คือเรื่องมีอยู่ว่าวันที่ 5 ธันวาคมเราอ่ะไปบวชที่วัดท่าซุงจังหวัดอุทัยธานีบังเอิญไปแล้วเราก็มีแม่คนนึงเขาที่เคยอยู่คณะญาติธรรมของเรามาปลงผมให้แล้วเราก็ไม่รู้เพราะว่าเราเพิ่งเจอพี่เขาสองคนไม่คิดว่าปอบมันจะมีอยู่จริงในยุคปัจจุบันนี้ แล้วพี่สองคนที่เราเจอก็คือมีชื่อย่อ คนที่ 1 เขามีชื่อย่อคือตัว ส. บ
คนที่ 2 มีชื่อย่อว่า ต แต่คนซื่อ ต เขาเป็นคนดีมากแต่ด้วยความเราก็ไร้เดียงสาเพิ่งเคยมาบวชวัดนี้ครั้งแรก แล้วเราก็เป็นคนเชื่อคนง่ายมาก
ทีนี้ถึงเวลาปลงผมนะพี่สองคนนี้เขาก็ไปช่วยแม่แล้วบังเอิญพี่ สบ. กับพี่ ต ก็มา กี้บ ผมเราพอมา กี้บ ผมเราปึ๊บไปอาบน้ำมาหัวเราก็เรี่มถลอกเราก็แปลกเอ๊ะเป็นอะไรอยู่ๆหัวเราก็ถลอกพออยู่ด้วยกันไป ได้1 วันเขายังไม่พูดอะไรนะพอวันที่ 2 มาเขาก็เริ่มเผยออกมาว่า เขาอ่ะมีปอบนะที่ต้องเป็นทายาทแต่เขาไม่ยอมเขาบอกอย่างนี้แหละ บังเอิญเราก็เป็นคนเชื่อคนง่ายแล้วก็ไม่ได้คิดรังเกียจๆชังอะไรเขาแล้วก็อยู่กับเขาไปวันที่ 2 มาเขาก็เริ่มมาอยู่ใกล้เราสนิทกับเรา เราก็แปลกๆหัวเราก็ถลอกขึ้นถลอกขึ้นเราก็แปลกเอามันจะกลืนไปหมดทั้งผื่นหัวเราแล้วพอเรารู้สึกไม่ดีเราก็ขอกำลังพระของบารมีพระปกป้องเราและบารมีพระก็ช่วยเราให้เขาคลายออกมาว่าเขาว่าเป็นปอบพอเรารู้ว่าเขาเป็นปอบเราก็ไม่สนิทเขาแบบว่าแยกตัวออกจากเขา เรากับ พี่ ต เราก็ไปด้วยกันสนิทกันแบบเขาก็ไปพอเขาคนเดียว แต่เขาก็ยังพยายามนะจะมาคุมตัวเรามากัดมาสู้กับเรา แต่เราก็ขอกำลังพระบารมีพระช่วยทุกวันทุกวันแหละแต่ว่าหัวเรานะเวลาที่อยู่ใกล้เขานะมันก็จะถลอกถลอกเหมือนแพ้อะไรสักอย่างแล้วก็เป็นแสบๆคันๆเจ็บๆ เป็นเวลา 10 กว่าวันที่เราอยู่วัดก็เจอเขาบ้างไม่เจอเขาบ้างเขาก็พยายามเข้าหาเราเราก็พยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด แต่สุดท้ายเราก็ปฏิเสธจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเขาเป็นคนติดรถมากับพี่ ต ถึง 2 วันสุดท้ายที่เรียนมโนยิทธิเต็มกำลัง พอถึงวันนั้นมาเวลาเราไปปฏิบัติที่วิหาร 100 ไร่ปุ๊บเข้าฌานปั๊บก็ยินเสียงเขากรี๊ดดังไปทั่ววิหาร100ไร่ ยิ่งทำให้เราเห็นและเรารู้เรายิ่งกลัว เราก็ยิ่งหลีกเลี่ยงหลีกหน้าเขาเหมือนเขาจะรู้ตัวแล้วเราพยายามเท่าจะทำได้แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นเพราะเราก็ได้ติดรถพี่ตกับเขามาเที่ยวพิษณุโลกหลังจากนั้นก็ไม่เจอหน้ากันเลยเราก็ไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงพอเราเข้ามากรุงเทพฯเรามาพักอยู่ที่ธงชาติแมนชั่นเป็นเวลา 9 วันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ
