สวัสดีค่าาา ครั้งนี้มีเรื่องมาเล่ากับน้ำหอม การเริ่มต้น และการแลกเปลี่ยนนะคะ
แพรเองพอรู้มาซักพักว่ามีคนไทยทำน้ำหอมหลายปีก่อน จนมาที่ร้านนี้ได้เปิดโลกมากๆเลยค่ะ จนเพิ่งรู้ว่าเจ้าของร้านเองเป็น 1 ในผู้จัดงานประกวดน้ำหอม Thai perfumers ที่ผ่านมาที่ MBK รอบนั้นแม้แพรจะไม่ได้ไปชม แต่มาเจอเจ้าของร้านเองแพรว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้มุมมองเราที่มีต่อน้ำหอมไทย ได้สนุกไปด้วยค่ะ
โพสต์นี้ไม่มีสปอนเซอร์นะคะ แพรเองชอบงาน design / art /craft อยู่แล้ว
เลยตั้งใจเขียนมาเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับใครหลายๆคนนะคะ
พื้นความรู้และความชอบของเราอันน้อยนิด ได้เปิดโลกกับร้านนี้ ที่ได้ประสบการณ์ เรื่องเล่าต่างๆ และความเข้าใจ รวมถึงอนาคตทิศทางน้ำหอมไทย กับคุณณัท (ณัท เวชชศาสตร์) ที่ทำให้เรื่องน้ำหอมมันสนุกขึ้น ดีกับคนอิน ชอบ มีแพชชั่น และอยากเริ่มต้นไปกับสิ่งนี้
แกๆ แกจะไปงานตลาดนัดใช่มั้ย? พี่มีร้านน้ำหอม คาเฟ่น้ำหอมแถวๆนั้นแวะด้วยได้มั้ยล่ะ ,, หลังจากที่นัดกันเลยเป็นจุดเริ่มต้นของทริปนี้
ด้วยความที่พวกเราไม่เคยมาจุฬาก็เปิดโลเคชั่นใหม่กับตัวเอง ร้านนี้ตั้งอยู่โครงการ "Dragon town" แถวๆซอยจุฬา 5 เดินขึ้นมา 1 ชั้น
และแนะนำว่าโทรถามเบอร์ร้านได้เลยที่รายละเอียดแปะให้ค่ะ
และใช่ พวกเราหลงจริงๆ จนบอกพี่เชนทร์ว่าพี่..โทรหาร้านเค้ามั้ย ก็จนไฟนอลเดินหาร้านจนเจอ เลยแนะนำสำหรับคนที่ไม่เคยมาค่ะ
จนมาถึงที่นี่ เราเองก็เกร็งๆแฮะ เราจะแพ้มั้ยนะ? มีอาการอะไรมั้ย? จะสนุกมั้ยนะ เห็นเงียบๆจริงๆคิดอยู่ค่ะ และเตือนนิด สำหรับใครที่แพ้น้ำมันหอมระเหย หรืออโรม่าคือไม่เหมาะนะคะ จริงๆมานั่งกับเพื่อนได้เพราะร้านเองไม่ได้เปิดมาน้ำหอมตู้มต้ามขนาดนั้น
แต่ให้ไปลองเล่น ลองดมตามขวดและพื้นที่ที่จัดไว้ตะหาก
จากที่ถามคุณณัทเอง น้ำหอมมันมีหลายมิติเลยนะ มาจากการแต่งกลิ่น
สำหรับความทรงจำบ้าง / ใช้ตามวาระต่างๆบ้าง / การประกวด / หรือแม้แต่การเป็นของขวัญของฝาก
ที่นี่เองเป็น Lab ของคุณณัท และ แบรนด์ Siam 1982 ซึ่งกลิ่นทางของแบรนด์นี้คือน้ำปรุงเลยจากครอบครัวและสูตรเฉพาะ นี่ดมแล้วชอบมาก แต่ยังนึกไม่ออกจะหาใส่วาระไหน แต่ผ่อนคลาย ดอกไม้คือฟุ้งไปหมด แม้ภาพจำในหัวจะเป็นน้ำมันมะกอกใส่ผมตอนเด็กๆกับน้ำปรุงสงกรานต์
