ครั้งนึงสมัยทำงานกับสถานพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง.เคยมีพี่คนนึงที่ไม่ใช่นักเทคนิคการแพทย์ พูดถึงพี่อีกคนนึงที่เป็นนักเทคนิคการแพทย์ในทำนองที่ว่า “เทคนิคการแพทย์หรอ หุหุ ทำไมเจาะเลือดไม่เก่งหล่ะ เป็นนักเทคนิคการแพทย์ได้ยังไงเจาะเลือดไม่เก่ง ฉันไม่ไช่นักเทคนิคการแพทย์ ยังเจาะเก่งกว่า (เคยเป็นอยู่ใน ER)”
****คือต้องแยกออกหลายประเด็นเลย
ประเด็นที่1 : ที่เจาะไม่เก่งอะ ต้องดูลักษณะงานที่เขาทำ. ว่าโดยปกติแล้ว นักเทคนิคการแพทย์ท่านนี้ลักษณะงานหลักคืออะไร ถ้าลักษณะงานที่เขาทำคือห้องเคมีคลินิก ห้องโลหิตวิทยา ห้องภูมิคุ้มกัน ห้องชีวโมเลกุล หรือห้องแบคทีเรีย อันนี้สตี๊กแต่เพลท ย้อมแต่สี เดี๋ยวเครื่อง Hemoculture ร้อง. เดี๋ยวมาทำ Biochemical Test อะ อันนี้ไม่ได้มีโอกาสมานั่งจับเข็มแทงคนไข้หรอก ยกเว้นแต่ว่าลงไปช่วยงานห้องเจาะเลือด หรือห้องธนาคารเลือด หรือนักเทคนิคการแพทย์ท่านนี้อาจจะทำงานในตำแหน่งอื่น เช่น ทำในตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข การตลาด ประชาสัมพันธ์ หรืออะไรก็ตามที่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจับเข็มแทงคนไข้อะ ความชำนาญในการเจาะเลือดมันก็จะน้อยลงไป
ประเด็นที่2 : ถ้าอยู่ห้องเจาะเลือด อันนี้ได้เจาะแบบ100% เจาะตลอดช่วงเวลาที่เข้าเวร จะ3 ml. หรือ 20 ml, 30 ml ก็จัดมา หรือห้องธนาคารเลือด จะได้เจาะก็ต่อเมื่อออกหน่วยรับบริจาคโลหิตอะ ถ้าไม่ได้ออกหน่วย ก็ทำแล็บในห้อง.
ประเด็นที่3 : ที่คุณเจาะเก่งกว่า เพราะว่าคุณอยู่ในห้องฉุกเฉิน ซึ่งมีโอกาสได้ทำบ่อย(ทำในเคสฉุกเฉิน) การที่คุณมีโอกาสทำบ่อย มันก็ย่อมชำนาญมากกว่าคนที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสทำ
ประเด็นที่4 : ถ้าพูดถึงเรื่องความรู้ด้านแล็บหล่ะทีนี้ คุณแทบจะเทียบเขาไม่ได้หรอก คือคุณเจาะเลือดเป็นนะ (แต่ว่าเอาจริงๆแล้วไม่มีสิทธิ์ด้วยซ้ำไป). เพราะความรู้ที่คุณมี อาจจะมีเพียงแค่เพราะคุณได้ทำมัน ได้ทำแค่เจาะเลือด อื่นๆไม่รู้. แต่สำหรับนักเทคนิคการแพทย์แล้ว หน้าที่ไม่ได้มีแค่เจาะเลือด.
ประเด็นที่5 : ความรู้ ความชำนาญ ความสามารถแต่ละคนต่างกัน. ขนาดนักเทคนิคการแพทย์ด้วยกัน ยังมีความชอบลักษณะงานที่ต่างกัน บางคนชอบเจาะเลือด บางคนชอบงานภูมิคุ้มกัน บางคนชอบงานเคมีคลินิก หรือบางคนชอบมาก งานแบคทีเรีย งานปรสิตวิทยาพวกนี้.
*** ไม่ว่าจะทำงานในอาชีพไหน สายงานไหน แผนกไหน หน่วยงานไหน ก็อย่าไปแซะคนอื่น #เพราะทุกคนคือทีม ถ้าขาดอาชีพใดอาชีพหนึ่งไป การดูแลรักษา หรือช่วยชีวิตคนไข้ คงยากมากแน่นอน. ถ้าเราเก่งเราก็ชื่นชมตัวเอง ไม่ต้องไปข่ม หรือไปต่อว่าคนที่เขาไม่เก่งเท่าเรา. การที่ไปแซะคนที่อ่อนกว่าอะ มันดูไม่ Professional. มันดูพยายาม.
