The Witcher 3: Wild Hunt ก็ได้มีการปรับ Patch ใหม่ออกมาให้เราได้ดาวโหลดกันแล้วในวันที่ 14 ธ.ค.65 ที่ผ่านมาซึ่งPatch นี้มาใน Version Next-Gen Console และใน Version นี้มีการปรับอะไรมาให้เราบ้าง เดี๋ยววันนี้รัชจะมาสรุปให้ฟังค่ะ
สำหรับการปรับปรุง ใน Version Next-Gen Console มีการปรับปรุงหลายอย่างมากๆ รัชจะขอหยิบยกมาเฉพาะประเด็นที่สำคัญ และคิดว่าเป็นประโยชน์กับเราชาวเกมเมอร์นะคะ
สามารถรับชมคลิปได้ที่
The Witcher 3 Wild Hunt Next-Gen 2022 ปรับอะไรมาให้บ้างนะ?
1. กราฟฟิค
สำหรับกราฟฟิคของ The Witcher 3: Wild Hunt version Next-Gen Console จะแบ่งเป็น 2 โหมดด้วยกัน คือ
1.Ray Tracing Mode โหมดนี้จะเน้นเรื่องแสงและเงาตกกระทบแบบสมจริง โดยจะได้ภาพแบบ Dynamic Resolution Scaling 30FPS
(ไม่ใช่ Native 4K แต่จะปรับเปลี่ยนคุณภาพของฉากตามรายละเอียดที่ปรากฎ หากไม่มี Detail มากจะแสดงผลที่ 4K และยังคงความลื่นไหนที่ 30FPS เสมอ)
2.Performance Mode โหมดนี้การตกกระทบแสงและเงาจะเป็นแบบปกติ แต่จะเน้นความลื่นไหลโดยจะได้ภาพแบบ Dynamic Resolution Scaling 60FPS
นอกเหนือจากนี้ตัวเกมยังได้ขัดเกลาTextureตัวละครและสิ่งแวดล้อมให้มีรายละเอียดคมชัดมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
2.ระบบ Haptic Feedback บนจอย PS5
ซึ่งเป็นระบบพิเศษเฉพาะของจอย DualSense ที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมของเราได้มากขึ้น เช่น เมื่อเราควบม้าก็ได้ยินเสียงวิ่งของม้าบนจอย หรือเมื่อเราใช้สกิลก็จะให้ความรู้สึกสั่นเหมือนว่าเราใช้สกิลออกไปจากจอยจริงๆ ซึ่งรัชได้ลองแล้วตรงนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียวค่ะ
3.Photo mode
เอาใจสายถ่ายรูปด้วย Photo mode โหมดนี้จะมีลูกเล่นต่างๆให้เราได้ปรับแต่งเพื่อให้ภาพออกมาสวยงาม เช่น ปรับแสงเวลากลางวัน-กลางคืน และปรับมุมกล้องได้ตาที่เราต้องการจ้า
4.Quick Sign
หรือระบบเรียกใช้สกิล Sign โดยใช้ปุ่มลัดนั่นเองค่ะ ตัวเกมแบบ Next-Genนี้จะมีระบบให้ผู้เล่นสามารถใช้ Sign ได้ง่ายๆและใช้ได้ทันที โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปหมุนวงล้อก็สามารถเรียกใช้ได้เลยโดยการกดปุ่ม R2 ค้างเอาไว้ แล้วกดปุ่มใช้สกิลที่เราต้องการได้เลยจ้า
5. Close-up Camera Mode
หรือมุมกล้องแบบใหม่ที่ไกล้ตัวละครมากขึ้นทั้งในระหว่างการต่อสู้และการออกสำรวจ ซึ่งรัชลองแล้วบอกเลยว่าไม่ค่อยถนัดเลยค่ะเพราะมองเห็นวิสัยทัศน์ได้แคบเกินไป ขอกลับไปใช้มุมกล้องแบบเดิมดีกว่า
6. Subtitle
เราสามารถปรับขนาด Subtitle ให้ใหญ่ขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นบทพูดในเนื้อเรื่องและตัวเลือกในการตอบคำถาม ซึ่งโอเคมากๆสำหรับคนเล่นบนคอนโซลแล้วต้องมองจองทีวีที่อยู่ไกลออกไปค่ะ
7. เควสเนื้อเรื่องพิเศษจาก ซีรี่ย์ Netflix
เมื่อเราทำเควสสำเร็จเราก็จะชุดเกราะเหมือนกันในแบบซี่รี่ส์เลยค่ะ ข้อนี้อาจจะถูกใจคนชอบซีรี่เลยทีเดียว
8.ระบบ Cross Save
หากใครมีเกม The Witcher 3: Wild Hunt บน PC ในบัญชี GOG ก็สามารถนำ Save มาเล่นต่อได้บน Console เลยจ้า ด้วยการล๊อกอินที่หน้าแรกของเกมก็สามารถเล่นเกมต่อจาก Save เดิมได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเริ่มใหม่เลยค่า อันนี้ดีมากๆเลย
Youtube :
RUTCHSTATION
Facebook :
RUTCHSTATION
The Witcher 3: Wild Hunt เวอร์ชั่น Next- Gen Console ปรับอะไรมาให้บ้างนะ?
