Review นี้จะค่อนข้างยาวนะครับ เนื้อหาโดยรวมจะมีประมาณนี้
1. ที่มาของปัญหาค่าไฟ
2. Tracking ค่าไฟ กลางวัน/กลางคืน
3. สร้างสมมุติฐาน
4. เลือกระบบ
5. เลือกผู้ให้บริการ
6. การติดตั้ง
7. ใช้งาน app
เริ่มจากที่มาของปัญหาค่าไฟ
เริ่มจากกระแสการขึ้นค่า FT แล้วบอกให้ใช้กันประหยัดๆ ก็พยายามปรับพฤติกรรม ประยัดขึ้นจากเดือน 7 มาเดือน 8 ประหยัดไป 20 หน่วย และลดลงอีก 7 หน่วยในเดือน 9
ผลของการประยัด 20 หน่วยลดลงไปได้ 99.93 บาท
แต่ลดลงอีก 7 หน่วย กลับต้องจ่ายเพิ่ม 602 บาท จึงสรุปเอาเองเลยว่า ทางประหยัดใช้ไม่ได้
ขอพิสูจน์อีกทีว่าการประหยัดมันไม่ดีจริงหรือ
*สาเหตุที่นับจากเดือน 5 ถึงปัจจุบัน(ตามบิลค่าไฟ) เพราะเดือน 5 เป็นเดือนที่ต่อเติมส่วนขยายเสร็จและมีพ่อแม่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วย
ภาพมันชัดขึ้น ที่เราเข้าใจมาตลอดว่าไฟหน่วยละ 4 บาทกว่า ก่อน vat และก่อนอื่นๆ มันไม่ใช่สำหรับผมตั้งแต่เดือน 9 มันคือหน่วยละ 5.5 บาท ลองทำเป็นภาพให้มันดูง่ายหน่อย
จากสมการของกราฟความชันติดลบ คือประมาณว่า เรามีแนวโน้มใช้น้อยลงเดือนละ 12 หน่วย แต่กราฟนี้ความน่าเชื่อถือต่ำนะครับ เนื่องจากชุดข้อมูลมีน้อยเกินไป ใช้อ้างอิงเฉยๆ
แต่ trend มันชัดว่าจริงๆ เราประหยัดแล้ว มาดูแบบที่เป็นตัวเงินกันต่อ
จากสมการ มันแปลผกผัน อันนึง unit ความชันลบ ราคามีความชันเป็นบวก
ความสะเทือนใจมันอยู่ตรงนี้ กราฟ unit เดือน 5 ใช้หนักสุด ส่วนนึงมาจากการก่อสร้างด้วย แต่ราคากลับมา peak เดือน 10 ในขณะที่ unit เดือน 10 ขึ้นมาเป็นหลังเต่านิดเดียว
ย้อนกลับมาดูราคาต่อหน่วยค่าไฟเดือน 9-11 อยู่ที่ประมาณหน่วยละ 5.5 บาท ตรงนี้ตัดสินใจได้แล้วว่า "มันเอาจริง" เราจะเดือดร้อนจริงๆ แต่การจะติด solar cell ขนาดเพียงพอใช้ควรเป็นกี่ kw/h แล้วเราควรลงทุนจริงหรือ จะเอาเงินที่ไหนไปติด เริ่มมีคำถามเยอะขึ้น
เริ่มหาคำตอบโดยสำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าผู้ต้องสงสัยทั้งหมด ได้ผู้ต้องสงสัยดังนี้
กลุ่มเครื่องปรับอากาศ จะคำนวณที่ 12 ชมต่อตัว และคำนวณเฉพาะที่เปิดกลางคืน เพราะไม่ได้เปิดใช้งานกลางวันเลยตั้งแต่ต้องประหยัดไฟ
กลุ่มที่เปิด 24 hrs ไม่คำนวณตู้แช่แข็งเนื่องจากถอดปลั๊กออกเลิกใช้ตั้งแต่เริ่มประหยัดไฟ
กลุ่มอื่นๆ ที่กำลังไฟเยอะ
เครื่องทำน้ำอุ่นประเมินการใช้งานโดยคิด 6 คน อาบน้ำประมาณคนละ 15 นาที กลางวันและกลางคืน
เข้าสู่ส่วนที่ 2 Tracking ค่าไฟ กลางวัน/กลางคืน