ทำให้เปิดโลกที่มันสนุกตั้งแต่แรกๆ
ซึ่งแม้ตอนนี้จะมีเพียง 4 แบรนด์มาลง ลองมาเถอะค่ะน้ำหอมมันต้องใช้เวลา และความเฉพาะคน มันไม่สามารถสั่งออนไลน์ที่จินตนาการกลิ่น
ยกเว้นเคยซื้อแล้วค่อยสั่งออนไลน์นั่นก็เมคเซนส์
ทีนี้น้ำหอมน่ะ คนเรารับ Sensory ไม่เหมือนกัน จากที่เคยอ่านๆและแลกเปลี่ยนมาผู้หญิงค่อนข้างจับรับพวกนี้ไว้ดีและละเอียดกว่า
ขึ้นอยู่ที่การฝึกฝน ก็ประสบการณ์ทั้งชีวิตมันช่วยได้ที่แยกlayers กลิ่นอาหาร / กาแฟ / และอากาศต่างๆ ใช่มันมีกลิ่นนะ ร้าน และพื้นที่ต่างๆเราจะจำมันได้
อ้อ.. พอเรื่องบรรยากาศมีกลิ่นหมี / Mhee หมีจริงๆป่าเลย เหมือนเราไปดอย ไปเข้าป่าแล้วเจอหมี ความชื้นๆ ดินๆ เปลือกไม้
และมอสเขียวๆ เค้าเอากลิ่นนั้นมาใส่ในน้ำหอมจริงๆนะ ฮ่าๆ
เราเองเป็นสายรักงาน Design ตั้งแต่สมัยเรียน พี่เชนทร์เองก็เป็นนักออกแบบที่ได้ทำออกแบบให้แบรนด์น้ำหอมเจ้านึง จนมาเพราะเค้านี่ล่ะ
.
ในความคิดภาพจำเราจะเจอแต่น้ำหอมนอก น้ำหอมแบรนด์ จนวันนี้เจอดงน้ำหอมคนไทยเลย (เราสนใจตั้งแต่งานประกวดแล้วแต่ไม่ได้ไป) ก็คงโลกกลมและแรงดึงดูดที่ทำให้เราได้มาเจอกันจริงๆ ซึ่งในมุมน้ำหอมเราดูไม่กี่ช่องที่รีวิวและตามไปดมจริงๆ จนเริ่มสนใจสายน้ำหอม Unique / น้ำหอม Designer มาซักพัก
.
และคนที่ไม่เคยใช้ไปได้มั้ย? ได้สิ่ ได้มากๆเลยที่ค่อยๆเริ่มต้น ด้วยคุณภาพที่เค้าใส่ใจนะ และตั้งใจมามากๆแล้วจนมาเป็นสินค้า
เราเอง เป็น 1 คนที่ถ้าเจอแบบไม่ดีส่งผลต่อร่างกายเช่น นอนไม่หลับ / ท้องไส้แปรปรวน ตอนดมเลยกังวลว่าจะแรงมั้ย? หรือแพ้ไป
จะเวียนหัวมั้ยนะ จนเล่าเรื่องนี้ให้คุณณัทฟัง และเรารู้ตั้งแต่เริ่มเล่นน้ำหอมมานิดๆว่ามันแล้วแต่ภาวะร่างกายเลยค่ะ
และเพราะมันคือความทรงจำที่ไม่ดีต่อน้ำหอมในวัยเด็ก แต่พอเรามีประสบการณ์มากขึ้นในสมัยเรียน มันเลยค่อยๆเปิดใจ คุณณัทเองเลยบอกว่าจริงๆมันมีหลายเกรดนะ เลยแนะนำให้ใช้กระดาษเทสเตอร์เถอะ เพราะได้กลิ่นที่ชัดกว่า
...เอ้ออ จริงด้วย , ดีจัง
.
เรื่องของภาวะร่างกายมีผลค่ะ เราลองดมตั้งแต่ถูก ยันแพง และหลายๆครั้งเวลาแวะร้านเครื่องสำอาง , ตามเพื่อนไปซื้อบ้าง ,
ดูจาก youtuber รีวิวบ้าง และเวลาเจอหนุ่มๆ หรือเพื่อนๆที่ใช้น้ำหอม
.
