เศรษฐกิจแย่ ‘ที่ดิน’ ทำเลทองขายไม่ออก ‘แลนด์ลอร์ด’ โร่หั่นราคา เร่งปิดดีลหนีภาษีแพง
https://www.matichon.co.th/economy/news_3744129
เศรษฐกิจไม่ดี ‘ที่ดินเปล่า’ ทำเลทองขายไม่ออก ‘แลนด์ลอร์ด’ กัดฟันหั่นราคา เร่งปิดดีลหนีภาษีแพง
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าถึงแม้ราคาประเมินใหม่จะเริ่มใช้วันที่ 1 มกราคม 2566 ทั่วประเทศจะปรับขึ้น 8.93% โดยกรุงเทพฯปรับขึ้น 2.69% และต่างจังหวัดปรับขึ้น 8.81% จะไม่ส่งผลต่อการตั้งราคาขายที่ดินเปล่า เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว หากตั้งราคาขายสูงจะทำให้ขายได้ลำบาก
ทั้งนี้จากที่คุยกับเจ้าของที่ดินรายหนึ่ง ซึ่งมีที่ดิน 1 แปลงย่านพระราม 9 เนื้อที่ 43 ไร่ อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม เมื่อก่อนตั้งราคาขาย 650,000 -700,000 บาทต่อตารางวา(ตร.ว.) รวม 43 ไร่ อยู่ที่กว่า 11,000 ล้านบาท ล่าสุดลดราคาเหลือ 10,000 ล้านบาทหรือ 600,000 บาทต่อตร.ว. โดยเจ้าของที่ดินรับภาระค่าใช้จ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรวมถึงค่าโอนกรรมสิทธิ์ให้ด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า นอกจากนี้เจ้าของที่ดินรายดังกล่าวยังมีที่ดินอีก 2 แปลงใหญ่ที่พัทยา 1,400 ไร่ ใกล้สถานีรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ตั้งราคาขาย 7,000 ล้านบาทหรือไร่ละ 5 ล้านบาท และย่านมีนบุรีใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรีอีก 1,000 ไร่ ยังไม่ได้ตั้งราคาขายรอรถไฟฟ้าเปิดในปี 2566
“
สาเหตุที่ยังขายไม่ได้ คงเป็นเพราะเป็นที่ดินแปลงใหญ่และมูลค่าซื้อขายสูง ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี เลยทำให้ขายยาก ซึ่งการซื้อขายที่ดินไม่ได้หวือหวาเหมือนเมื่อก่อน ยิ่งมีภาษีที่ดินฯ ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ต้องพิจารณาอย่างละเอียด หากซื้อแพงไปก็จะทำให้การพัฒนาโครงการสูงตามไปด้วย” แหล่งข่าวกล่าว
นาย
ภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์การซื้อขายที่ดินในครึ่งปีแรกของปี 2565 ยังเงียบ โดยเฉพาะที่ดินแปลงใหญ่มูลค่า 100-1,000 ล้านบาท จะใช้เวลาขายค่อนข้างนาน ทั้งนี้จากการที่เก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2565 ในอัตรา 100% มีแลนด์ลอ์ดหลายรายนำที่ดินยังไม่พัฒนาประกาศขายหลายแปลง ส่วนใหญ่อยู่ในทำเลที่ราคาที่ดินสูง เช่น พญาไท สุขุมวิท เพื่อลดภาระภาษีที่ดินฯ เพราะแม้ในปี 2566 รัฐจะลดให้ 15% แต่ราคาประเมินที่ดินสูงขึ้นจะทำให้ต้องจ่ายภาษีที่ดินฯ สูงขึ้นเช่นกัน
“
ดีลซื้อขายที่ดินราคาสูงในพื้นที่ใจกลางเมืองในปี 2566 มองว่าอาจมีเกิดขึ้นบ้าง แต่อยู่ในพื้นที่รอบใจกลางเมืองเพราะราคาเสนอขายยังไม่สูงมากเหมือนในย่านซีบีดี ซึ่งผู้พัฒนาที่ซื้อไปยังสามารถนำที่ดินมาพัฒนาโครงการได้ด้วยระยะคืนทุนที่ไม่นานมากนัก และจะเป็นในรูปแบบเช่าระยะยาวเป็นส่วนใหญ่” นาย
ภัทรชัยกล่าว
นาย
กวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ เคอี กรุ๊ป จำกัด (เค.อี.แลนด์) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริหารพื้นที่รีเทล ”
เดอะคริสตัล” กล่าวว่า ปัจจุบันมีแลนด์แบงก์รอพัฒนาอยู่ประมาณ 200-300 ไร่ ย่านถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา คิดเป็นมูลค่าร่วม 10,000 ล้านบาท โดยยังไม่มีแผนนำมาพัฒนาโครงการในเร็วๆนี้
