ส่วนตัวทำงานมูลนิธิไม่เล็กไม่ใหญ่มาก ตั้งมา10ปี แต่ระบบการทำงานไม่ค่อยชัดเจน ไม่ค่อยเป็นระบบเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับองค์กรอื่นที่อยู่มา10ปีเช่นกันบางองค์กรระบบและรากฐานพัฒนาดีมาก
ตอนนี้ไม่สบายใจกับเงินที่ทางองค์กรโอนเข้า บช.ส่วนตัว สำหรับทำงานและจัดโครงการ เข้า บช.เดือนละ6หลัก ล่าสุดพยายามหาข้อสรุปที่ดี แต่ไม่ได้ ทางองค์กรยืนยันอยากให้เปิดเพื่อความสะดวกของการทำงาน และเหมือนกำลังจะบังคับทุกคนให้เปิด บช.โดยตั้งชื่อไว้สำหรับทำงาน แต่สุดท้ายชื่อ บช.ก็เป็นชื่อเรา คือบัญชีที่เปิดโดยบุคคลไม่ใช่นิติบุคคล หรือองค์กร ทางเขาจะออกหนังสือรับรองภายในว่า บช.นี้สำหรับทำงานไม่เกี่ยวข้องกับอะไรที่เป็นสีเทา ป้องกันการเรียกเก็บภาษีจากสรรพกรภายหลัง หรือถ้ามีอะไรเกิดขึ้นคนในองค์กรจะเป็นพยานเมื่อถูกเรียกสอบ ซึ่งเราก็มองว่ามันไม่ได้การันตีว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆเขาจะช่วยเหลือเราได้ เราว่าไม่โอเคสำหรับเรา ต่อให้เรามีการโอนเงินไม่ถึง400ครั้ง หรือมีเงินใน บช. 2,000,000ตามข้อกำหนดที่ธนาคารจะส่งเรื่องให้สรรพกรตรวจสอบก็ตาม และบช.นี้จะต้องปิดเมื่อเราลาออก เรารู้สึกเหมือนเขากำลังละเมิดสิทธิของเรา ผลักภาระตรงนี้ให้เรา แทนที่เขาจะเป็นคนจัดสรรกับระบบการเงินขององค์กร เราพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดที่ไม่ใช่วิธีนี้ แต่เรายังหาไม่ได้จริงๆว่าจะเอาอะไรมาแหย่งกับเขา เพราะเขาอ้างว่า...
1.ทางองค์กรเปิด บช.ในนามชื่อขององค์กรไป5 บช.แล้วเต็มอัตราที่ธนาคารกำหนดแล้ว
2.การที่ให้การเงินพกเงินสด และจ่ายเงินสดให้กับ จนท. เป็นการเสี่ยงทุจริต
3.วิธีที่เขาเสนอคือทางที่ดีที่สุดแล้ว มันคืองานคือหน้าที่ที่ต้องทำตาม
อยากจะขอรบกวนท่านที่ทำงานองค์กร มูลนิธิ แชร์ระบบการเงินว่าจัดการยังไงกันบ้าง ธนาคารมีวิธีในแนะนำเพื่อเลี่ยงการเปิด บช.เพื่องานนี้ แล้วมีข้อกฎหมายอะไรที่จะสามารถกันเราจากการเปิด บช.ส่วนตัวเพื่องานบ้าง
ขอบพระคุณที่แลกเปลี่ยนและแนะนำวิธีการจัดการล่วงหน้า 🙏🙏🙏
เหมือนว่ากำลังจะโดนบังคับให้เปิดบัญชีส่วนตัวเพื่อองค์กร รบกวนขอคำแนะนำที
ตอนนี้ไม่สบายใจกับเงินที่ทางองค์กรโอนเข้า บช.ส่วนตัว สำหรับทำงานและจัดโครงการ เข้า บช.เดือนละ6หลัก ล่าสุดพยายามหาข้อสรุปที่ดี แต่ไม่ได้ ทางองค์กรยืนยันอยากให้เปิดเพื่อความสะดวกของการทำงาน และเหมือนกำลังจะบังคับทุกคนให้เปิด บช.โดยตั้งชื่อไว้สำหรับทำงาน แต่สุดท้ายชื่อ บช.ก็เป็นชื่อเรา คือบัญชีที่เปิดโดยบุคคลไม่ใช่นิติบุคคล หรือองค์กร ทางเขาจะออกหนังสือรับรองภายในว่า บช.นี้สำหรับทำงานไม่เกี่ยวข้องกับอะไรที่เป็นสีเทา ป้องกันการเรียกเก็บภาษีจากสรรพกรภายหลัง หรือถ้ามีอะไรเกิดขึ้นคนในองค์กรจะเป็นพยานเมื่อถูกเรียกสอบ ซึ่งเราก็มองว่ามันไม่ได้การันตีว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆเขาจะช่วยเหลือเราได้ เราว่าไม่โอเคสำหรับเรา ต่อให้เรามีการโอนเงินไม่ถึง400ครั้ง หรือมีเงินใน บช. 2,000,000ตามข้อกำหนดที่ธนาคารจะส่งเรื่องให้สรรพกรตรวจสอบก็ตาม และบช.นี้จะต้องปิดเมื่อเราลาออก เรารู้สึกเหมือนเขากำลังละเมิดสิทธิของเรา ผลักภาระตรงนี้ให้เรา แทนที่เขาจะเป็นคนจัดสรรกับระบบการเงินขององค์กร เราพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดที่ไม่ใช่วิธีนี้ แต่เรายังหาไม่ได้จริงๆว่าจะเอาอะไรมาแหย่งกับเขา เพราะเขาอ้างว่า...
1.ทางองค์กรเปิด บช.ในนามชื่อขององค์กรไป5 บช.แล้วเต็มอัตราที่ธนาคารกำหนดแล้ว
2.การที่ให้การเงินพกเงินสด และจ่ายเงินสดให้กับ จนท. เป็นการเสี่ยงทุจริต
3.วิธีที่เขาเสนอคือทางที่ดีที่สุดแล้ว มันคืองานคือหน้าที่ที่ต้องทำตาม
อยากจะขอรบกวนท่านที่ทำงานองค์กร มูลนิธิ แชร์ระบบการเงินว่าจัดการยังไงกันบ้าง ธนาคารมีวิธีในแนะนำเพื่อเลี่ยงการเปิด บช.เพื่องานนี้ แล้วมีข้อกฎหมายอะไรที่จะสามารถกันเราจากการเปิด บช.ส่วนตัวเพื่องานบ้าง
ขอบพระคุณที่แลกเปลี่ยนและแนะนำวิธีการจัดการล่วงหน้า 🙏🙏🙏