JJNY : ส.สื่อตามความคืบหน้า|กมธ.ทหาร จ่อเรียก ‘ตู่-ผบ.ทร.’|‘ตรีชฎา’แนะ‘วรงค์’ ศึกษาคำพิพากษา|ธ.โลกปรับลดคาดการณ์ศก.จีน

สมาคมสื่อตามความคืบหน้า กรณีสื่อเจ็บจาก คฝ.ในม็อบเอเปค โฆษก ตร.แจงจวนได้ข้อสรุป
https://prachatai.com/journal/2022/12/101952
  
สมาคมสื่อยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.ติดตามความคืบหน้ากรณีสื่อได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงานของตำรวจควบคุมฝูงชนในชุมนุม "ราษฎรหยุด  APEC2022" พร้อมสะท้อนประชุมกับตำรวจหาแนวทางป้องกันหลายครั้งแล้วแต่ยังเกิดเหตุซ้ำ โฆษก สตช.แจงตั้งคณะทำงานแล้วและใกล้จะสรุปผลเพื่อชี้แจงได้ในเร็ววัน
 
21 ธ.ค.2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ตัวแทนจากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยเข้ายื่นหนังสือเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีสื่อมวลชนบาดเจ็บขณะเกิดการปะทะในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2565 บริเวณการชุมนุมราษฎรหยุดAPEC2022
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ธีรนัย จารุวัสตร์ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ เป็นตัวแทนในการมอบหนังสือ โดยทาง สตช.ให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร.เป็นผู้รับหนังสือแทน ผบ.ตร. และกล่าวว่าหนังสือที่ยื่นมานี้จะถูกส่งต่อให้คณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่ ตร.ตั้งไว้ก่อนแล้วและทางคณะจะทำความเห็นเพื่อสรุปข้อเท็จจริงให้ได้โดยเร็วเพื่อชี้แจงกับผู้ที่ยื่นหนังสือมาและประชาชนด้วย
 
ธีรนัยกล่าวถึงการมายื่นหนังสือครั้งนี้ว่าเพื่อเป็นการหาแนวทางให้ทางสื่อมวลชนสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนได้ จึงมาเพื่อหวังว่าจะได้หาวิธีที่จะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติไม่มีต้องมีใครบาดเจ็บกัน จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพื่อให้ได้รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดในส่วนใด และถ้าสามารถหาข้อสรุปได้ก็จะเป็นเรื่องดีกับทั้งสององค์กรด้วย นอกจากนั้นที่ผ่านมาทางสมาคมเคยเข้าพูดคุยกับทางตำรวจแล้วแต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์ชุมนุมจริงยังคงเจอปัญหาแบบเดิม
  
พล.ต.ต.อาชยนชี้แจงว่าทาง ผบ.ตร.ยังมีการตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาแนวทางบริหารจัดการในสถานการณ์ชุมนุมระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุมด้วยเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกลาง โดยจะมีการเชิญตัวแทนของสื่อมาร่วมวางแนวทางด้วย ซึ่งต้องดูว่าที่เคยมีการวางแนวทางเอาไว้ยังมีจุดใดที่เป็นช่องโหว่ที่ทำให้เกิดปัญหา
  
ส่วนเรื่องของความคืบหน้าเป็นไปได้เยอะแล้ว ก็คงใกล้จะมีการสรุปในผลการปฏิบัติเพราะว่าในเรื่องของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีหลายขั้นตอนหลายช่วงอยู่ ตรงจุดนี้ก็ต้องทำความจริงให้ครบถ้วนไปเลยแล้วก็แจ้งกลับมา” โฆษก ตร.ตอบคำถามนักข่าวถึงความคืบหน้าระยะเวลาที่จะสรุปข้อเท็จจริง ส่วนการติดตามสอบข้อเท็จจริงจากผู้สื่อข่าวที่ได้รับบาดเจ็บทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้มีการสอบสวนเอาไว้แล้วและหากยังมีผู้ใดที่เห็นว่ายังขาดตกอยู่สามารถประสานมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่  ตร.ได้
  
ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2565 ตามที่มีการรายงานข่าวนอกจากผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกระสุนยางอย่างพายุ บุญโสภณที่สูญเสียตาข้างขวาแล้ว ยังมีผู้สื่อข่าวและช่างภาพที่ได้รับบาดเจ็บอีก 4รายได้แก่

1. ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว The Matter ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กระบองและโล่กระแทกจนล้มลงกับพื้น ขณะกำลังรายงานการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มเดิมเตะซ้ำ ๆ เข้าที่ศีรษะ และมีการใช้วาจาที่ไม่เหมาะสมจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
 
2. ช่างภาพจากสำนักข่าว Top News ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้โล่และกระบองฟาด ขณะกำลังเก็บภาพจังหวะกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุม โดยที่ช่างภาพคนดังกล่าวกำลังยืนอยู่บนฟุตบาท ส่งผลให้ฟกช้ำเล็กน้อย และแว่นสายตาเสียหาย
 
3. ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวประชาไท ถูกเจ้าหน้าที่ใช้โล่ทิ่มเข้าใส่ ขณะรายงานสถานการณ์การปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ และผู้ชุมนุม โดยที่ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวยืนอยู่บนฟุตบาทเช่นกัน ส่งผลให้ผู้สื่อข่าวบาดเจ็บที่มือ
 
4. ช่างภาพจากสำนักข่าว Reuters ถูกเศษแก้วจากขวดแก้วกระเด็นเข้าที่ใบหน้าขณะกำลังบันทึกภาพหน้าแนวตำรวจใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนได้รับบาดเจ็บบริเวณ ตา ซึ่งวัตถุดังกล่าวลอยมาจากทิศทางของกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจชัดเจน ซึ่งบาดแผลโดนบริเวณตาขาวยาว 6 มิลลิเมตร และห่างจากตาดำเพียงแค่ 1 มิลลิเมตรเท่านั้น
 

 
กมธ.ทหาร จ่อเรียก ‘บิ๊กตู่-ผบ.ทร.’ แจงปมเรือหลวงสุโขทัย ล่ม สัปดาห์หน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_3736753
 
“ประเสริฐ” เผย กมธ.การทหาร จ่อเรียก “บิ๊กตู่- ผบ.ทร.” เข้าแจงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ทั้งที่เพิ่งได้รับการบำรุงรักษา-อุปกรณ์ช่วยชีวิตไม่เพียงพอ
 
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่เรือหลวงสุโขทัยอับปางตั้งแต่คืนวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา จนทำให้มีลูกเรือเสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก ว่า ขอให้กำลังใจแก่ครอบครัวของลูกเรือและทีมค้นหาเพื่อให้ทุกคนนั้นปลอดภัยและขอตั้งคำถามว่า การบริหารจัดการภายในกองทัพภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการใช้งบประมาณในการบำรุงรักษาเรือหลวงสุโขทัยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างไร เพราะทราบมาว่า กองทัพเรือได้รับงบประมาณเพื่อบำรุงรักษาเรือมาโดยตลอด แต่เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
  
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า การบริหารจัดการภายในเรือ โดยปกติแล้วเสื้อชูชีพและอุปกรณ์ช่วยชีวิต จะต้องจัดเตรียมให้เพียงพอก่อนออกเรือทุกครั้ง แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเสื้อชูชีพมีไม่เพียงพอ และยังไม่มีการเตรียมการที่ดีพอในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย เพราะเหตุใดจึงไม่มีการตรวจสภาพภูมิอากาศก่อนออกเรือ ทั้งที่เรือลำนี้มีสมรรถนะสูง ซึ่งมีการติดตั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ในการรบ ดังนั้น ระบบการตรวจสอบความพร้อมด้านสภาพอากาศก่อนออกเรือจึงต้องมีเครื่องมือที่ทันสมัยเหมือนกับยุทโธปกรณ์ในเรือ หากพบว่าสภาพอากาศเลวร้ายอาจเป็นอันตราย เหตุใดจึงยังฝืนออกเรือ และเมื่อเรือเอียง เรือหลวงระดับนี้ต้องมีระบบขับน้ำออกจากเรือ แต่เหตุใดเมื่อเรือเอียงแล้วค่อยๆจมลงไปโดยง่าย จนเกิดความเสียหายในชีวิตของลูกเรือขึ้น
 