ยอมรับว่ามีวินัยน้อยไปที่จะเดินไปจด meter แต่ได้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ กลางคืน 17.83 หน่วย กลางวันอยู่ที่ 10.25 หน่วย และวันละประมาณ 28.08 หน่วย
มาถึงจุดนี้สรุปเลยอย่าติด solar rooftop เพราะใช้ไฟกลางคืนมากกว่ากลางวัน ถ้าจะติดต้องติดที่ 5kw/h พร้อม Battery ซึ่ง batt ยังไม่มีความคุ้มค่าในการลงทุนปัจจุบัน(สำหรับผม)
ส่วนที่ 3 สร้างสมมุติฐาน
แต่เราจะยอมรับค่าไฟเท่านี้ กับการทนอยู่ร้อนๆ กับพัดลมหรือ จึงสร้าง solution จะเปิดแอร์แล้วจะจ่ายค่าไฟน้อยลง กลับมาที่กลุ่มแอร์ทั้งหมด
ห้องนั่งเล่นหลักและห้องนั่งเล่นพ่อแม่ต้องเปิดได้ รวมประมาณ 2.5 kw/h และในวันหยุดห้องนั่งเล่นเด็กด้วย ประมาณ 3.5 kw/h
รวมกับอีก 5.13 units ของตอนกลางวัน เปลี่ยน unit เป็น kw/h โดยหาร 12 เลย จะได้ 0.43 kw/h
ดังนั้นเลยประมาณคร่าวๆ ว่าใช้ 3.5+0.43 นับเป็น 4 kw/h เลือกติดตั้ง Solar cell 5kw/h ด้วยเหตุผลการเสื่อมแบบ linear ของ solar ที่ 25 ปี เหลือ 83% performance
สมมุติฐานคือ คำนวณว่าจะใช้ไฟตอนกลางวันที่ 0 unit และกลางคืนที่ 17.83 หน่วยต่อวัน หรือ 535 หน่วยต่อเดือน ผลคือ
จากที่จ่ายประมาณเดือนละ 5,000 เป้าหมายคือประหยัดลงเดือนละ 2,000 และจะประหยัดมากขึ้นเมื่อขึ้นค่า FT เรื่อยๆ โดยมีไฟใช้เพียงพอสำหรับกลางวัน
ส่วนที่ 4. เลือกระบบ
ระบบ solar cell มี 3 ระบบ รายละเอียดอ่านที่กระทู้อื่นนะครับ มีเยอะมาก ผมก็อ่านของท่านอื่นก่อนทำของตัวเอง ผมสรุปเผื่อคนที่ยังไม่ได้อ่านของท่านอื่นดังนี้นะครับ
1. Off gride ระบบแยกไม่ยุ่งกับการไฟฟ้า
2. On gride ใช้ไฟของการไฟฟ้าเป็นตัวเลี้ยง
3. Hybrid อันนี้ในความเข้าใจผม มันคืออัน 2+Batt
ผมเป็นบ้านในหมู่บ้านตัด choice แรกออกไป เหลือ 2 กับ 3 อยากได้ 3 มาก เพราะรำคาญไฟตก ไฟดับ ไฟกระชาก หรือไฟจะอะไรก็แล้วแต่ แต่สุดท้ายมันดับ หาราคา Batt เทียบ เริ่มจากตัว Top ในใจที่อยากได้ที่สุด Tesla power wall ราคา 599,000 บาท ราคารถคันนึง คิดแล้วทำใจไม่ได้ จะเอารถคันนึงมาเกาะผนัง หาทางเลือกอื่น Batt Huawei ราคา 250,000 เลยจบไปตัดสินใจเลือก 2 แล้วขายไฟส่วนเกินคืนการไฟฟ้าไปดีกว่า ไว้รอ Batt ถูกลงราคาสมเหตุสมผลกว่านี้ค่อยเอามาเติมทีหลัง
***อยากให้เข้าใจเพิ่มเรื่องระบบที่ 2 นี้นะครับ เนื่องจากข้อมูลส่วนใหญ่ที่หาได้ไม่ได้บอกเรื่องนี้ไว้ ตอนกลางวันไฟดับ เราก็ดับนะครับ ที่ผมเขียนไว้ด้านบนว่าต้องใช้ไฟของการไฟฟ้าเป็นตัวเลี้ยง เนื่องจากการไฟฟ้ากำหนดว่าห้ามมีไฟย้อน ถึงแม้ระบบเราจะผลิตไฟได้ มันก็ดับนะครับ ถ้าไม่อยากดับต้องมี Batt ครับ สำหรับผมอนาคตคิดว่าเติมแน่ แต่ตอนนี้ยอม ไม่ไหวกับราคามัน
ส่วนที่ 5. เลือกผู้ให้บริการ