มันบ่งบอกถึงตัวตน นิสัย และจริงๆ คุณณัทบอกนะว่าใส่น้ำหอมดอกอะไรที่ทำให้คนยอมรับได้แต่กับตัวเองอาจมีอีโก้ เรานี่ตาโตเลยว่ามิติของดอกไม้
หรือกลิ่นแต่ละชนิดทำได้ด้วยหรอ (ไว้ดิชั้นนนน จะตามหาความรู้วววว)
ต่อจากรูปเมื่อกี้นี้ เราเป็นคนนึงที่ชอบอธิบาย ชอบใช้เวลา และชอบแลกเปลี่ยนความรู้ ที่เวลาเจอคนที่ทำอะไรด้วย inner หรือ passion จะเป็นสิ่งนึงที่เราเข้าใจคือ " เ ว ล า " ไม่ว่าเวลาที่เราคุยกัน หรือเวลาของการสร้างสรรค์ผลงาน คุณค่ามันอยู่ที่ตรงนั้นเพราะทุกอาชีพมันไม่ควรมีการตัดสินใจมุมที่ไม่ดี แต่หากเราได้เจอคนที่แนะนำได้ คุยด้วยที่ทำให้เราเข้าใจ ก็ไม่ต่างจากการซื้อประสบการณ์ที่มันจะเฉพาะคน
เอาง่ายๆ
1 คน ปรุง 1 พันคนชิมชอบไม่เหมือนกันหรอกค่ะ
คำนี้ใช้ได้ทุกวงการเลย
.
เพียงแต่แค่ว่าเราถูกจริต ถูกใจในบริการแบบไหนก็เซฟไว้ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยว่าถ้าเรามาเราจะยังได้รับสิ่งที่เรามีความสุขกลับไป
.
และไม่ผิดสำหรับหลายๆคนที่แพ้จริงๆเพราะร่างกายคนเราไม่เหมือนกันทั้งสาร และเคมีของประสาทสัมผัส
หลายคนเจอเกรดหรือแพ้สารปรุงแต่ง หรือเคยเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีกับน้ำหอมมาจากคนอื่น คนใกล้ตัวตรงนี้ก็เป็นการเคารพสิทธิ์ส่วนตัว
ใครจะซื้อน้ำหอมให้เพื่อนและคนอื่นๆเรื่องนี้สำคัญมากๆค่ะ
และะะ มาถึงเลเวลสุดกวน (เอาจริงๆไม่แนะนำให้ทำแบบนี้ ไม่งั้นคุณณัทอาจได้จ้างพนง.สำหรับแนะนำกลิ่นให้ไปเลยฮ่าๆ)
เราเองถ้าเริ่มเล่นๆน้ำหอมก็ราวๆ 5-6 ปีได้ เริ่มจากร้านสะดวกซื้อ แต่ด้วยลำพังเป็นคนขี้เบื่อ และแล้วแต่ลุค
รวมถึงปริมาณน้ำหอมส่วนใหญ่จะมาเยอะๆ เราเองห่วงว่าถ้าใช้ไม่หมดจะส่งต่อใคร? และไม่รู้จะจัดการกับมันยังไงถ้าเราไม่ชอบ
เราเองเพิ่งซื้อน้ำหอมจากแบรนด์นึงมาตั้งแต่ต้นปี จนเรามาซื้อซ้ำเพราะชอบและลองกลิ่นใหม่ๆแปบๆงอกมา 7 กลิ่นแล้วฮ่าๆใช้ผสมสนุกดี
.
สิ่งที่การจะเลือกน้ำหอมให้ตรงใจตรงตัว ขอบอกก่อนว่า กลิ่นเหงื่อมีผลมากๆ!! พอจะเก็ทรึยังคะทำไมน้ำหอมต่างๆที่คนรีวิวมากๆใช้กับเราไม่ได้
ใช้แล้วไม่เหมาะ เพราะจริงๆน้ำหอมเองเมื่อลงตัวเรากลิ่นจะเปลี่ยนขึ้นกับตัวเรามากๆ รวมถึงอาหารที่กินไปมันก็ออกมาทางเหงื่อถูกมั้ยคะ?
