ดอยผาหมี ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงราย มีทิวทัศน์ที่สวยงามของทิวเขาตามธรรมชาติ ตัดกับเมฆหมอกฤดูหนาวที่สวยงามตระการตา
ประชาชนผู้อยู่อาศัยที่นี่ เป็นพี่น้องชาติพันธุ์เผ่าอู่โล้อาข่า ซึ่งอพยพมาจากประเทศเมียนมา และต่อมามีชาวอาข่าผาหมีจากดินแดนสิบสองปันนา ในมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน และเนื่องด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบในเมียนมา และสถานการณ์การค้ายาเสพติดในเวลานั้น ทำให้พื้นที่นี้ถูกจัดเป็นพื้นที่สีแดงที่เต็มไปด้วยภัยสงคราม และประชาชนอาเลี้ยงชีพด้วยการปลูกฝิ่น
กระทั่งปี 2513 ชีวิตที่มืดมนก็เปลี่ยนไป เมื่อในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรได้เสด็จพระราชดำเนินมายังหมู่บ้านผาหมี ซึ่งในครั้งนั้นพระองค์ทรงรับสั่งถามชาวบ้านถึงสาเหตุที่ปลูกฝิ่น ซึ่งชาวบ้านกราบทูลว่า ที่พวกเขาต้องปลูกฝิ่นนั้น มิใช่เพื่อหวังร่ำรวย หากแต่ปลูกเพราะไม่รู้ว่าจะปลูกอะไร
พระบรมชนกาธิเบศร ฯ พระราชทานความช่วยเหลือด้วยการนำพืชพันธุ์กว่าร้อยชนิดมาทดลองเพาะปลูก โดยทรงตรัสว่า มีทั้งที่อาจจะเหมาะสมและไม่เหมาะสมกับพื้นที่ แต่ให้ทดลองนำมาปลูกทั้งหมดก่อน หากพันธุ์ใดเหมาะสมก็ปลูก อันไหนไม่ดีก็ทิ้งไป ปรากฏว่าเป็นจริงตามนั้น เพราะมีหลายชนิดที่นำมาปลูกแล้วได้ผลดีจริง เช่น กาแฟ ฯลฯ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาไม่เคยรู้จักกาแฟมาก่อน
ไม่เพียงเท่านั้น พระบรมชนกาธิเบศร ฯ ยังทรงพระราชทานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม ตัดถนนหนทางเข้ามาสู่หมู่บ้าน นำพาความเจริญสู่พื้นที่ป่าเขาอันแร้นแค้นห่างไกล จนทำให้ชาวบ้านชาติพันธุ์เลิกปลูกฝิ่นใน 3 ปี เนื่องด้วยพืชพันธุ์ที่ทรงพระราชทานนั้น เพียงพอต่อการประกอบสัมมาชีพแล้ว
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังปฏิบัติตามพระราชกระแสของพระบรมชนกาธิเบศร ฯ ที่ทรงขอให้ช่วยกันดูแลแหล่งต้นน้ำ และช่วยกันปลูกป่า จนภูเขาหัวโล้นสีแดง กลายเป็นพื้นที่เขียวชอุ่ม เต็มไปด้วยพฤกษานานาพันธุ์ เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่งดงามตระการตา นำมาซึ่งการสร้างงาน สร้างรายได้แก่ประชาชน
ตลอดเวลา 52 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านดอยผาหมีมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาตามลำดับ สภาพสังคมชุมชนบ้านผาหมีเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่ผู้คนมุ่งเน้นทำการเกษตร แต่คนผาหมีรุ่นใหม่จะเน้นไปทางงานบริการการท่องเที่ยว เช่น ร้านกาแฟ รีสอร์ต โฮมสเตย์ ฯลฯ นำรายได้สู่ท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีแนวคิดที่จะ “สานต่อที่พ่อทำ” ส่งเสริมต่อยอดความเจริญของชาวเชียงรายที่เคยได้รับพระราชทานจากพระบรมชนกาธิเบศร ฯ ให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ไม่ว่าจะนโยบายการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก และการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน 12 นโยบายของรัฐบาล ส่งเสริมการสร้างธุรกิจชุมชนให้เข้มแข็ง และเติบโตได้อย่างยังยืน และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดเชียงราย ที่มุ่งพัฒนาความเป็นเมืองการค้าชายแดนแบบหลายศูนย์กลาง พัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมและการพาณิชย์
นอกจากนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม และลอจิสติกส์ โดยรัฐบาลมีการอนุมัติอนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย–เชียงราย–เชียงของ ประกอบด้วย สถานี 26 สถานี ลานขนถ่ายสินค้า 4 แห่ง ลานกองเก็บตู้สินค้า 1 แห่ง ก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ 4 อุโมงค์ ก่อสร้างถนนยกข้ามทางรถไฟ 40 แห่ง และถนนลอดใต้ทางรถไฟ 102 แห่ง โครงการเริ่มเริ่มต้นจาก จ.แพร่, จ.ลำปาง, จ.พะเยา, จ.เชียงราย จนถึงเชียงของ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
และเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขัน และสร้างโอกาสในการเติบโตของชาวชุมชนฐานราก นายกรัฐมนตรีส่งเสริมภาคการเงินการธนาคารยุคดิจิทัล สร้างระบบการเงินระดับจุลภาค (Micro Finance) เพื่อเปิดโอกาสให้คนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ผ่านแกนที่ 3 ของ3 แกนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ อีกทั้งยังส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในภาคเกษตรกรรมและการตลาดอย่างครบวงจร เพื่อนำพาประเทศไทยให้เข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลแห่งอนาคตอีกด้วย
รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มุ่งมั่นที่จะสานต่อที่พ่อทำ ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชน ผ่านนโยบายการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก, นโยบายการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค และ 3 แกนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ และความผาสุกสมดุลระหว่าง ธรรมชาติ-สังคม-เศรษฐกิจ อย่างยั่งยืน
#เชียงราย #สานต่อที่พ่อทำ #เขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย
#12นโยบายพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา #3แกนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ
#สร้างไทยไปด้วยกัน #ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
#PMOC #ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี
อ้างอิง
- สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, “รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล: รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ฯ”,
https://www.soc.go.th/?page_id=10338
- สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, “ขออนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย”,
https://resolution.soc.go.th/?prep_id=329222
@@@ พัฒนาดอยผาหมี แหล่งท่องเที่ยวใหม่ จ.เชียงราย @@@
ประชาชนผู้อยู่อาศัยที่นี่ เป็นพี่น้องชาติพันธุ์เผ่าอู่โล้อาข่า ซึ่งอพยพมาจากประเทศเมียนมา และต่อมามีชาวอาข่าผาหมีจากดินแดนสิบสองปันนา ในมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน และเนื่องด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบในเมียนมา และสถานการณ์การค้ายาเสพติดในเวลานั้น ทำให้พื้นที่นี้ถูกจัดเป็นพื้นที่สีแดงที่เต็มไปด้วยภัยสงคราม และประชาชนอาเลี้ยงชีพด้วยการปลูกฝิ่น
กระทั่งปี 2513 ชีวิตที่มืดมนก็เปลี่ยนไป เมื่อในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรได้เสด็จพระราชดำเนินมายังหมู่บ้านผาหมี ซึ่งในครั้งนั้นพระองค์ทรงรับสั่งถามชาวบ้านถึงสาเหตุที่ปลูกฝิ่น ซึ่งชาวบ้านกราบทูลว่า ที่พวกเขาต้องปลูกฝิ่นนั้น มิใช่เพื่อหวังร่ำรวย หากแต่ปลูกเพราะไม่รู้ว่าจะปลูกอะไร
พระบรมชนกาธิเบศร ฯ พระราชทานความช่วยเหลือด้วยการนำพืชพันธุ์กว่าร้อยชนิดมาทดลองเพาะปลูก โดยทรงตรัสว่า มีทั้งที่อาจจะเหมาะสมและไม่เหมาะสมกับพื้นที่ แต่ให้ทดลองนำมาปลูกทั้งหมดก่อน หากพันธุ์ใดเหมาะสมก็ปลูก อันไหนไม่ดีก็ทิ้งไป ปรากฏว่าเป็นจริงตามนั้น เพราะมีหลายชนิดที่นำมาปลูกแล้วได้ผลดีจริง เช่น กาแฟ ฯลฯ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาไม่เคยรู้จักกาแฟมาก่อน
ไม่เพียงเท่านั้น พระบรมชนกาธิเบศร ฯ ยังทรงพระราชทานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม ตัดถนนหนทางเข้ามาสู่หมู่บ้าน นำพาความเจริญสู่พื้นที่ป่าเขาอันแร้นแค้นห่างไกล จนทำให้ชาวบ้านชาติพันธุ์เลิกปลูกฝิ่นใน 3 ปี เนื่องด้วยพืชพันธุ์ที่ทรงพระราชทานนั้น เพียงพอต่อการประกอบสัมมาชีพแล้ว