สำคัญสุดคือราคา ลองหา 5kw/h เทียบกันดูราคาอยู่ที่ประมาณ 170,000 ไม่รวม vat หรือประมาณ 182,000 รวม vat
ราคาที่เทียบนี้คือราคาก่อน vat
***ราคานี้เป็นราคาสำรวจตอนเดือน 9 นะครับ ไม่สามารถใช้อ้างอิงปัจจุบันได้นะครับ***
รายที่ 1 เสนอราคา 172,900 คิดเป็น 101.71% ของราคาเฉลี่ย
รายที่ 2 เสนอราคา 152,000 คิดเป็น 89.41% ของราคาเฉลี่ย
รายที่ 3 เสนอราคา 169,990 คิดเป็น 99.99% ของราคาเฉลี่ย
รายที่ 4 เสนอราคา 185,000 คิดเป็น 108.82% ของราคาเฉลี่ย
รายที่ 5 เสนอราคา 165,900 คิดเป็น 97.59% ของราคาเฉลี่ย
จากลำดับราคา รายที่ 1 และ 4 เกินค่าเฉลี่ยไป เข้าสู่ mode ติดต่อจริงจัง
รายที่ 5 คุยกันครั้งสุดท้ายคือถามไฟว่ากี่ phase พอบอก 1 phase หายไปเลยไม่ติดต่ออะไรกลับมา เข้าใจว่าคงอยากทำ 3 phase เลยตัดไป
รายที่ 2 เนื่องจากผมเริ่มคุยตอนปลายเดือน 9 - ต้นเดือน 10 แต่คิดว่าน่าจะหาเงินมาติดระบบได้อย่างเร็วเดือน 12 ไม่สามารถยืนราคาได้ และหากต้องการยื่นขายไฟคืน คิดค่าดำเนินการเพิ่ม 12,000 บาท รวมเป็น 164,000 คิดเป็น 96.47% ของราคาเฉลี่ย แต่ยังถือว่าถูกที่สุดอยู่ แต่พอรวมค่าดำเนินการเพิ่มไปแล้ว ทำให้ราคาเฉลี่ยขยับขึ้นมาเป็น 171,600 ทำให้รายที่ 1 มีราคาเทียบอยู่ที่ 100.75%
รายที่ 3 ไม่สามารถยืนราคาได้ถึงช่วงที่ต้องการติดตั้งเช่นกัน
กลับมาที่รายที่ 1 ราคาถือว่าอยู่ในค่าเฉลี่ย และสามารถยืนราคาได้ สรุปราคารวม vat แล้วที่ 185,000 บาท เป้าหมายเปิดแอร์ฟรีตอนกลางวัน และลดค่าไฟเดือนละ 2,000 บาท จะใช้เวลา 93 เดือน หรือประมาณ 8 ปีคืนทุน ไม่รวมแอร์ฟรีตอนกลางวัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เจ้าที่จบ
เนื่องจากมีแรงจูงใจในการไม่ต้องทนร้อนอีกต่อไปในตอนกลางวัน และแผง solar มีอายุการใช้งาน(รับประกัน) 25 ปี ถ้า 8 ปีคืนทุน หลังจากนั้นก็คือกำไรซิ(เข้าใจแบบนั้น 555) ดำเนินการ refinance บ้านเอาเงินมาติดซะเลย
ส่วนที่ 6. การติดตั้ง
สรุป spec แผงจบที่ 550w mono halfcell จำนวน 10 แผง มาดูหน้าตาแผงกัน
ใหญ่อยู่นะ สูง 228 cm กว้าง 114 cm ความหนาประมาณ 4 cm หนักประมาณ 29 kg ต่อแผ่น
ด้วยความที่ตัวบ้านหันหน้าทิศใต้เกือบใต้เป๊ะๆ และหลังคามีความชันที่ 15 องศา ตามมุมที่เหมาะสมที่สุด เลยตัดสินใจติดฝั่งหน้าบ้านให้ได้มากที่สุด ซึ่งวัดออกมาได้ 7 แผ่น อีก 3 แผ่นติดฝั่งตะวันตก โดยให้ติดชิดฝั่งใดฝั่งนึงไว้ เผื่อเติมแผงในอนาคต