นายประเสริฐ กล่าวด้วยว่า การรับมือกับสภาวะวิกฤตของกองทัพเรือ เมื่อเรือเริ่มจม และพบว่ามีลูกเรือลอยคอกลางทะเล บางคนมีเสื้อชูชีพ บางคนไม่มี เหตุใดจึงไม่เตรียมเสื้อชูชีพและอุปกรณ์ช่วยชีวิตให้เพียงพอ แต่กลับรอเรือขนาดใหญ่มาช่วยเหลือ ซึ่งต้องใช้เวลานาน ทำให้การช่วยเหลือเป็นอย่างไม่ทันท่วงทีรวมทั้งการสื่อสารของกองทัพเรือที่ไม่สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้พ่อ แม่ หรือญาติพี่น้องของลูกเรือได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างทันท่วงที
 
ในฐานะที่ปรึกษากมธ.การทหารได้นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของกมธ.แล้ว จึงเตรียมเรียกพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เข้ามาชี้แจงต่อกมธ.ภายในสัปดาห์หน้า” นายประเสริฐ กล่าว
 

  
‘ตรีชฎา’ แนะ ‘วรงค์’ ศึกษาคำพิพากษา ยับยั้งชั่งใจใส่ร้ายอดีตนายกฯเรื่องจำนำข้าวบ้าง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3736732
  
‘ตรีชฎา’ เตือน ‘หมอวรงค์’ อย่าหมิ่นประมาท 2 อดีนายกฯ ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ โกงจำนำข้าวไม่เลิก ฉะเอาเวลาไปอ่านคำพิพากษาศาล ทำประโยชน์ให้ ปชช.
 
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยกคำร้องสำนวนคดีทุจริตจำนำข้าวแบบจีทูจี ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใจความว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คิด เพื่อไทยทำ แน่นอนว่า สโลแกนดังกล่าวต้องถูกเชื่อมโยงไปถึงแผนระบายข้าว ที่สำคัญที่สุดการที่ ป.ป.ช.ตีตกตระกูลชินวัตรไม่ได้หมายความว่าคนพวกนี้ไม่ได้โกงจำนำข้าวนั้นว่า นพ.วรงค์คงอยากจะให้คำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.เป็นลบต่อตระกูลชินวัตรให้ได้ใช่หรือไม่ จึงเอาแต่ตั้งข้อกังขาว่า คนกลุ่มนี้ยังโกง ซึ่งไม่รู้ว่าหมายถึงใคร แต่ด้วยบริบทที่ นพ.วรงค์โพสต์ข้อความดังกล่าวนั้น ทำให้วิญญูชนและสังคมเข้าใจผิดไปว่าหมายถึงนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งหากหมายถึงบุคคลทั้งสามข้างต้นแล้ว ถือว่าครบองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาท ใส่ร้ายความเท็จให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย เป็นความผิดทางอาญาด้วย
 
น.ส.ตรีชฎากล่าวต่อว่า หาก นพ.วรงค์ศึกษาคำวินิจฉัยของศาลจะพบว่าศาลยังไม่เคยพิพากษาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีความผิดฐานโกงจำนำข้าวอย่างที่ นพ.วรงค์กล่าวหา ดังนั้น พรรค พท.ไม่จำเป็นต้องร้องขอความเป็นธรรมจาก นพ.วรงค์ แต่ นพ.วรงค์เองควรยับยั้งชั่งใจในการใส่ร้าย น.ส.ยิ่งลักษณ์เสียบ้าง แล้วเอาเวลาไปศึกษาคำพิพากษาของศาลให้ถี่ถ้วน

หยุดวาทกรรมเดิมๆ และควรใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ ด้วยการไปลงพื้นที่ศึกษาปัญหาพี่น้องประชาชน หรือคิดค้นนโยบายเพื่อต่อสู้ในสนามเลือกตั้งครั้งหน้าจะดีกว่า” น.ส.ตรีชฎาระบุ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่