สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
จะเปิดร้านอาหาร แล้วรู้จักอะไรบ้างเกี่ยวกับการเปิดร้าน มีวีซ่าอะไรที่จะไปทำร้านอาหารที่อเมริกา วีซ่าสำคัญที่สุด หากคุณแค่ถือวีซ่าท่องเที่ยวก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างต่ำก็ต้องมีใบเขียว มี SSN ถึงจะทำธุรกิจอะไรได้ ผมมีบทความ เป็น file word เรื่องการเปิดร้านอาหารในอเมริกา เป็นบทความที่คุณสายน้ำเคยโพสต์ลงในพันทิปเมื่อหลายปีมาแล้วแต่ยังใช้เป็นพื้นฐานในการเปิดร้านได้ อย่างเช่น จะเปิดร้านอย่างไร ต้องเช่าเครื่องมือไหม เงินทุน อะไรพวกนี้ หากสนใจจะอ่านบทความนี้ก็ส่ง e mail หลังไมค์มาให้ผม ผมจะส่ง file ไปให้อ่านดู
ตัวอย่างบทความ
การเปิดร้านอาหาร และการลงทุน
การเปิดร้านอาหารที่อเมริกา ไม่ได้ ง่าย และไม่ได้ ยาก จนเกินไปนัก
เพราะกฏ และระเบียบที่วางไว้ชัดเจน จะแบ่งง่ายๆ เป็นขั้นตอนดังนี้
1. การหาเงินทุน
การหาเงินทุนนั้น ส่วนใหญ่เจ้าของร้านอาหารไทย จะมีเงิน แล้วถึงเปิด
น้อยราย ที่จะเข้าไปกู้ ธนาคาร เพราะค่อนข้างยุ่งยาก เพราะธุรกิจร้านอาหาร
จะมีความเสี่ยงสูง
การยืมเพื่อน หรือคนรู้จัก ก็เป็นอีกหนทางหนึ่ง อาจจะเข้าหุ้นกัน หรือไม่
เพราะบางคนมีเงิน แต่ไม่มีใบ (ใบ = Work Visa/Green Card/Work Permit/Citizenship)
และอยากลงทุนทำร้าน จึงต้องหาคนมีใบ มาเข้าหุ้น
การเช่าอุปกรณ์ เป็นอีกทางออกหนึ่ง ที่เจ้าของร้านสามารถทำได้ เพื่อลดต้นทุน
โดยจะมีบริษัทที่ให้เช่า เช่น เครื่องล้างจาน ราคา $7000+ แต่เช่าเดือนละ
$150+ เท่านั้น การเช่าอุปกรณ์ เป็นการลดความเสี่ยง คือ เจ๊ง แล้ว ไม่เจ็บมาก
และที่สำคัญ ค่าแรงในการซ่อมอุปกรณ์ สูงมาก อุปกรณ์ที่เช่า ส่วนใหญ่ จะมีคนมาคอย
ดูแลให้เป็นประจำ
การคำนวณต้นทุนอย่างง่ายๆ คือ ใช้จำนวนที่นั่ง คูณด้วย $1,500 ถึง $3,000
เช่น ร้านขนาด 100 ที่นั่ง ลงทุน $150,000 ถึง $300,000
2. การหาร้าน ทำเล เพื่อเปิด
จะมีการ เช่าที่ และ ซื้อที่ ส่วนใหญ่ ควรเช่า ไม่ควรซื้อ เพราะ เจ๊งแล้วไม่เจ็บ
การเช่า จะแบ่งเป็นสามแบบ
2.1 เช่าห้องเปล่า แล้วทำใหม่หมด
คือการมองหาห้องเปล่าๆ ที่ไม่เคยเป็นร้านอาหาร หรือเป็นเพียงร้านเล็กๆ ที่ไม่มีสิ่งต่อไปนี้
2.1.1 เครื่องดูดควันไฟ
2.1.2 เตา Open Burner (เตาแก๊สธรรมดา)
2.1.3 เตา Wok Burner (เตาฟู่สำหรับกะทะจีน)
2.1.4 โต๊ะ เก้าอี้
2.1.5 ตู้เย็น และตู้แช่แข็ง