ในการติดตั้งสิ่งที่ควรกังวลที่สุดคือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับหลังคา แต่ก็เป็นสิ่งที่พยายามป้องกันไว้แต่แรกแล้ว โดยการเลือกใช้บริษัทที่มีประสบการณ์ติดตั้งมาแล้วหลายๆ หลัง มีความเสี่ยงน้อยกว่าที่จะเอาช่างที่ไม่ได้มีความรู้เฉพาะทางมา ในความเข้าใจผมมันต้องใช้คนที่มีความรู้เรื่องไฟฟ้ามีความรู้เรื่องของหลังคาและมีความชำนาญในการทำงานที่สูง
รวมภาพงานติดตั้ง
ส่วนสุดท้าย การใช้งาน app
มี 2 หน้าตาให้เลือก แล้วแต่คนชอบ
เป็น graphic ดูง่าย เข้าใจง่าย บอกว่า อธิบายจาก interface ล่าง(อันเดิม) จะเห็นว่าผลิตเพียงพอต่อการใช้ ที่ดึงมาจากการไฟฟ้า คือดึงมาจ่ายให้ระบบ solar เท่านั้น เนื่องจากตอนนี้ยังอยู่ระหว่างทำเรื่องขายให้การไฟฟ้าอยู่ ในภาพล่างจะไม่มีทิศลูกศรวิ่งไปหาการไฟฟ้า และระบบจำผลิตไฟตามการใช้เท่านั้น
การใช้ app มันค่อนข้างง่ายจริงๆ ไม่รู้จะอธิบายอะไรเพิ่ม สงสัยตรงไหนใน app มี manual ให้อีก ตรงนี้ขอจบ review เท่านี้ครับ
หากเป็นประโยชน์กับเพื่อนสมาชิกรบกวนแจ้งหน่อยนะครับ หากมีประโยชน์จริงจะขอทำเพิ่มเติมส่วนของ Actual/forecast 3 เดือน/6 เดือนต่อไปครับ
[CR] Review ติด Solar rooftop 5kw/h
1. ที่มาของปัญหาค่าไฟ
2. Tracking ค่าไฟ กลางวัน/กลางคืน
3. สร้างสมมุติฐาน
4. เลือกระบบ
5. เลือกผู้ให้บริการ
6. การติดตั้ง
7. ใช้งาน app
เริ่มจากที่มาของปัญหาค่าไฟ
เริ่มจากกระแสการขึ้นค่า FT แล้วบอกให้ใช้กันประหยัดๆ ก็พยายามปรับพฤติกรรม ประยัดขึ้นจากเดือน 7 มาเดือน 8 ประหยัดไป 20 หน่วย และลดลงอีก 7 หน่วยในเดือน 9
ผลของการประยัด 20 หน่วยลดลงไปได้ 99.93 บาท
แต่ลดลงอีก 7 หน่วย กลับต้องจ่ายเพิ่ม 602 บาท จึงสรุปเอาเองเลยว่า ทางประหยัดใช้ไม่ได้
ขอพิสูจน์อีกทีว่าการประหยัดมันไม่ดีจริงหรือ
*สาเหตุที่นับจากเดือน 5 ถึงปัจจุบัน(ตามบิลค่าไฟ) เพราะเดือน 5 เป็นเดือนที่ต่อเติมส่วนขยายเสร็จและมีพ่อแม่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วย
ภาพมันชัดขึ้น ที่เราเข้าใจมาตลอดว่าไฟหน่วยละ 4 บาทกว่า ก่อน vat และก่อนอื่นๆ มันไม่ใช่สำหรับผมตั้งแต่เดือน 9 มันคือหน่วยละ 5.5 บาท ลองทำเป็นภาพให้มันดูง่ายหน่อย
จากสมการของกราฟความชันติดลบ คือประมาณว่า เรามีแนวโน้มใช้น้อยลงเดือนละ 12 หน่วย แต่กราฟนี้ความน่าเชื่อถือต่ำนะครับ เนื่องจากชุดข้อมูลมีน้อยเกินไป ใช้อ้างอิงเฉยๆ
แต่ trend มันชัดว่าจริงๆ เราประหยัดแล้ว มาดูแบบที่เป็นตัวเงินกันต่อ