ทั้งนี้จากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตรา 100% ได้มีการบริหารจัดการโดยนำมาให้เช่าระยะสั้น และมีบางส่วนที่อาจจะให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) พัฒนาเป็นที่พื้นที่สาธารณะ ตามนโยบายของนาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. หากยินยอมให้กทม.ใช้ประโยชน์ที่ดินภายในระยะเวลา 7 ปี จะได้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ
ชลน่าน เย้ย ตู่ คะแนนนิยมลดลงเรื่อยๆ กั๊กจับมือ เนวิน ตั้งรัฐบาลอ้างยังไม่ถึงเวลา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7431552
ชลน่าน เมิน เนวิน ประกาศจับมือพรรคเพื่อไทย ตั้งรัฐบาล ชี้ยังไม่ถึงเวลา ย้ำไม่จับมือพรรคสนับสนุนอำนาจเผด็จการ แซะคะแนนนิยม ‘บิ๊กตู่’ ลดลง
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2565 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี นาย
เนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ระบุพร้อมจับมือกับพรรคเพื่อไทย ตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งว่า ยังไม่อยากพูดในประเด็นนั้น เพราะยังไม่ถึงเวลา ยังไม่เหมาะสม เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงความรู้สึกประชาชน เราต้องได้รับมอบอำนาจจากประชาชนก่อน พรรคจะพูดอะไรได้ต่อเมื่อประชาชนมอบอำนาจให้ได้เกิน 250 เสียงขึ้นไป ยังไม่อยากประกาศหรือแสดงเจตจำนงว่าจะมือกับใครร่วมรัฐบาล
ส่วนพันธมิตรทางการเมืองหลังเลือกตั้งนั้น เมื่อประชาชนให้ความไว้วางใจมา ต้องมาดูว่า พรรคใดที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ส่วนพรรคที่มีที่มาที่ไป มีอุดมการณ์ต่างกัน ไปสนับสนุนอำนาจเผด็จการ เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา เราต้องถามประชาชนว่าพรรคที่จะไปร่วมด้วยนั้น ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ คนอื่นจะพูดอย่างไร เป็นความคิดเห็น เป็นเสรีภาพทางการเมือง ไม่ก้าวล่วง เพียงแต่คนจะพูดต้องคำนึงถึงเสรีภาพพรรคเรา ถ้าทำให้เสียหายเราก็ต้องปกป้องพรรคเรา
เมื่อถามว่าหลังจากพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีกระแสความนิยมเพิ่มขึ้น ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่ นพ.
ชลน่าน กล่าวว่า ผลสำรวจบางสำนักน่าจะออกมาก่อน ที่พล.อ.
ประยุทธ์ จะประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ถามว่าความนิยมเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่ ไม่แน่ใจ เพราะก่อนหน้าจากร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 14 คงไม่น่าจะขึ้น เมื่อไปดู น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กลับมีคะแนนนิยมมากกว่า
ไม่เชื่อว่าโพลสะท้อนว่าความนิยม พล.อ.
ประยุทธ์เพิ่มขึ้น มั่นใจว่าหากยิ่งสำรวจความมั่นใจก็คงไม่มากไปกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อนายกฯ ประกาศตัวออกมา ประชาชนจะได้ตัดสินใจได้ถูกต้อง ว่าจะมอบอำนาจให้เพื่อสืบทอดอำนาจต่อไปหรือไม่ ตอนนี้มีการแบ่งข้างชัด หากต้องการให้ พรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทนประชาชนจัดตั้งรัฐบาลประชาชนก็ต้องเลือก พรรคเพื่อไทยให้ชนะขาด เพื่อเอาพล.อ.
ประยุทธ์ ออกจากอำนาจ
‘เพื่อไทย’ ขอบคุณ ปชช.หนุน ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นนายกฯ เหน็บผลโพลน่าจะปลุก ‘ตู่’ ตื่นจากฝัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3744221
‘เพื่อไทย’ ขอบคุณคนไทยหนุน ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นนายกฯ เหน็บผลโพลน่าจะปลุก ‘ตู่’ ตื่น ลั่นอย่าคิดว่าประเทศไม่มีท่านแล้วจะเดินต่อไม่ได้-ต้องรู้จักพอ
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม น.ส.
ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีผลสำรวจคะแนนความนิยมทางการเมืองของนิด้าโพล ซึ่งพบว่าบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ อันดับ 1 คือ น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ถึงร้อยละ 34 เพราะชื่นชอบพรรค พท. และเชื่อว่านโยบายของพรรคสามารถทำได้จริง รวมถึงต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งทิ้งห่างจากอันดับ 2 คือ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้เพียงร้อยละ 14.05 ว่าขอขอบคุณคนไทยที่อยากเห็น น.ส.
แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี หลายครั้งที่ผลโพลสนับสนุน น.ส.
แพทองธาร สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยต้องการผู้นำประเทศที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ พรรคการเมืองที่เป็นความหวังมาบริหารประเทศให้พ้นจากความทุกข์ ปัญหาทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา และสร้างความหวังให้กับชีวิตของพี่น้องประชาชน
น.ส.
ธีรรัตน์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ อันดับ 1 ร้อยละ 42.95 และทิ้งห่างพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่อยู่อันดับ 4 ร้อยละ 6.95 เท่านั้น จึงถือเป็นการตอกย้ำว่าประชาชนให้การสนับสนุนแนวนโยบาย และผู้ซึ่งประสงค์รับสมัครเป็น ส.ส.ของพรรค พท. ทั้งหมดนี้ถือเป็นกำลังใจให้พวกเราได้มุ่งมั่นเดินหน้าทำงานต่อไป ทั้งการคิดค้นแนวนโยบาย การลงพื้นที่พบปะ แลกเปลี่ยน และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เพื่อไปสู่เป้าหมายที่พรรค พท.ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ซึ่งถือเป็นชัยชนะของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน
น.ส.
ธีรรัตน์กล่าวว่า ผลโพลล่าสุดคงทำให้ พล.อ.
ประยุทธ์สำนึกในความรู้สึกว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนี้แล้ว ระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมาของการบริหารประเทศของ พล.อ.
ประยุทธ์เพียงพอแล้ว
“
คนเรามีสิทธิที่จะฝัน แต่ผลโพลล่าสุดน่าจะปลุกให้ พล.อ.ประยุทธ์ตื่น อย่าคิดว่าประเทศไทยไม่มีท่านแล้ว จะเดินต่อไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องรู้จักพอ เพราะประเทศไทยภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยเราวางเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน และแนวทางในการสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจไว้อย่างรอบด้าน พรรคเพื่อไทยจะทำงานหนักต่อไป เพื่อชัยชนะของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ” น.ส.
ธีรรัตน์กล่าว
JJNY : ศก.แย่ ‘ที่ดิน’ทำเลทองขายไม่ออก| ชลน่านเย้ยตู่ คะแนนนิยมลดลงเรื่อยๆ| ‘เพื่อไทย’เหน็บผลโพล | “ประยุทธ์” ฉุนสื่อ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3744129
เศรษฐกิจไม่ดี ‘ที่ดินเปล่า’ ทำเลทองขายไม่ออก ‘แลนด์ลอร์ด’ กัดฟันหั่นราคา เร่งปิดดีลหนีภาษีแพง
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าถึงแม้ราคาประเมินใหม่จะเริ่มใช้วันที่ 1 มกราคม 2566 ทั่วประเทศจะปรับขึ้น 8.93% โดยกรุงเทพฯปรับขึ้น 2.69% และต่างจังหวัดปรับขึ้น 8.81% จะไม่ส่งผลต่อการตั้งราคาขายที่ดินเปล่า เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว หากตั้งราคาขายสูงจะทำให้ขายได้ลำบาก
ทั้งนี้จากที่คุยกับเจ้าของที่ดินรายหนึ่ง ซึ่งมีที่ดิน 1 แปลงย่านพระราม 9 เนื้อที่ 43 ไร่ อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม เมื่อก่อนตั้งราคาขาย 650,000 -700,000 บาทต่อตารางวา(ตร.ว.) รวม 43 ไร่ อยู่ที่กว่า 11,000 ล้านบาท ล่าสุดลดราคาเหลือ 10,000 ล้านบาทหรือ 600,000 บาทต่อตร.ว. โดยเจ้าของที่ดินรับภาระค่าใช้จ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรวมถึงค่าโอนกรรมสิทธิ์ให้ด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า นอกจากนี้เจ้าของที่ดินรายดังกล่าวยังมีที่ดินอีก 2 แปลงใหญ่ที่พัทยา 1,400 ไร่ ใกล้สถานีรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ตั้งราคาขาย 7,000 ล้านบาทหรือไร่ละ 5 ล้านบาท และย่านมีนบุรีใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรีอีก 1,000 ไร่ ยังไม่ได้ตั้งราคาขายรอรถไฟฟ้าเปิดในปี 2566
