อวตาร 2 ไม่ใช่บทมันแย่แต่เพราะเจมส์ คาเมรอน แกตั้งใจให้ออกมาแบบนี้

ดูหนังป๋าเจมส์มาหลายเรื่อง เรื่องบทนี่แกไม่เป็นสองรองใคร อย่างไททานิกนี่หนังทำรายได้ขนาดนั้นเพราะบทมันส่งมาก คิดดูว่าจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมระดับโลกแต่แกสามารถเปลี่ยนให้เป็นหนังรักซึ้งกินใจได้ขนาดนั้น หรือ อย่างอวตาร จะว่าไปพล็อตเรื่องมันก็ธรรมดาไม่มีอะไรใหม่ แต่ด้วยบทที่สั้นกระชับและดึงอารมณ์คนดูให้เข้าไปในหนังได้แทบทุกฉาก เอาแค่ 2 เรื่องนี้ก็บอกได้แล้วว่าเรื่องบทแกไม่เป็นรองใคร  แต่ทำไมในอวตาร 2 บทมันถึงได้ยืดยาดขนาดนี้ละ แถมเนื้อหาบางช่วงก็ดูไม่สมเหตุสมผล  พอมาทวนอีกที มันก็มีเรื่องใหญ่ๆที่แกพยายามบอกเราอยู่ในหนังเหมือนกันนะ  จริงๆถ้าเราดูอวตารทั้ง 2 ภาค บางคนอาจเกลียดมนุษย์ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ตัวเองอยู่โดยไม่รู้ตัวก็ได้ เพราะมนุษย์ที่ไปแพนโดรา มันก็คือเราที่กำลังทำลายโลกอยู่ในตอนนี้ เจมส์อาจไม่ได้แค่นำเสนอหนังในภาคนี้ แต่เขากำลังนำเสนอสารคดีเกี่ยวกับแพนโดรา ดาวที่ผู้อยู่อาศัยอยู่ร่วมกับธรรมชาติแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ธรรมชาติสวยงามราวกับสวรรค์ ต่างกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่พร้อมทำลายธรรมชาติทุกอย่างที่ขวางหน้าเพียงเพื่อสนองต่อกิเลสของตัวเอง มนุษย์ได้ลืมความเชื่อมโยงระหว่างตัวเองกับธรรมชาติไปสิ้น เห็นธรรมชาติเป็นเพียงสิ่งที่อยู่ใต้อุ้งเท้าของตัวเอง  โลกที่ไม่มีมนุษย์นั้นสวยงามไม่แพ้แพนโดรา ช่วงล็อคดาวน์โควิดที่มนุษย์หยุดกิจกรรม ทะเลได้กลับไปสวยงามเหมือนในอดีต แต่พอคลายล็อคดาวน์ ทะเลก็กลับไปสกปรกเหมือนเดิมเพียงชั่วข้ามวัน  สรุป ถ้าคุณดูอวตาร 2 เพียงแค่หนังเรื่องหนึ่ง คุณก็อาจได้ความบันเทิงที่น้อยกว่าภาคที่แล้ว หรือบางคนอาจผิดหวังไปเลย แต่ถ้าคุณดูอวตาร 2 ในฐานะสารจากเจมส์ คาเมรอน คุณก็จะได้อะไรมากกว่าแค่การดูหนังเรื่องหนึ่งอย่างแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่