สวัสดีครับ
มีเรื่องอยากถามเพื่อนๆสมาชิกและฝากไปให้ผู้ทำระบบของธนาคาร UXX พิจารณาหน่อยนะครับ
ว่าทำแบบนี้กับผู้บริโภคนี่มันโอเคจริงๆเหรอ
เรื่องมีอยู่ว่า ผมถือบัตรเครดิตของธนาคาร UXX อยู่ 2 ใบ
โดยปกติในแต่ละเดือนเวลามียอดเรียกเก็บก็จะ Scan จ่ายผ่านใบแจ้งหนี้ธรรมดา
ทีนี้ในเดือน พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ผมหาใบแจ้งหนี้ไม่เจอก็เลยจ่ายเงินผ่านแอพธนาคาร
โดยมียอดเรียกเก็บบัตรใบที่ 1 = 1,278 บาท ผมก็ระบุเลขที่บัตรเครดิต แล้วก็จ่ายปิดยอดไป 1,278 บาท
ส่วนยอดใบที่ 2 มียอดเรียกเก็บ = 2,030 บาท ก็ระบุเลขบัตรเครดิตแล้วก็จ่ายปิดยอดไปตามจำนวนเงินที่ค้าง
จากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะถือว่าเราจ่ายครบหมดแล้ว
แล้วก็รูดซื้อสินค้าตามปกติของเราต่อไป
แต่ใน ธ.ค. เดือนนี้ เข้าไปเชคยอดเพื่อที่จะชำระเงินค่าใช้จ่ายที่รูดใช้ไปในเดือน พ.ย.
พบว่ายอดบัตรเครดิตใบที่ 1 ดันมีการจ่ายเงินเข้าไป 1,278x2 ครั้ง รวมยอดเป็นเงิน 2556 บาท (เท่ากับว่าจ่ายเกินไป 1,278)
ส่วนบัตรใบที่ 2 มีการจ่ายเงินไปแค่ 752 บาท (ทั้งที่จ่ายจริง 2,030 บาท) ทำให้ผมเป็นหนี้ค้างบัตรใบที่ 2 = 1,278 บาท
ที่สำคัญดันมาเรียกเก็บค่าปรับเพราะมียอดค้างชำระในบัตรเป็นจำนวนเงิน 40.12 บาท เฉยเลย
ผมเลยโทรฯไปถามเจ้าหน้าที่ธนาคาร UXX ได้รับคำตอบว่า
ถ้าลูกค้าจ่ายบิลผ่านธนาคารมา 2 ยอด ธนาคารจะรวมยอดทั้งหมดแล้วเกลี่ยจ่ายบัตรแต่ละใบเอง
เฮ้ยยยย อย่างนี้ก็ได้เหรอ
ทั้งๆที่ลูกค้าระบุหมายเลขบัรเครดิตชัดเจนตอนจ่ายเงิน
แต่ธนาคารดันเอายอดไปรวมแล้วเกลี่ยหนี้เองเฉย
แล้วการเกลี่ยเงินก็ดันไปเกลี่ยให้อีกใบมียอดชำระเกิน ส่วนอีกใบมียอดค้างชำระ
กลายเป็นว่าใบที่เกินมา เราก็ต้องโดนบังคับให้รูดใช้ในเดือนต่อไปเพื่อให้เงินเงินที่จ่ายเกินของเรา ไม่ไปคาอยู่ในบัตร
ส่วนใบที่ค้างยอดชำระ (ทั้งๆที่กรูจ่ายครบไม่ได้ค้าง) ต้องมาโดนเรียกเก็บค่าปรับซะงั้น
นี่มันระบบอะไรของคุณเนี่ย
ยุติธรรมกับลูกค้าแล้วเหรอครับ
ผมมาบ่นให้ฟังเฉยๆ ถือซะว่าเล่าเรื่องระบบแปลกๆของธนาคารระดับ Oversea
เพราะโทรไปบ่นกับ Operator ก็คิดว่าเขาคงทำอะไรให้ไม่ได้
ถือว่าเตือนให้ผู้ใช้บัตรเครดิตธนาคารนี้ได้รู้ตัวและระวังการโดนเรียกเก็บแบบนี้ด้วยล่ะกัน
ส่วนผม จะยกเลิกบัตรของธนาคารนี้ทั้งหมดล่ะ เพราะถือว่าไม่แฟร์กับผู้บริโภคเลย
Bye Bye วันพรุ่งนี้