อย่าแซะคนอื่น
****คือต้องแยกออกหลายประเด็นเลย
ประเด็นที่1 : ที่เจาะไม่เก่งอะ ต้องดูลักษณะงานที่เขาทำ. ว่าโดยปกติแล้ว นักเทคนิคการแพทย์ท่านนี้ลักษณะงานหลักคืออะไร ถ้าลักษณะงานที่เขาทำคือห้องเคมีคลินิก ห้องโลหิตวิทยา ห้องภูมิคุ้มกัน ห้องชีวโมเลกุล หรือห้องแบคทีเรีย อันนี้สตี๊กแต่เพลท ย้อมแต่สี เดี๋ยวเครื่อง Hemoculture ร้อง. เดี๋ยวมาทำ Biochemical Test อะ อันนี้ไม่ได้มีโอกาสมานั่งจับเข็มแทงคนไข้หรอก ยกเว้นแต่ว่าลงไปช่วยงานห้องเจาะเลือด หรือห้องธนาคารเลือด หรือนักเทคนิคการแพทย์ท่านนี้อาจจะทำงานในตำแหน่งอื่น เช่น ทำในตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข การตลาด ประชาสัมพันธ์ หรืออะไรก็ตามที่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจับเข็มแทงคนไข้อะ ความชำนาญในการเจาะเลือดมันก็จะน้อยลงไป
ประเด็นที่2 : ถ้าอยู่ห้องเจาะเลือด อันนี้ได้เจาะแบบ100% เจาะตลอดช่วงเวลาที่เข้าเวร จะ3 ml. หรือ 20 ml, 30 ml ก็จัดมา หรือห้องธนาคารเลือด จะได้เจาะก็ต่อเมื่อออกหน่วยรับบริจาคโลหิตอะ ถ้าไม่ได้ออกหน่วย ก็ทำแล็บในห้อง.
ประเด็นที่3 : ที่คุณเจาะเก่งกว่า เพราะว่าคุณอยู่ในห้องฉุกเฉิน ซึ่งมีโอกาสได้ทำบ่อย(ทำในเคสฉุกเฉิน) การที่คุณมีโอกาสทำบ่อย มันก็ย่อมชำนาญมากกว่าคนที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสทำ
ประเด็นที่4 : ถ้าพูดถึงเรื่องความรู้ด้านแล็บหล่ะทีนี้ คุณแทบจะเทียบเขาไม่ได้หรอก คือคุณเจาะเลือดเป็นนะ (แต่ว่าเอาจริงๆแล้วไม่มีสิทธิ์ด้วยซ้ำไป). เพราะความรู้ที่คุณมี อาจจะมีเพียงแค่เพราะคุณได้ทำมัน ได้ทำแค่เจาะเลือด อื่นๆไม่รู้. แต่สำหรับนักเทคนิคการแพทย์แล้ว หน้าที่ไม่ได้มีแค่เจาะเลือด.
ประเด็นที่5 : ความรู้ ความชำนาญ ความสามารถแต่ละคนต่างกัน. ขนาดนักเทคนิคการแพทย์ด้วยกัน ยังมีความชอบลักษณะงานที่ต่างกัน บางคนชอบเจาะเลือด บางคนชอบงานภูมิคุ้มกัน บางคนชอบงานเคมีคลินิก หรือบางคนชอบมาก งานแบคทีเรีย งานปรสิตวิทยาพวกนี้.
*** ไม่ว่าจะทำงานในอาชีพไหน สายงานไหน แผนกไหน หน่วยงานไหน ก็อย่าไปแซะคนอื่น #เพราะทุกคนคือทีม ถ้าขาดอาชีพใดอาชีพหนึ่งไป การดูแลรักษา หรือช่วยชีวิตคนไข้ คงยากมากแน่นอน. ถ้าเราเก่งเราก็ชื่นชมตัวเอง ไม่ต้องไปข่ม หรือไปต่อว่าคนที่เขาไม่เก่งเท่าเรา. การที่ไปแซะคนที่อ่อนกว่าอะ มันดูไม่ Professional. มันดูพยายาม.