“สาเหตุที่ยังขายไม่ได้ คงเป็นเพราะเป็นที่ดินแปลงใหญ่และมูลค่าซื้อขายสูง ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี เลยทำให้ขายยาก ซึ่งการซื้อขายที่ดินไม่ได้หวือหวาเหมือนเมื่อก่อน ยิ่งมีภาษีที่ดินฯ ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ต้องพิจารณาอย่างละเอียด หากซื้อแพงไปก็จะทำให้การพัฒนาโครงการสูงตามไปด้วย” แหล่งข่าวกล่าว
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์การซื้อขายที่ดินในครึ่งปีแรกของปี 2565 ยังเงียบ โดยเฉพาะที่ดินแปลงใหญ่มูลค่า 100-1,000 ล้านบาท จะใช้เวลาขายค่อนข้างนาน ทั้งนี้จากการที่เก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2565 ในอัตรา 100% มีแลนด์ลอ์ดหลายรายนำที่ดินยังไม่พัฒนาประกาศขายหลายแปลง ส่วนใหญ่อยู่ในทำเลที่ราคาที่ดินสูง เช่น พญาไท สุขุมวิท เพื่อลดภาระภาษีที่ดินฯ เพราะแม้ในปี 2566 รัฐจะลดให้ 15% แต่ราคาประเมินที่ดินสูงขึ้นจะทำให้ต้องจ่ายภาษีที่ดินฯ สูงขึ้นเช่นกัน
“ดีลซื้อขายที่ดินราคาสูงในพื้นที่ใจกลางเมืองในปี 2566 มองว่าอาจมีเกิดขึ้นบ้าง แต่อยู่ในพื้นที่รอบใจกลางเมืองเพราะราคาเสนอขายยังไม่สูงมากเหมือนในย่านซีบีดี ซึ่งผู้พัฒนาที่ซื้อไปยังสามารถนำที่ดินมาพัฒนาโครงการได้ด้วยระยะคืนทุนที่ไม่นานมากนัก และจะเป็นในรูปแบบเช่าระยะยาวเป็นส่วนใหญ่” นายภัทรชัยกล่าว
นายกวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ เคอี กรุ๊ป จำกัด (เค.อี.แลนด์) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริหารพื้นที่รีเทล ”เดอะคริสตัล” กล่าวว่า ปัจจุบันมีแลนด์แบงก์รอพัฒนาอยู่ประมาณ 200-300 ไร่ ย่านถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา คิดเป็นมูลค่าร่วม 10,000 ล้านบาท โดยยังไม่มีแผนนำมาพัฒนาโครงการในเร็วๆนี้
ทั้งนี้จากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตรา 100% ได้มีการบริหารจัดการโดยนำมาให้เช่าระยะสั้น และมีบางส่วนที่อาจจะให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) พัฒนาเป็นที่พื้นที่สาธารณะ ตามนโยบายของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. หากยินยอมให้กทม.ใช้ประโยชน์ที่ดินภายในระยะเวลา 7 ปี จะได้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ
ชลน่าน เย้ย ตู่ คะแนนนิยมลดลงเรื่อยๆ กั๊กจับมือ เนวิน ตั้งรัฐบาลอ้างยังไม่ถึงเวลา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7431552
ชลน่าน เมิน เนวิน ประกาศจับมือพรรคเพื่อไทย ตั้งรัฐบาล ชี้ยังไม่ถึงเวลา ย้ำไม่จับมือพรรคสนับสนุนอำนาจเผด็จการ แซะคะแนนนิยม ‘บิ๊กตู่’ ลดลง
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2565 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ระบุพร้อมจับมือกับพรรคเพื่อไทย ตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งว่า ยังไม่อยากพูดในประเด็นนั้น เพราะยังไม่ถึงเวลา ยังไม่เหมาะสม เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงความรู้สึกประชาชน เราต้องได้รับมอบอำนาจจากประชาชนก่อน พรรคจะพูดอะไรได้ต่อเมื่อประชาชนมอบอำนาจให้ได้เกิน 250 เสียงขึ้นไป ยังไม่อยากประกาศหรือแสดงเจตจำนงว่าจะมือกับใครร่วมรัฐบาล
ส่วนพันธมิตรทางการเมืองหลังเลือกตั้งนั้น เมื่อประชาชนให้ความไว้วางใจมา ต้องมาดูว่า พรรคใดที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ส่วนพรรคที่มีที่มาที่ไป มีอุดมการณ์ต่างกัน ไปสนับสนุนอำนาจเผด็จการ เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา เราต้องถามประชาชนว่าพรรคที่จะไปร่วมด้วยนั้น ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ คนอื่นจะพูดอย่างไร เป็นความคิดเห็น เป็นเสรีภาพทางการเมือง ไม่ก้าวล่วง เพียงแต่คนจะพูดต้องคำนึงถึงเสรีภาพพรรคเรา ถ้าทำให้เสียหายเราก็ต้องปกป้องพรรคเรา