2.1.6 เครื่องล้างจาน และ อ่างล้างจาน 3 Compartments Sink
2.1.7 บ่อดักไขมัน
ทางเจ้าของร้าน ต้องลงทุน ทำใหม่ ซึ่งได้ของใหม่ แต่ใช้ทุนสูงมาก
ข้อดีคือ จะเลือกทำเลที่ไหนก็ได้ และไม่ต้องจ่ายค่าเซ้งร้าน
ข้อเสียคือ ต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานของรัฐ (Inspection)
ก่อนเปิดกิจการและเข้มงวดมาก
2.2 การเช่าห้องที่มีอุปกรณ์ดังกล่าวครบ หรือเกือบครบ และยังดำเนินกิจการอยู่
หรือพึ่งหยุดดำเนินกิจการไม่นาน
เจ้าของร้าน ต้องเสียเงิน เพื่อเซ้งร้าน หรือเรียกว่า ซื้อร้าน (แต่ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในห้องที่เช่า)
ส่วนใหญ่ จะได้กรรมสิทธิ์ ในอุปกรณ์เท่านั้น จะใช้เงินทุนต่ำกว่ามาก การเลือกทำเลจำกัด
เพราะร้านคงต้อง ขายไม่ดี ถึงปล่อยให้
ร้านแบบนี้ อาจไม่ต้อง Inspec. หรือมีการ Inspec. แต่ไม่เข้มงวด เนื่องด้วย
Grandfather Clause Law คือ ไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามกฏใหม่ หากร้านสร้าง
และเปิดมาก่อนที่จะออกกฏนั้นๆ
เช่น ตั้งแต่ปี 2011 กำหนดให้ ร้านตั้งแต่ 100 ที่นั่งต้องติด Sprinkler ดับเพลิง
ร้านที่ทำใหม่หมด ต้องติด แต่ถ้าร้านเปิดมาก่อน หรือปิดไปไม่นาน ไม่ต้องติดก็ได้
ส่วนใหญ่ เจ้าของร้าน จะทำแบบนี้กันครับ เพราะไม่ต้องใช้ทุนสูงมาก
บางที $20,000 ก็เป็นเจ้าของร้านกันได้แล้ว
ตัวอย่างบทความ
การเปิดร้านอาหาร และการลงทุน
การเปิดร้านอาหารที่อเมริกา ไม่ได้ ง่าย และไม่ได้ ยาก จนเกินไปนัก
เพราะกฏ และระเบียบที่วางไว้ชัดเจน จะแบ่งง่ายๆ เป็นขั้นตอนดังนี้
1. การหาเงินทุน
การหาเงินทุนนั้น ส่วนใหญ่เจ้าของร้านอาหารไทย จะมีเงิน แล้วถึงเปิด
น้อยราย ที่จะเข้าไปกู้ ธนาคาร เพราะค่อนข้างยุ่งยาก เพราะธุรกิจร้านอาหาร
จะมีความเสี่ยงสูง
การยืมเพื่อน หรือคนรู้จัก ก็เป็นอีกหนทางหนึ่ง อาจจะเข้าหุ้นกัน หรือไม่
เพราะบางคนมีเงิน แต่ไม่มีใบ (ใบ = Work Visa/Green Card/Work Permit/Citizenship)
และอยากลงทุนทำร้าน จึงต้องหาคนมีใบ มาเข้าหุ้น
การเช่าอุปกรณ์ เป็นอีกทางออกหนึ่ง ที่เจ้าของร้านสามารถทำได้ เพื่อลดต้นทุน
โดยจะมีบริษัทที่ให้เช่า เช่น เครื่องล้างจาน ราคา $7000+ แต่เช่าเดือนละ
$150+ เท่านั้น การเช่าอุปกรณ์ เป็นการลดความเสี่ยง คือ เจ๊ง แล้ว ไม่เจ็บมาก
และที่สำคัญ ค่าแรงในการซ่อมอุปกรณ์ สูงมาก อุปกรณ์ที่เช่า ส่วนใหญ่ จะมีคนมาคอย
