จริงบ้านผมก็ไม่ได้ใช้ไฟเยอะอะไร จะเรียกว่าเยอะมั้ย คือ แค่ประมาณ 2,000-3,000บาท/เดือน
วันธรรมดา ต่างคนก็ต่างใช้ชีวิต ไปทำงานนอกบ้านกันหมด ไม่ค่อยได้ใช้ไฟ 
จะมีช่วงที่ร้อนมากๆ ก็จะเปิดแอร์ให้แมวกับกระต่ายนอนบ้าง เปิดเบาๆ โหมดDRY 28องศา 

โซล่าเซลนี่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะติดแต่แรก ยังรู้สึกว่ายังรับได้กับค่าไฟ 
พอดีว่าปีที่แล้วไปเดินงานแฟร์ งานบ้าน พอเริ่มสำรวจราคา มันเริ่มลงมาในจุดที่ผมรับได้แล้ว
คุยกับทีมงานผู้รับเหมา/ผู้ให้บริการแล้วโอเค คุยกันรู้เรื่อง ก็เลยเอาก็เอามาแล้วกัน 

< จุดที่ผมมองว่ารับได้ คือ 10ปี ไม่ขาดทุนแน่ๆ >

แดดที่พอผลิตไฟได้ในบ้านเรา เฉลี่ยทั้งปี จะอยู่ที่ 4 - 4.4 ชั่วโมง/วัน ผมใช้ค่า 4.25 ชั่วโมง/วัน
เผื่อ ค่าประสิทธิภาพ จาก ฝุ่น เงา ความร้อน อื่นๆ คิดว่าประสิทธิภาพระบบ 85% 
ระบบที่ผมเล็งไว้ คือ 5kW   ดังนั้น 5 x 4.25 x 85% = 18.06 kWh/วัน (โดยเฉลี่ย)

ถ้าผลิตไฟได้แล้ว ไม่ได้ใช้เลย ขายคืนให้กับโครงงการ Solar ประชาชน อย่างเดียว 
จะขายได้ 2.2บาท/kWh ซึ่งจะน้อยกว่าเราซื้อไฟจากการไฟฟ้าจะตก 4-4.7บาท/kWh 
1ปี ขายไฟอย่างเดียว ผมจะได้ 18.06kWh x 365วัน x 2.2บาท =  14,502.18 บาท/ปี 

ถ้าคิดกรณีเลวร้ายที่สุด ติดแล้วไม่ได้ใช้เลย ขายอย่างเดียว 14,502.18 x 10ปี = 145,021.8 บาท 
ดังนั้นระบบที่ผมจะติดตั้งจะต้อง ราคาไม่เกิน 145,000บาท 10ปีผมจะได้ทุนคืนพอดี

ตรงนี้ต้องลงหมายเหตุว่า ณ วันนี้ 16 เมษายน 2568 โควต้าโครงการ Solar ประชาชนเต็มไปแล้ว
และยังไม่มีการเพิ่มโควต้า (https://ppantip.com/topic/42819342)

< ระบบที่ถูกเลือกมาใช้ >

ตอนที่ผมติด ระบบที่กำลังมาแรงน่าจะเป็น Micro Inverter ทำตลาดจริงจัง ทั้ง Enphase และ Hoymile 
ด้วยข้อจำกัดในการเดินสายไฟ กับ ราคา ด้วยตอนผมติด Micro Inverter ยังแพงกว่าอยู่ราวๆ 20%

ระบบสุดท้ายที่ติด: แผง JA620W (8แผง) + Inverter 5kW + Power Optimizer 600W (8ตัว) (ได้แถมมา)

ซึ่งตัว Optimizer สามารถทำหน้าที่คล้ายๆ Micro Inverter คือ แยกการทำงานของออกจากกัน 
และ เป็น Rapid Shutdown ในตัว โดยหลักการ ผมมองว่า ปลอดภัย ใกล้เคียงกันกับ Micro Inverter 
และก็เป็นระบบที่สามารถเพิ่มแบตเข้าไปง่ายกว่า ถ้าอนาคตอยากจะติดแบตเตอรี่

< การติดตั้งและการขอขายไฟ >

ระบบของผม ติดตั้ง 5 แผง หน้าบ้าน หันทิศใต้ อีก 3แผง หันทิศตะวันตก ใช้เวลาติดตั้ง 2วัน 
วันแรก ติดราง เดินสายไฟ วันที่สอง ยกแผงติดตั้ง และ เชื่อมระบบทั้งหมด ซึ่ง Inverter มีกันย้อนเรียบร้อย 