มีอยู่วันหนึ่งวันโกนเราก็รู้สึกแบบว่าเอ๊ะทำไมเรานอนไม่หลับนะเราไม่เคยเป็นอย่างนี้เพราะเราจะนอนตั้งแต่ 20:00 น หรือ 21:00 น. สูงสุดและก็ไม่อยากใส่พระเพราะเราจะใส่พระปกติอยู่ตลอดแล้วจะไม่ถอดให้ตายยังไงก็ตาม แต่วันโกนที่ผ่านมานี้เราก็นอนไม่หลับแต่ว่ามือเราก็ยังจับพระอยู เราคิดว่าเป็นเพราะเราดื่มกาแฟตอนบ่ายหรือเปล่าก็ไม่ได้คิดอะไรคิดบวกไว้ก่อนพอถึงวันพรุ่งนี้มาเป็นวันพระยิ่งนอนไม่หลับแล้วรู้ไหมที่สำคัญคือมันมีเสียงแบบผู้หญิงมารบกวนเราแล้วก็เป็นคนไม่กลัวผีอยู่แล้วน้อเราก็ว่าไม่ซีเรียส แต่มันกวนจนเรานอนไม่ได้เลย เราก็คิดว่าจะไปบอกเจ้าของอพาร์ทเม้นท์นี้ดีไหมว่าคนข้างบนน่ะทำไมเขาแบบว่ารบกวนเราจนนอนไม่ได้แต่ไม่คิดว่าเป็นผีปอบไงที่ตามมา แล้วก็ใช้ชีวิตปกติจนถึงมาวันนี้คืนวันที่ 26 เพราะ 27 เราต้องได้บินไปที่สปปลาว
แล้ววันนี้มันก็แปลกตั้งแต่ตอนที่เราไปเที่ยวมาแล้วมันนอนไม่หลับทั้งๆที่มันเหนื่อยมากอยากนอนเพราะเราเพิ่งไปเที่ยวมาทั้งวันแต่เราก็ไม่คิดอะไรมากเราก็มานอนนอนยังไงก็นอนไม่หลับจนถึงตี 2 พอถึง 02:00 น เราไม่ไหวแล้วเราก็
หลับไปแป๊บนึงเราก็รู้เลยว่าปอบอ่ะมันยังไม่ได้หายมันยังตามเรามา เพราะว่าเราสู้กับมันน่ะจนฉี่ราดเลย
เดี๋ยวว่างๆจะมาเล่าต่อ
ใครอยากอ่านต่อก็ Comment ไว้นะถ้ามีคนอยากฟังอยู่ก็จะมาเล่าให้ฟังต่อ
ไม่เจอกับตัวไม่เชื่อยุคนี้ผีปลอบ ยังมี อยู่จริง
คนที่ 2 มีชื่อย่อว่า ต แต่คนซื่อ ต เขาเป็นคนดีมากแต่ด้วยความเราก็ไร้เดียงสาเพิ่งเคยมาบวชวัดนี้ครั้งแรก แล้วเราก็เป็นคนเชื่อคนง่ายมาก
ทีนี้ถึงเวลาปลงผมนะพี่สองคนนี้เขาก็ไปช่วยแม่แล้วบังเอิญพี่ สบ. กับพี่ ต ก็มา กี้บ ผมเราพอมา กี้บ ผมเราปึ๊บไปอาบน้ำมาหัวเราก็เรี่มถลอกเราก็แปลกเอ๊ะเป็นอะไรอยู่ๆหัวเราก็ถลอกพออยู่ด้วยกันไป ได้1 วันเขายังไม่พูดอะไรนะพอวันที่ 2 มาเขาก็เริ่มเผยออกมาว่า เขาอ่ะมีปอบนะที่ต้องเป็นทายาทแต่เขาไม่ยอมเขาบอกอย่างนี้แหละ บังเอิญเราก็เป็นคนเชื่อคนง่ายแล้วก็ไม่ได้คิดรังเกียจๆชังอะไรเขาแล้วก็อยู่กับเขาไปวันที่ 2 มาเขาก็เริ่มมาอยู่ใกล้เราสนิทกับเรา เราก็แปลกๆหัวเราก็ถลอกขึ้นถลอกขึ้นเราก็แปลกเอามันจะกลืนไปหมดทั้งผื่นหัวเราแล้วพอเรารู้สึกไม่ดีเราก็ขอกำลังพระของบารมีพระปกป้องเราและบารมีพระก็ช่วยเราให้เขาคลายออกมาว่าเขาว่าเป็นปอบพอเรารู้ว่าเขาเป็นปอบเราก็ไม่สนิทเขาแบบว่าแยกตัวออกจากเขา เรากับ พี่ ต เราก็ไปด้วยกันสนิทกันแบบเขาก็ไปพอเขาคนเดียว