จากสมการ มันแปลผกผัน อันนึง unit ความชันลบ ราคามีความชันเป็นบวก
ความสะเทือนใจมันอยู่ตรงนี้ กราฟ unit เดือน 5 ใช้หนักสุด ส่วนนึงมาจากการก่อสร้างด้วย แต่ราคากลับมา peak เดือน 10 ในขณะที่ unit เดือน 10 ขึ้นมาเป็นหลังเต่านิดเดียว
ย้อนกลับมาดูราคาต่อหน่วยค่าไฟเดือน 9-11 อยู่ที่ประมาณหน่วยละ 5.5 บาท ตรงนี้ตัดสินใจได้แล้วว่า "มันเอาจริง" เราจะเดือดร้อนจริงๆ แต่การจะติด solar cell ขนาดเพียงพอใช้ควรเป็นกี่ kw/h แล้วเราควรลงทุนจริงหรือ จะเอาเงินที่ไหนไปติด เริ่มมีคำถามเยอะขึ้น
เริ่มหาคำตอบโดยสำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าผู้ต้องสงสัยทั้งหมด ได้ผู้ต้องสงสัยดังนี้
กลุ่มเครื่องปรับอากาศ จะคำนวณที่ 12 ชมต่อตัว และคำนวณเฉพาะที่เปิดกลางคืน เพราะไม่ได้เปิดใช้งานกลางวันเลยตั้งแต่ต้องประหยัดไฟ
กลุ่มที่เปิด 24 hrs ไม่คำนวณตู้แช่แข็งเนื่องจากถอดปลั๊กออกเลิกใช้ตั้งแต่เริ่มประหยัดไฟ
กลุ่มอื่นๆ ที่กำลังไฟเยอะ
เครื่องทำน้ำอุ่นประเมินการใช้งานโดยคิด 6 คน อาบน้ำประมาณคนละ 15 นาที กลางวันและกลางคืน
เข้าสู่ส่วนที่ 2 Tracking ค่าไฟ กลางวัน/กลางคืน
ยอมรับว่ามีวินัยน้อยไปที่จะเดินไปจด meter แต่ได้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ กลางคืน 17.83 หน่วย กลางวันอยู่ที่ 10.25 หน่วย และวันละประมาณ 28.08 หน่วย
มาถึงจุดนี้สรุปเลยอย่าติด solar rooftop เพราะใช้ไฟกลางคืนมากกว่ากลางวัน ถ้าจะติดต้องติดที่ 5kw/h พร้อม Battery ซึ่ง batt ยังไม่มีความคุ้มค่าในการลงทุนปัจจุบัน(สำหรับผม)
ส่วนที่ 3 สร้างสมมุติฐาน
แต่เราจะยอมรับค่าไฟเท่านี้ กับการทนอยู่ร้อนๆ กับพัดลมหรือ จึงสร้าง solution จะเปิดแอร์แล้วจะจ่ายค่าไฟน้อยลง กลับมาที่กลุ่มแอร์ทั้งหมด
ห้องนั่งเล่นหลักและห้องนั่งเล่นพ่อแม่ต้องเปิดได้ รวมประมาณ 2.5 kw/h และในวันหยุดห้องนั่งเล่นเด็กด้วย ประมาณ 3.5 kw/h
รวมกับอีก 5.13 units ของตอนกลางวัน เปลี่ยน unit เป็น kw/h โดยหาร 12 เลย จะได้ 0.43 kw/h
ดังนั้นเลยประมาณคร่าวๆ ว่าใช้ 3.5+0.43 นับเป็น 4 kw/h เลือกติดตั้ง Solar cell 5kw/h ด้วยเหตุผลการเสื่อมแบบ linear ของ solar ที่ 25 ปี เหลือ 83% performance
สมมุติฐานคือ คำนวณว่าจะใช้ไฟตอนกลางวันที่ 0 unit และกลางคืนที่ 17.83 หน่วยต่อวัน หรือ 535 หน่วยต่อเดือน ผลคือ
จากที่จ่ายประมาณเดือนละ 5,000 เป้าหมายคือประหยัดลงเดือนละ 2,000 และจะประหยัดมากขึ้นเมื่อขึ้นค่า FT เรื่อยๆ โดยมีไฟใช้เพียงพอสำหรับกลางวัน