สำหรับการปรับปรุง ใน Version Next-Gen Console มีการปรับปรุงหลายอย่างมากๆ รัชจะขอหยิบยกมาเฉพาะประเด็นที่สำคัญ และคิดว่าเป็นประโยชน์กับเราชาวเกมเมอร์นะคะ
สามารถรับชมคลิปได้ที่ The Witcher 3 Wild Hunt Next-Gen 2022 ปรับอะไรมาให้บ้างนะ?
1. กราฟฟิค
สำหรับกราฟฟิคของ The Witcher 3: Wild Hunt version Next-Gen Console จะแบ่งเป็น 2 โหมดด้วยกัน คือ
1.Ray Tracing Mode โหมดนี้จะเน้นเรื่องแสงและเงาตกกระทบแบบสมจริง โดยจะได้ภาพแบบ Dynamic Resolution Scaling 30FPS (ไม่ใช่ Native 4K แต่จะปรับเปลี่ยนคุณภาพของฉากตามรายละเอียดที่ปรากฎ หากไม่มี Detail มากจะแสดงผลที่ 4K และยังคงความลื่นไหนที่ 30FPS เสมอ)
2.Performance Mode โหมดนี้การตกกระทบแสงและเงาจะเป็นแบบปกติ แต่จะเน้นความลื่นไหลโดยจะได้ภาพแบบ Dynamic Resolution Scaling 60FPS
นอกเหนือจากนี้ตัวเกมยังได้ขัดเกลาTextureตัวละครและสิ่งแวดล้อมให้มีรายละเอียดคมชัดมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
2.ระบบ Haptic Feedback บนจอย PS5
ซึ่งเป็นระบบพิเศษเฉพาะของจอย DualSense ที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมของเราได้มากขึ้น เช่น เมื่อเราควบม้าก็ได้ยินเสียงวิ่งของม้าบนจอย หรือเมื่อเราใช้สกิลก็จะให้ความรู้สึกสั่นเหมือนว่าเราใช้สกิลออกไปจากจอยจริงๆ ซึ่งรัชได้ลองแล้วตรงนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียวค่ะ
3.Photo mode
เอาใจสายถ่ายรูปด้วย Photo mode โหมดนี้จะมีลูกเล่นต่างๆให้เราได้ปรับแต่งเพื่อให้ภาพออกมาสวยงาม เช่น ปรับแสงเวลากลางวัน-กลางคืน และปรับมุมกล้องได้ตาที่เราต้องการจ้า
4.Quick Sign
หรือระบบเรียกใช้สกิล Sign โดยใช้ปุ่มลัดนั่นเองค่ะ ตัวเกมแบบ Next-Genนี้จะมีระบบให้ผู้เล่นสามารถใช้ Sign ได้ง่ายๆและใช้ได้ทันที โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปหมุนวงล้อก็สามารถเรียกใช้ได้เลยโดยการกดปุ่ม R2 ค้างเอาไว้ แล้วกดปุ่มใช้สกิลที่เราต้องการได้เลยจ้า
5. Close-up Camera Mode
หรือมุมกล้องแบบใหม่ที่ไกล้ตัวละครมากขึ้นทั้งในระหว่างการต่อสู้และการออกสำรวจ ซึ่งรัชลองแล้วบอกเลยว่าไม่ค่อยถนัดเลยค่ะเพราะมองเห็นวิสัยทัศน์ได้แคบเกินไป ขอกลับไปใช้มุมกล้องแบบเดิมดีกว่า
6. Subtitle
เราสามารถปรับขนาด Subtitle ให้ใหญ่ขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นบทพูดในเนื้อเรื่องและตัวเลือกในการตอบคำถาม ซึ่งโอเคมากๆสำหรับคนเล่นบนคอนโซลแล้วต้องมองจองทีวีที่อยู่ไกลออกไปค่ะ
7. เควสเนื้อเรื่องพิเศษจาก ซีรี่ย์ Netflix
เมื่อเราทำเควสสำเร็จเราก็จะชุดเกราะเหมือนกันในแบบซี่รี่ส์เลยค่ะ ข้อนี้อาจจะถูกใจคนชอบซีรี่เลยทีเดียว
8.ระบบ Cross Save
หากใครมีเกม The Witcher 3: Wild Hunt บน PC ในบัญชี GOG ก็สามารถนำ Save มาเล่นต่อได้บน Console เลยจ้า ด้วยการล๊อกอินที่หน้าแรกของเกมก็สามารถเล่นเกมต่อจาก Save เดิมได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเริ่มใหม่เลยค่า อันนี้ดีมากๆเลย
Youtube : RUTCHSTATION
Facebook : RUTCHSTATION