แต่เขาก็ยังพยายามนะจะมาคุมตัวเรามากัดมาสู้กับเรา แต่เราก็ขอกำลังพระบารมีพระช่วยทุกวันทุกวันแหละแต่ว่าหัวเรานะเวลาที่อยู่ใกล้เขานะมันก็จะถลอกถลอกเหมือนแพ้อะไรสักอย่างแล้วก็เป็นแสบๆคันๆเจ็บๆ เป็นเวลา 10 กว่าวันที่เราอยู่วัดก็เจอเขาบ้างไม่เจอเขาบ้างเขาก็พยายามเข้าหาเราเราก็พยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด แต่สุดท้ายเราก็ปฏิเสธจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเขาเป็นคนติดรถมากับพี่ ต ถึง 2 วันสุดท้ายที่เรียนมโนยิทธิเต็มกำลัง พอถึงวันนั้นมาเวลาเราไปปฏิบัติที่วิหาร 100 ไร่ปุ๊บเข้าฌานปั๊บก็ยินเสียงเขากรี๊ดดังไปทั่ววิหาร100ไร่ ยิ่งทำให้เราเห็นและเรารู้เรายิ่งกลัว เราก็ยิ่งหลีกเลี่ยงหลีกหน้าเขาเหมือนเขาจะรู้ตัวแล้วเราพยายามเท่าจะทำได้แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นเพราะเราก็ได้ติดรถพี่ตกับเขามาเที่ยวพิษณุโลกหลังจากนั้นก็ไม่เจอหน้ากันเลยเราก็ไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงพอเราเข้ามากรุงเทพฯเรามาพักอยู่ที่ธงชาติแมนชั่นเป็นเวลา 9 วันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ
มีอยู่วันหนึ่งวันโกนเราก็รู้สึกแบบว่าเอ๊ะทำไมเรานอนไม่หลับนะเราไม่เคยเป็นอย่างนี้เพราะเราจะนอนตั้งแต่ 20:00 น หรือ 21:00 น. สูงสุดและก็ไม่อยากใส่พระเพราะเราจะใส่พระปกติอยู่ตลอดแล้วจะไม่ถอดให้ตายยังไงก็ตาม แต่วันโกนที่ผ่านมานี้เราก็นอนไม่หลับแต่ว่ามือเราก็ยังจับพระอยู เราคิดว่าเป็นเพราะเราดื่มกาแฟตอนบ่ายหรือเปล่าก็ไม่ได้คิดอะไรคิดบวกไว้ก่อนพอถึงวันพรุ่งนี้มาเป็นวันพระยิ่งนอนไม่หลับแล้วรู้ไหมที่สำคัญคือมันมีเสียงแบบผู้หญิงมารบกวนเราแล้วก็เป็นคนไม่กลัวผีอยู่แล้วน้อเราก็ว่าไม่ซีเรียส แต่มันกวนจนเรานอนไม่ได้เลย เราก็คิดว่าจะไปบอกเจ้าของอพาร์ทเม้นท์นี้ดีไหมว่าคนข้างบนน่ะทำไมเขาแบบว่ารบกวนเราจนนอนไม่ได้แต่ไม่คิดว่าเป็นผีปอบไงที่ตามมา แล้วก็ใช้ชีวิตปกติจนถึงมาวันนี้คืนวันที่ 26 เพราะ 27 เราต้องได้บินไปที่สปปลาว
แล้ววันนี้มันก็แปลกตั้งแต่ตอนที่เราไปเที่ยวมาแล้วมันนอนไม่หลับทั้งๆที่มันเหนื่อยมากอยากนอนเพราะเราเพิ่งไปเที่ยวมาทั้งวันแต่เราก็ไม่คิดอะไรมากเราก็มานอนนอนยังไงก็นอนไม่หลับจนถึงตี 2 พอถึง 02:00 น เราไม่ไหวแล้วเราก็หลับไปแป๊บนึงเราก็รู้เลยว่าปอบอ่ะมันยังไม่ได้หายมันยังตามเรามา เพราะว่าเราสู้กับมันน่ะจนฉี่ราดเลย
เดี๋ยวว่างๆจะมาเล่าต่อ
ใครอยากอ่านต่อก็ Comment ไว้นะถ้ามีคนอยากฟังอยู่ก็จะมาเล่าให้ฟังต่อ