสถานที่ควรต้องรับผิดชอบ

แต่เมืองไทย ผมไม่รู้จริงๆ

แต่หลายๆห้างในประเทศไทยเค้าติดมีป้ายเตือนครับ กรณีมีสิ่งกีดขวางด้านบน อย่างน้อยก็มีทาสีเหลือง-ดำ หรือแดง-ขาว
ความคิดเห็นที่ 23
-    ไม่ว่าจะขับไปชนอะไรที่ไม่ใช่รถที่ขับเคลื่อนมาชนกับเรา ด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม  เป็นความผิดพลาดของเราแต่เพียงผู้เดียว
     ไม่สามารถโทษสภาพแวดล้อมอื่นๆได้เลย เพราะเราประมาท ขาดความระมัดระวังเอง ขับรถใหญ่ก็ต้องระวังตัวเองมากขึ้น ถ้าไม่ชำนาญ
      เรื่องประกันขาดเพราะไม่ใส่ใจ  ปล่อยปะละเลยเอง ไม่เกี่ยวกับใคร

      เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนในการใข้งานรถ และเก็บไว้เป๋นประสบการณ์ เรื่องแค่นี้ถือว่ายังเล็กน้อยธรรมดามาก แค่ขับเองชนเองเสียหายแค่นี้
      ถ้าไปเจออุบัติเหตุที่ร้ายแรงกว่านี้บนถนน ชนกันรถพัง เจ็บตัวด้วย เรื่องยาวกว่านี้เยอะนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่