ชวนทะเลาะจริงๆค่ะ วิเคราะห์เหตุการณ์แต่ละฉากได้ดังนี้

“ถามแฟนว่าจะกลับจากกินเหล้ากี่โมง เพราะจะใช้รถไปแลกเหรียญ” - อันนี้คือถามไถ่ปกติ ไม่ถือว่าชวนทะเลาะ

“เขาบอกว่า เดะบอกอีกที” - คำตอบนี้เป็นคำตอบปกติ ไม่เกี่ยวกับเรื่องซักผ้า

“เราเลยถามย้ำไป” - ย้ำถามเรื่องซักผ้าได้ เพราะเมื่อกี้แฟนไม่ได้ให้คำตอบเรื่องเสื้อผ้า

“เขาก็บอกว่าไม่ต้องซัก” - แฟนคุณตัดสินใจให้แล้วว่าไม่ต้องซัก บทสนทนาควรจบตั้งแต่ตอนนี้

“เราก็บอกไปอีกว่าไม่มีเสื้อผ้าจะใส่” - คุณเล่าปัญหาเพิ่มให้แฟนอีก ตอนนี้เรานับปัญหาได้ 1.ปัญหาตู้กินเหรียญ 2.ปัญหาต้องการรถไปแลกเหรียญ 3.ปัญหาไม่รู้ว่าแฟนกลับกี่โมง 4.ปัญหาไม่มีเสื้อผ้าใส่

“แล้วเขาก็บอกว่าจะให้เขาทำไง” - แฟนคุณถามได้ดี เพราะเขาเสนอให้แล้วว่าไม่ต้องซักผ้า ณ เวลานั้นแต่คุณไม่เอาข้อเสนอนั้น ก็ต้องถามกลับว่าคุณอยากให้เขาทำอย่างไร

“เราก็บอกว่าไม่ต้องทำไง เดี๋ยวเราเดินไปเอง” - แบบนี้คือการประชด เพราะนอกจากคุณไม่บอกว่าแฟนควรช่วยเหลืออะไร กลับประชดด้วยว่าจะทำเอง หากคุณรู้วิธีแก้ปัญหานี้ ‘ด้วยกำลังของตนเองคนเดียว’ ตั้งแต่แรก ก็ไม่ควรนำปัญหาไปเป็นทุกข์ให้คนอื่น หากคุณหาทางแก้ปัญหาไม่ได้และต้อง ‘พึ่งพาคนอื่น’ คุณก็ต้องฝึกที่จะเคารพวิธีแก้ปัญหาที่คนอื่นเสนอ/แนะนำมาแม้จะไม่ถูกใจคุณ ในสถานการณ์นี้คุณไม่ได้เคารพวิธีแก้ปัญหาที่แฟนบอกว่า “ไม่ต้องซัก” และชวนทะเลาะต่อ

“เค้าก็บอกไม่ต้องไป มันดึกแล้ว” - เขาเป็นห่วงคุณไง ผู้หญิงเดินคนเดียวตอนดึกมันอันตราย

เราเดาว่าลึกๆแล้วคุณจขกท.อยากให้แฟนรับปากเวลาที่จะกลับและขับรถเพื่อพาคุณจขกท.ไปแลกเหรียญน่ะแหละ แต่คำตอบของแฟนดันเป็น “ไม่ต้องซัก” ซึ่งมันไม่ถูกใจคุณจขกท. ผู้ชายเป็นเพศที่คิดไม่ซับซ้อนกับเรื่องพวกนี้ การที่เขาไม่รีบขับรถกลับมาไม่ได้แปลว่าเขาไม่ใส่คุณจขกท.นะ คุณไม่ควรตีโพยตีพายเพิ่มไปว่าเขารักคุณน้อยลงเลยมัวแต่ไปกินเหล้ากับเพื่อน เรื่องบางเรื่องจะให้เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการตลอดมันก็ไม่ได้นะ อยู่กันเป็นคู่ต้องเขาบ้าง-เราบ้างผลัดกันไป

หากคุณไม่ถูกใจความเห็นเราก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าอยากเข้าใจวิธีการคิดและการกระทำของผู้ชายให้มากขึ้น เราแนะนำหนังสือเล่มนี้นะคะ