ฉัน, กะวี

กระทู้สนทนา
(๑)

ฉันเฝ้าเพียรเขียนบทกวี
จากความว่างเปล่า, ความไม่มี
ไร้รากฐาน

แปรความเศร้าสร้อย, ร้อยร้าวทรมาน
จากกมลสันดาน
ที่รันทด

บอกเล่ารอยยิ้มของดอกไม้
ความงาม-ความหมาย,
อันได้สดับ

เขียนสนองตัณหา นา-นา นัป
ที่เกิดกล่น - ย่อยยับ
กับหัวใจ

เพื่อระบายความโลภ, ความโกรธ - หลง
อีกจองหอง, หยิ่งทะนง
ความสงสัย

ตีแผ่ ใจตัว, ใช่ใจใคร
บ้างดี - บ้างร้าย,
ตามอารมณ์

เขียนถึงความหวังอันเรืองโรจน์
แล, มหาวิปโยค
โศก - สันต์

กระเทาะเปลือก - กระพี้, แห่งชีวัน
ปลด เปลื้อง เปลือย ความฝัน
อันงดงาม

ถักถ้อยร้อยรสถึง อุดมคติ
การเกิดดับ - แตกผลิ
อีกตรรกะ

การณ์, กำเนิดเกิดใหม่ - ตราบหายนะ
ที่หมุนเวียนเปลื่ยนวาระ
ฤดูกาล

(๒)

ฉันรู้สึก, ฉันจึงเขียน ซื่อ - ซื่อ
ออกจากใจ ทื่อ -  ทื่อ,
สื่อความหมาย

ไร้สัมผัสระหว่างบท, อันแยบคาย
เป็นแค่กลอนเปล่าดาย
ในท่าที

(๓)

จึ่งเป่นได้ ก็แค่เพียง "บทกะวี"
กระเซอะกระเซิงบนวิถี
สวนอักษร

จะกวีหรือไม่, ไม่อาทร
เป็น "กะวี" แอบซ่อน
ซ้อนกวี

บันทึกหน้าที่ ๓๖ วันจันทร์  ปี ที่คนใส่หน้ากากเข้าหากัน อย่างบ้าคลั่งเพราะโคโรน่า
ทำนอง : กาวีในหงสา                 รูปแบบ : กลอนหน้าต่าง

ปล.

เป็นกะวี พลีตน ของคนโง๋
ด้วยคับแคบอักโข
ก้นเถื่อนถ้ำ

อยากลุกขึ้นเริงร่าย, ส่ายระบำ
เคาะกระโหลก กะลาคว่ำ
ทำดนตรี

ดีด สี ตีหินไฟ อันคร่ำครึ
ร้องลำนำ, สระอึ
พอขบขัน
 
เปล่งสำเนียงจากก้นบึ้ง ดึกดำบรรพ์
ด้วย ใส-ใส, ซื่อ-ซื่อ นั้น
ฉัน, กะวี



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


พาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่