เมื่อถามว่าหลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีกระแสความนิยมเพิ่มขึ้น ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ผลสำรวจบางสำนักน่าจะออกมาก่อน ที่พล.อ.ประยุทธ์ จะประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ถามว่าความนิยมเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่ ไม่แน่ใจ เพราะก่อนหน้าจากร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 14 คงไม่น่าจะขึ้น เมื่อไปดู น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กลับมีคะแนนนิยมมากกว่า
ไม่เชื่อว่าโพลสะท้อนว่าความนิยม พล.อ.ประยุทธ์เพิ่มขึ้น มั่นใจว่าหากยิ่งสำรวจความมั่นใจก็คงไม่มากไปกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อนายกฯ ประกาศตัวออกมา ประชาชนจะได้ตัดสินใจได้ถูกต้อง ว่าจะมอบอำนาจให้เพื่อสืบทอดอำนาจต่อไปหรือไม่ ตอนนี้มีการแบ่งข้างชัด หากต้องการให้ พรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทนประชาชนจัดตั้งรัฐบาลประชาชนก็ต้องเลือก พรรคเพื่อไทยให้ชนะขาด เพื่อเอาพล.อ.ประยุทธ์ ออกจากอำนาจ
‘เพื่อไทย’ ขอบคุณ ปชช.หนุน ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นนายกฯ เหน็บผลโพลน่าจะปลุก ‘ตู่’ ตื่นจากฝัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3744221
‘เพื่อไทย’ ขอบคุณคนไทยหนุน ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นนายกฯ เหน็บผลโพลน่าจะปลุก ‘ตู่’ ตื่น ลั่นอย่าคิดว่าประเทศไม่มีท่านแล้วจะเดินต่อไม่ได้-ต้องรู้จักพอ
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีผลสำรวจคะแนนความนิยมทางการเมืองของนิด้าโพล ซึ่งพบว่าบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ อันดับ 1 คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ถึงร้อยละ 34 เพราะชื่นชอบพรรค พท. และเชื่อว่านโยบายของพรรคสามารถทำได้จริง รวมถึงต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งทิ้งห่างจากอันดับ 2 คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้เพียงร้อยละ 14.05 ว่าขอขอบคุณคนไทยที่อยากเห็น น.ส.แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี หลายครั้งที่ผลโพลสนับสนุน น.ส.แพทองธาร สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยต้องการผู้นำประเทศที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ พรรคการเมืองที่เป็นความหวังมาบริหารประเทศให้พ้นจากความทุกข์ ปัญหาทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา และสร้างความหวังให้กับชีวิตของพี่น้องประชาชน
น.ส.ธีรรัตน์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ อันดับ 1 ร้อยละ 42.95 และทิ้งห่างพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่อยู่อันดับ 4 ร้อยละ 6.95 เท่านั้น จึงถือเป็นการตอกย้ำว่าประชาชนให้การสนับสนุนแนวนโยบาย และผู้ซึ่งประสงค์รับสมัครเป็น ส.ส.ของพรรค พท. ทั้งหมดนี้ถือเป็นกำลังใจให้พวกเราได้มุ่งมั่นเดินหน้าทำงานต่อไป ทั้งการคิดค้นแนวนโยบาย การลงพื้นที่พบปะ แลกเปลี่ยน และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เพื่อไปสู่เป้าหมายที่พรรค พท.ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ซึ่งถือเป็นชัยชนะของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน
น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า ผลโพลล่าสุดคงทำให้ พล.อ.ประยุทธ์สำนึกในความรู้สึกว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนี้แล้ว ระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมาของการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์เพียงพอแล้ว
“คนเรามีสิทธิที่จะฝัน แต่ผลโพลล่าสุดน่าจะปลุกให้ พล.อ.ประยุทธ์ตื่น อย่าคิดว่าประเทศไทยไม่มีท่านแล้ว จะเดินต่อไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องรู้จักพอ เพราะประเทศไทยภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยเราวางเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน และแนวทางในการสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจไว้อย่างรอบด้าน พรรคเพื่อไทยจะทำงานหนักต่อไป เพื่อชัยชนะของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ” น.ส.ธีรรัตน์กล่าว