คุณยายอายุ97ปี ติดโควิดและได้ทำการรักษากับร.พ.รัฐแห่งหนึ่งย่านอนุเสาวรีย์ชัย โดยทางร.พ.ได้ทำการเอ็กซ์เรย์ปอด แจ้งว่าเชื้อโควิดยังไม่ได้ลงปอดแต่ที่ปอดมีเส้นอะไรบางอย่างทำให้ปอดเกิดการอักเสบ จึงเข้ารับการรักษากับทางร.พ.เป็นเวลาสิบวัน
ตลอดสิบวันญาติไม่สามารถพบคนไข้ได้เลยสองวันแรกบอกคนไข้ทานอาหารเองได้ แต่วันที่สามแจ้งว่าคนไข้ไม่สามารถรับประทานอาหารได้เองจึงใส่สายอาหารให้กับผู้ป่วย ตลอดสิบวันเราได้แต่โทรสอบถามอาการ ทางรพ.แจ้งว่า"ปอดดี ค่าอ็อกซิเจนดี" วันสุดท้ายก่อนออกจากร.พ.ก็ได้ทำการ
เอ็กซ์เรย์ปอดอีกครั้ง ทางร.พ.ก็แจ้งว่า
" ปอดอยู่ในเกณฑ์ดี"และพรุ่งนี้ให้มารับกลับบ้าน
ทันทีที่เห็นสภาพของยายงงเป็นไก่ตาแตกเลยว่า
ทำไมยายสภาพอ่อนเพลียและช้ำแบบนี้ แขนขาบวมพูดลิ้นพันกัน มีอาการหอบเหนื่อย เสมหะเยอะ กลับมาที่บ้านได้เพียงหนึ่งวันรุ่งเช้าก็ต้องนำไปส่งร.พ. คราวนี้เข้าแผนกอายุรกรรมเนื่องจากเชื้อโควิดหมดแล้ว หมออายุรกรรมเอ็กซ์เรย์ปอดพบว่า "ปอดติดเชื้อไปกว่า70%"แล้ว ซึ่งผลการตรวจย้อนแย้งกับแผนกผู้ป่วยโควิด สุดท้ายคุณยายก็ได้เสียชีวิตลง
เพราะความมั่นใจความเชื่อใจในชื่อเสียงของร.พ. ขนาดใช้สิทธิข้าราชการบำนาญแท้ๆ เอาจริงๆว่ารักษาไม่ได้ไม่เป็นไรเลย เพราะทราบดีว่าท่านอายุม่กแล้ว แต่ขอให้บอกผลตรวจตามจริงกับญาติผู้ป่วยไม่ได้เลยเหรอหรือกลัวว่าจะเป็นภาระกับทางรพ. เป็นไปไม่ได้ เลยที่คุณจะไม่รู้ ว่าอาการผู้ป่วยโคม่าแล้ว สิ้นหวังกับประเทศก็มากพอแล้ว อย่าให้มาสิ้นหวังกับโรงพยาบาลที่เป็นแหล่งบริบาลคนอีกเลย
เพราะความเชื่อมั่นในร.พ.สุดท้ายยายก็เสียชีวิต