ส่วนที่ 4. เลือกระบบ
ระบบ solar cell มี 3 ระบบ รายละเอียดอ่านที่กระทู้อื่นนะครับ มีเยอะมาก ผมก็อ่านของท่านอื่นก่อนทำของตัวเอง ผมสรุปเผื่อคนที่ยังไม่ได้อ่านของท่านอื่นดังนี้นะครับ
1. Off gride ระบบแยกไม่ยุ่งกับการไฟฟ้า
2. On gride ใช้ไฟของการไฟฟ้าเป็นตัวเลี้ยง
3. Hybrid อันนี้ในความเข้าใจผม มันคืออัน 2+Batt
ผมเป็นบ้านในหมู่บ้านตัด choice แรกออกไป เหลือ 2 กับ 3 อยากได้ 3 มาก เพราะรำคาญไฟตก ไฟดับ ไฟกระชาก หรือไฟจะอะไรก็แล้วแต่ แต่สุดท้ายมันดับ หาราคา Batt เทียบ เริ่มจากตัว Top ในใจที่อยากได้ที่สุด Tesla power wall ราคา 599,000 บาท ราคารถคันนึง คิดแล้วทำใจไม่ได้ จะเอารถคันนึงมาเกาะผนัง หาทางเลือกอื่น Batt Huawei ราคา 250,000 เลยจบไปตัดสินใจเลือก 2 แล้วขายไฟส่วนเกินคืนการไฟฟ้าไปดีกว่า ไว้รอ Batt ถูกลงราคาสมเหตุสมผลกว่านี้ค่อยเอามาเติมทีหลัง
***อยากให้เข้าใจเพิ่มเรื่องระบบที่ 2 นี้นะครับ เนื่องจากข้อมูลส่วนใหญ่ที่หาได้ไม่ได้บอกเรื่องนี้ไว้ ตอนกลางวันไฟดับ เราก็ดับนะครับ ที่ผมเขียนไว้ด้านบนว่าต้องใช้ไฟของการไฟฟ้าเป็นตัวเลี้ยง เนื่องจากการไฟฟ้ากำหนดว่าห้ามมีไฟย้อน ถึงแม้ระบบเราจะผลิตไฟได้ มันก็ดับนะครับ ถ้าไม่อยากดับต้องมี Batt ครับ สำหรับผมอนาคตคิดว่าเติมแน่ แต่ตอนนี้ยอม ไม่ไหวกับราคามัน
ส่วนที่ 5. เลือกผู้ให้บริการ
สำคัญสุดคือราคา ลองหา 5kw/h เทียบกันดูราคาอยู่ที่ประมาณ 170,000 ไม่รวม vat หรือประมาณ 182,000 รวม vat
ราคาที่เทียบนี้คือราคาก่อน vat
***ราคานี้เป็นราคาสำรวจตอนเดือน 9 นะครับ ไม่สามารถใช้อ้างอิงปัจจุบันได้นะครับ***
รายที่ 1 เสนอราคา 172,900 คิดเป็น 101.71% ของราคาเฉลี่ย
รายที่ 2 เสนอราคา 152,000 คิดเป็น 89.41% ของราคาเฉลี่ย
รายที่ 3 เสนอราคา 169,990 คิดเป็น 99.99% ของราคาเฉลี่ย
รายที่ 4 เสนอราคา 185,000 คิดเป็น 108.82% ของราคาเฉลี่ย
รายที่ 5 เสนอราคา 165,900 คิดเป็น 97.59% ของราคาเฉลี่ย
จากลำดับราคา รายที่ 1 และ 4 เกินค่าเฉลี่ยไป เข้าสู่ mode ติดต่อจริงจัง
รายที่ 5 คุยกันครั้งสุดท้ายคือถามไฟว่ากี่ phase พอบอก 1 phase หายไปเลยไม่ติดต่ออะไรกลับมา เข้าใจว่าคงอยากทำ 3 phase เลยตัดไป
รายที่ 2 เนื่องจากผมเริ่มคุยตอนปลายเดือน 9 - ต้นเดือน 10 แต่คิดว่าน่าจะหาเงินมาติดระบบได้อย่างเร็วเดือน 12 ไม่สามารถยืนราคาได้ และหากต้องการยื่นขายไฟคืน คิดค่าดำเนินการเพิ่ม 12,000 บาท รวมเป็น 164,000 คิดเป็น 96.47% ของราคาเฉลี่ย แต่ยังถือว่าถูกที่สุดอยู่ แต่พอรวมค่าดำเนินการเพิ่มไปแล้ว ทำให้ราคาเฉลี่ยขยับขึ้นมาเป็น 171,600 ทำให้รายที่ 1 มีราคาเทียบอยู่ที่ 100.75%