ไปจนถึงเราฉีดสำหรับสถานที่แบบไหน เนื้อผ้าที่ใช้ มีผลหมดค่ะ ,
ส่วนตัวเราเองเป็นคนที่มีโทนในใจนะ และรู้ว่าลุคกับนิสัยเรามันไม่เหมือนกันแต่เวลาที่ใช้ในร้านมันนานมากพอที่คุณณัทเลือกให้
สิ่งที่คุณณัทหยิบมาฉีดใส่กระดาษ กอชชชช..
มันใช่ชั้นนนน และจริงๆในใจเลือกกลิ่นนี้ไว้แต่ยังไม่ได้ว้าวเพราะที่บ้านมีกลิ่นโทนนี้เยอะแล้ว เลยจะนึกถึงความไม่ต่างเท่าไหร่(ต่างตรงส่วนผสมนะ) ซึ่งแบรนด์นั้นคือ Tada parfumuer ที่เรากรี้ดในมุมของน้ำหอมผู้ชายมากกว่า เลยรู้สึกสนุกที่คุณณัทเลือกเก่งมากๆ ไม่ได้ลองของเค้าเด้อ เพราะนี่ก็เผื่อได้น้ำหอมโทนใหม่ๆจากที่มี ที่สรุปก็ยังเหมือนโทนที่มีอยู่ดี ฮ่าๆรู้ใจไปอี้กกก
.
.
ปล. มันเป็นคำว่า Fruity นะคะสลับไปนิดในรูป
เราโชคดีที่ทุกคนที่เราได้เจอวันนี้ เป็นสายลึก ละเอียด คุยภาษาเดียวกันได้ เลยทำให้มันดีอีกแบบเลยที่ถ้ามันมีสังคมกลุ่มใหม่
หรือกลุ่มใหญ่ๆที่แลกเปลี่ยน ให้มีการ educated ซัพพอร์ทวงการน้ำหอมไทย
พี่เชนทร์เองมาเริ่มสนใจได้ซักระยะเลยได้แลกเปลี่ยน และพอมาชวนกันดมกลิ่น พูดคุยมันสนุกตรงที่ได้แตกจินตนาการต่อ
วันนั้นคุณณัทลองเอาน้ำหอมตัวนึงมาดม ซึ่งให้เดาเล่นๆ แต่จริงๆเป็นมะม่วง ที่ฟิลเขียวๆจากใบมะม่วง ยาง ความหอมของมิติมะม่วงบางอย่างจนแบบหัวเราะใหญ่โตมาก
น่าจะตัวนี้นะที่คุณณัท หยิบเทสให้ดมว่าเหมาะกับเราตามลุค
เวลาเราดมครั้งแรกมันจะหึ้ยฟิลหวาน ผลไม้สุกโทนเหลืองๆ และถ้าดมลึกจากการฝึกฝนหรือมีประสบการณ์คุณจะค่อยๆเริ่มแยกเทสออกอย่าง top note / middle note / base note ที่คล้ายๆกาแฟเลย มีbody / flavor และอื่นๆ
ที่เราอาจตกใจว่ากลิ่นหวานๆละมุนๆเนี้ยะ ใส่เยอะขนาดนั้นเลยหรอ? เราเคยเจอบางเจ้าใส่ราวๆ 15 ตัว
แต่พอมารู้ว่าอ๋อออ น้ำหอมมันมี layers นะก็เก็ตละ
อะะะะ ตัวนี้เราถ่ายเพราะสวย เราชอบฉลาก ฝั่งผู้ชายจะอยู่อีกมุมของร้าน
เป็นครั้งแรกที่น้ำหอมผู้ชายมันลึกซึ้งจริงถ้าฉีดมานี่ยังไม่ทันเอ่ยปากก็อยากบอกว่า "แต่งค่ะ" ฮ่าๆ หยอกๆ
เล่าเรื่องน้ำหอมครั้งแรก สำหรับมือใหม่ / คนเริ่มต้น / และน้ำหอม lover by Rebellion lab and perfume