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังปฏิบัติตามพระราชกระแสของพระบรมชนกาธิเบศร ฯ ที่ทรงขอให้ช่วยกันดูแลแหล่งต้นน้ำ และช่วยกันปลูกป่า จนภูเขาหัวโล้นสีแดง กลายเป็นพื้นที่เขียวชอุ่ม เต็มไปด้วยพฤกษานานาพันธุ์ เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่งดงามตระการตา นำมาซึ่งการสร้างงาน สร้างรายได้แก่ประชาชน
ตลอดเวลา 52 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านดอยผาหมีมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาตามลำดับ สภาพสังคมชุมชนบ้านผาหมีเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่ผู้คนมุ่งเน้นทำการเกษตร แต่คนผาหมีรุ่นใหม่จะเน้นไปทางงานบริการการท่องเที่ยว เช่น ร้านกาแฟ รีสอร์ต โฮมสเตย์ ฯลฯ นำรายได้สู่ท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีแนวคิดที่จะ “สานต่อที่พ่อทำ” ส่งเสริมต่อยอดความเจริญของชาวเชียงรายที่เคยได้รับพระราชทานจากพระบรมชนกาธิเบศร ฯ ให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ไม่ว่าจะนโยบายการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก และการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน 12 นโยบายของรัฐบาล ส่งเสริมการสร้างธุรกิจชุมชนให้เข้มแข็ง และเติบโตได้อย่างยังยืน และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดเชียงราย ที่มุ่งพัฒนาความเป็นเมืองการค้าชายแดนแบบหลายศูนย์กลาง พัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมและการพาณิชย์
นอกจากนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม และลอจิสติกส์ โดยรัฐบาลมีการอนุมัติอนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย–เชียงราย–เชียงของ ประกอบด้วย สถานี 26 สถานี ลานขนถ่ายสินค้า 4 แห่ง ลานกองเก็บตู้สินค้า 1 แห่ง ก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ 4 อุโมงค์ ก่อสร้างถนนยกข้ามทางรถไฟ 40 แห่ง และถนนลอดใต้ทางรถไฟ 102 แห่ง โครงการเริ่มเริ่มต้นจาก จ.แพร่, จ.ลำปาง, จ.พะเยา, จ.เชียงราย จนถึงเชียงของ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
และเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขัน และสร้างโอกาสในการเติบโตของชาวชุมชนฐานราก นายกรัฐมนตรีส่งเสริมภาคการเงินการธนาคารยุคดิจิทัล สร้างระบบการเงินระดับจุลภาค (Micro Finance) เพื่อเปิดโอกาสให้คนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ผ่านแกนที่ 3 ของ3 แกนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ อีกทั้งยังส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในภาคเกษตรกรรมและการตลาดอย่างครบวงจร เพื่อนำพาประเทศไทยให้เข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลแห่งอนาคตอีกด้วย
รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มุ่งมั่นที่จะสานต่อที่พ่อทำ ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชน ผ่านนโยบายการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก, นโยบายการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค และ 3 แกนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ และความผาสุกสมดุลระหว่าง ธรรมชาติ-สังคม-เศรษฐกิจ อย่างยั่งยืน
#เชียงราย #สานต่อที่พ่อทำ #เขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย
#12นโยบายพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา #3แกนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ
#สร้างไทยไปด้วยกัน #ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
#PMOC #ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี
อ้างอิง
- สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, “รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล: รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ฯ”, https://www.soc.go.th/?page_id=10338
- สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, “ขออนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย”, https://resolution.soc.go.th/?prep_id=329222