รายที่ 3 ไม่สามารถยืนราคาได้ถึงช่วงที่ต้องการติดตั้งเช่นกัน
กลับมาที่รายที่ 1 ราคาถือว่าอยู่ในค่าเฉลี่ย และสามารถยืนราคาได้ สรุปราคารวม vat แล้วที่ 185,000 บาท เป้าหมายเปิดแอร์ฟรีตอนกลางวัน และลดค่าไฟเดือนละ 2,000 บาท จะใช้เวลา 93 เดือน หรือประมาณ 8 ปีคืนทุน ไม่รวมแอร์ฟรีตอนกลางวัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เนื่องจากมีแรงจูงใจในการไม่ต้องทนร้อนอีกต่อไปในตอนกลางวัน และแผง solar มีอายุการใช้งาน(รับประกัน) 25 ปี ถ้า 8 ปีคืนทุน หลังจากนั้นก็คือกำไรซิ(เข้าใจแบบนั้น 555) ดำเนินการ refinance บ้านเอาเงินมาติดซะเลย
ส่วนที่ 6. การติดตั้ง
สรุป spec แผงจบที่ 550w mono halfcell จำนวน 10 แผง มาดูหน้าตาแผงกัน
ใหญ่อยู่นะ สูง 228 cm กว้าง 114 cm ความหนาประมาณ 4 cm หนักประมาณ 29 kg ต่อแผ่น
ด้วยความที่ตัวบ้านหันหน้าทิศใต้เกือบใต้เป๊ะๆ และหลังคามีความชันที่ 15 องศา ตามมุมที่เหมาะสมที่สุด เลยตัดสินใจติดฝั่งหน้าบ้านให้ได้มากที่สุด ซึ่งวัดออกมาได้ 7 แผ่น อีก 3 แผ่นติดฝั่งตะวันตก โดยให้ติดชิดฝั่งใดฝั่งนึงไว้ เผื่อเติมแผงในอนาคต
ในการติดตั้งสิ่งที่ควรกังวลที่สุดคือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับหลังคา แต่ก็เป็นสิ่งที่พยายามป้องกันไว้แต่แรกแล้ว โดยการเลือกใช้บริษัทที่มีประสบการณ์ติดตั้งมาแล้วหลายๆ หลัง มีความเสี่ยงน้อยกว่าที่จะเอาช่างที่ไม่ได้มีความรู้เฉพาะทางมา ในความเข้าใจผมมันต้องใช้คนที่มีความรู้เรื่องไฟฟ้ามีความรู้เรื่องของหลังคาและมีความชำนาญในการทำงานที่สูง
รวมภาพงานติดตั้ง
ส่วนสุดท้าย การใช้งาน app
มี 2 หน้าตาให้เลือก แล้วแต่คนชอบ
เป็น graphic ดูง่าย เข้าใจง่าย บอกว่า อธิบายจาก interface ล่าง(อันเดิม) จะเห็นว่าผลิตเพียงพอต่อการใช้ ที่ดึงมาจากการไฟฟ้า คือดึงมาจ่ายให้ระบบ solar เท่านั้น เนื่องจากตอนนี้ยังอยู่ระหว่างทำเรื่องขายให้การไฟฟ้าอยู่ ในภาพล่างจะไม่มีทิศลูกศรวิ่งไปหาการไฟฟ้า และระบบจำผลิตไฟตามการใช้เท่านั้น
การใช้ app มันค่อนข้างง่ายจริงๆ ไม่รู้จะอธิบายอะไรเพิ่ม สงสัยตรงไหนใน app มี manual ให้อีก ตรงนี้ขอจบ review เท่านี้ครับ
หากเป็นประโยชน์กับเพื่อนสมาชิกรบกวนแจ้งหน่อยนะครับ หากมีประโยชน์จริงจะขอทำเพิ่มเติมส่วนของ Actual/forecast 3 เดือน/6 เดือนต่อไปครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้