บัตรเครดิตวันพรุ่งนี้ ทำแบบนี้ถูกต้องแล้วหรือครับ
มีเรื่องอยากถามเพื่อนๆสมาชิกและฝากไปให้ผู้ทำระบบของธนาคาร UXX พิจารณาหน่อยนะครับ
ว่าทำแบบนี้กับผู้บริโภคนี่มันโอเคจริงๆเหรอ
เรื่องมีอยู่ว่า ผมถือบัตรเครดิตของธนาคาร UXX อยู่ 2 ใบ
โดยปกติในแต่ละเดือนเวลามียอดเรียกเก็บก็จะ Scan จ่ายผ่านใบแจ้งหนี้ธรรมดา
ทีนี้ในเดือน พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ผมหาใบแจ้งหนี้ไม่เจอก็เลยจ่ายเงินผ่านแอพธนาคาร
โดยมียอดเรียกเก็บบัตรใบที่ 1 = 1,278 บาท ผมก็ระบุเลขที่บัตรเครดิต แล้วก็จ่ายปิดยอดไป 1,278 บาท
ส่วนยอดใบที่ 2 มียอดเรียกเก็บ = 2,030 บาท ก็ระบุเลขบัตรเครดิตแล้วก็จ่ายปิดยอดไปตามจำนวนเงินที่ค้าง
จากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะถือว่าเราจ่ายครบหมดแล้ว
แล้วก็รูดซื้อสินค้าตามปกติของเราต่อไป
แต่ใน ธ.ค. เดือนนี้ เข้าไปเชคยอดเพื่อที่จะชำระเงินค่าใช้จ่ายที่รูดใช้ไปในเดือน พ.ย.
พบว่ายอดบัตรเครดิตใบที่ 1 ดันมีการจ่ายเงินเข้าไป 1,278x2 ครั้ง รวมยอดเป็นเงิน 2556 บาท (เท่ากับว่าจ่ายเกินไป 1,278)
ส่วนบัตรใบที่ 2 มีการจ่ายเงินไปแค่ 752 บาท (ทั้งที่จ่ายจริง 2,030 บาท) ทำให้ผมเป็นหนี้ค้างบัตรใบที่ 2 = 1,278 บาท
ที่สำคัญดันมาเรียกเก็บค่าปรับเพราะมียอดค้างชำระในบัตรเป็นจำนวนเงิน 40.12 บาท เฉยเลย
ผมเลยโทรฯไปถามเจ้าหน้าที่ธนาคาร UXX ได้รับคำตอบว่า
ถ้าลูกค้าจ่ายบิลผ่านธนาคารมา 2 ยอด ธนาคารจะรวมยอดทั้งหมดแล้วเกลี่ยจ่ายบัตรแต่ละใบเอง
เฮ้ยยยย อย่างนี้ก็ได้เหรอ
ทั้งๆที่ลูกค้าระบุหมายเลขบัรเครดิตชัดเจนตอนจ่ายเงิน
แต่ธนาคารดันเอายอดไปรวมแล้วเกลี่ยหนี้เองเฉย
แล้วการเกลี่ยเงินก็ดันไปเกลี่ยให้อีกใบมียอดชำระเกิน ส่วนอีกใบมียอดค้างชำระ
กลายเป็นว่าใบที่เกินมา เราก็ต้องโดนบังคับให้รูดใช้ในเดือนต่อไปเพื่อให้เงินเงินที่จ่ายเกินของเรา ไม่ไปคาอยู่ในบัตร
ส่วนใบที่ค้างยอดชำระ (ทั้งๆที่กรูจ่ายครบไม่ได้ค้าง) ต้องมาโดนเรียกเก็บค่าปรับซะงั้น
นี่มันระบบอะไรของคุณเนี่ย
ยุติธรรมกับลูกค้าแล้วเหรอครับ
ผมมาบ่นให้ฟังเฉยๆ ถือซะว่าเล่าเรื่องระบบแปลกๆของธนาคารระดับ Oversea
เพราะโทรไปบ่นกับ Operator ก็คิดว่าเขาคงทำอะไรให้ไม่ได้
ถือว่าเตือนให้ผู้ใช้บัตรเครดิตธนาคารนี้ได้รู้ตัวและระวังการโดนเรียกเก็บแบบนี้ด้วยล่ะกัน
ส่วนผม จะยกเลิกบัตรของธนาคารนี้ทั้งหมดล่ะ เพราะถือว่าไม่แฟร์กับผู้บริโภคเลย
Bye Bye วันพรุ่งนี้