ดูแลให้เป็นประจำ
การคำนวณต้นทุนอย่างง่ายๆ คือ ใช้จำนวนที่นั่ง คูณด้วย $1,500 ถึง $3,000
เช่น ร้านขนาด 100 ที่นั่ง ลงทุน $150,000 ถึง $300,000
2. การหาร้าน ทำเล เพื่อเปิด
จะมีการ เช่าที่ และ ซื้อที่ ส่วนใหญ่ ควรเช่า ไม่ควรซื้อ เพราะ เจ๊งแล้วไม่เจ็บ
การเช่า จะแบ่งเป็นสามแบบ
2.1 เช่าห้องเปล่า แล้วทำใหม่หมด
คือการมองหาห้องเปล่าๆ ที่ไม่เคยเป็นร้านอาหาร หรือเป็นเพียงร้านเล็กๆ ที่ไม่มีสิ่งต่อไปนี้
2.1.1 เครื่องดูดควันไฟ
2.1.2 เตา Open Burner (เตาแก๊สธรรมดา)
2.1.3 เตา Wok Burner (เตาฟู่สำหรับกะทะจีน)
2.1.4 โต๊ะ เก้าอี้
2.1.5 ตู้เย็น และตู้แช่แข็ง
2.1.6 เครื่องล้างจาน และ อ่างล้างจาน 3 Compartments Sink
2.1.7 บ่อดักไขมัน
ทางเจ้าของร้าน ต้องลงทุน ทำใหม่ ซึ่งได้ของใหม่ แต่ใช้ทุนสูงมาก
ข้อดีคือ จะเลือกทำเลที่ไหนก็ได้ และไม่ต้องจ่ายค่าเซ้งร้าน
ข้อเสียคือ ต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานของรัฐ (Inspection)
ก่อนเปิดกิจการและเข้มงวดมาก
2.2 การเช่าห้องที่มีอุปกรณ์ดังกล่าวครบ หรือเกือบครบ และยังดำเนินกิจการอยู่
หรือพึ่งหยุดดำเนินกิจการไม่นาน
เจ้าของร้าน ต้องเสียเงิน เพื่อเซ้งร้าน หรือเรียกว่า ซื้อร้าน (แต่ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในห้องที่เช่า)
ส่วนใหญ่ จะได้กรรมสิทธิ์ ในอุปกรณ์เท่านั้น จะใช้เงินทุนต่ำกว่ามาก การเลือกทำเลจำกัด
เพราะร้านคงต้อง ขายไม่ดี ถึงปล่อยให้
ร้านแบบนี้ อาจไม่ต้อง Inspec. หรือมีการ Inspec. แต่ไม่เข้มงวด เนื่องด้วย
Grandfather Clause Law คือ ไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามกฏใหม่ หากร้านสร้าง
และเปิดมาก่อนที่จะออกกฏนั้นๆ
เช่น ตั้งแต่ปี 2011 กำหนดให้ ร้านตั้งแต่ 100 ที่นั่งต้องติด Sprinkler ดับเพลิง
ร้านที่ทำใหม่หมด ต้องติด แต่ถ้าร้านเปิดมาก่อน หรือปิดไปไม่นาน ไม่ต้องติดก็ได้
ส่วนใหญ่ เจ้าของร้าน จะทำแบบนี้กันครับ เพราะไม่ต้องใช้ทุนสูงมาก
บางที $20,000 ก็เป็นเจ้าของร้านกันได้แล้ว
แสดงความคิดเห็น
ถ้าอนาคตจะไปเปิดร้านอาหารไทยที่ แคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา จะโดนอะไรไหม จะขายได้หรือเปล่า
แล้ว ถ้าจะไปต้องติดต่ออะไรก่อนไหม ราคาค่าครองชีพจะสูงประมาณไหน ขอถามเป็นความรู้ค่ะ
มีข้อมูลด้านอื่นก็สามารถให้ได้นะคะ ขอบคุณค่ะ