หลังจากนั้น บ.ที่ติดตั้ง ขอเอกสารและทำเรื่องขายไฟ ซึ่งผมติด เมษายน ปีที่แล้ว
ได้รับอนุมัติ พอดี ก่อน สิทธิจะเต็ม ในเดือน มิถุนายน แต่กว่าจะเริ่มขายไฟจริงๆ ปาไป พฤศจิกายน ครับ
เรื่องการล่าช้านี่ ผมอาจจะเป็นฝ่ายชะล่าใจเองด้วยส่วนหนึ่ง ไม่ได้ตามเรื่องตรวจระบบเลยช้าด้วย

< ผลประกอบการของระบบ >

ช่วงแรก จะเป็นช่วงที่ไม่ได้ขายไฟ จะเป็นการผลิตเพื่อใช้อย่างเดียว 
ช่วงสอง ไฟที่เหลือจากใช้จะขายคืนเข้าระบบการไฟฟ้า

เดือนเมษาที่ติดตั้งขอตัดออกไปก่อนนะครับ ตัวเลขไมเต็มเดือน 
ส่วนเมษาปีนี้ก็ยังไม่ครบเดือน บิลยังไม่มา 

เนื่องจากผมใช้ไฟช่วงที่มีแดดไม่เยอะมาก หลักๆจะมีเปิดแอร์แค่ตัวเดียว 
เดือนไหนหยุดอยู่บ้านเยอะก็จะได้ส่วนนี้เยอะหน่อย ช่วงแรกเฉลี่ยแล้วประหยัดค่าไฟได้ 750บาท/เดือน

พอเริ่มขายไฟได้ ก็ได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เหลือไฟขายเยอะจริงๆ 
ช่วงที่สองนี้ หักรายรับรายจ่าย จะประหยัดค่าไฟเฉลี่ย 2,000 บาท/เดือน

ระบบเพิ่งเปิดให้ผลิตไฟได้เต็มประสิทธิภาพ ตอนขายไฟได้ประมาณ4เดือนกว่าๆ
ตอนนี้สามารถผลิตได้เฉลี่ย 21-22kWh/วัน สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 18.06 kWh/วัน ยังต้องรอดูหน้าฝนอีกที

< เพิ่มเติม >

ผมเห็นปัญหาว่าค่าไฟส่วนมากมาจากการที่แอร์ห้องนอนผมกินไฟ 
ฤดูกาล 10.10 ปีที่แล้วเลยเสียตัง เปลี่ยนแอร์ให้มันจบๆไป (https://ppantip.com/topic/43014746)
ผลคือ ค่าไฟลดลงจริงๆครับ เฉลี่ยเดือนละ 100หน่วย โดยประมาณ 
ลดจนขนาดที่ เดือน ธันวาคม กับ มกราคม ผมขายไฟได้เงินมากกว่าที่เสียค่าไฟ ค่าไฟตามบิลเลยติดลบ 

ทั้งนี้ก็รอดูอยู่ว่าแอร์ที่ติดไปจะทนแค่ไหน ขอแค่ประมาณ 3ปี ก็จะคุ้มค่าเครื่องที่ติดตั้งไป

< สรุป >

ผ่านไป 1 ปี ผมเสียค่าติดตั้งระบบไป 145,000บาท ส่วนที่ประหยัดได้ไปแล้ว ประมาณ 13,200 
ถ้ารวมของเดือนเมษาด้วย น่าจะใกล้เคียงตัวเลขที่ประมาณการไว้ ที่ 14,500บาท/ปี 

ส่วนที่ขายไฟได้ พอใช้งานจริงก็ไปได้ด้วยดีครับ สัญญาการไฟฟ้า 10ปี น่าจะคุ้มทุนค่าระบบก่อน 10ปี
เรื่องการบำรุงรักษา ตอนนี้ผู้ติดตั้งเค้ายังเข้ามาเช็คระบบให้ทุกปี พร้อมล้างแผงฟรี 5ปี แรก
หลังจากนั้น คิดว่าค่าล้างปีละ1-2ครั้ง ไม่น่าจะเป็นปัญหา หากยังขายไฟได้ ประมาณนี้

สำหรับตอนนี้ ใครที่สนใจโซล่าเซลล์แต่กลางวันใช้ไฟน้อย อาจจะต้องรอดูนโยบายรัฐบาลก่อน
เพราะ บอกว่าสนับสนุนก็จริง แต่ก็ยังไม่มีนโยยาบกลับมารับซื้อไฟ Solar ประชาชนเพิ่ม 
หรือ อาจจะต้องพิจารณาการใช้งานควบคู่กับแบตเตอรี่ไปเลย ราคาก็ลงมาระดับหนึ่งแล้ว

ส่วนตัวมองว่า อาจจะไม่ใช่การลงทุนที่สร้างผลตอบแทนอะไรจริงจัง 
แต่เป็นเหมือน ความมั่นคงทางพลังงานของเราเอง ไม่ต้องไปวัดดวงกับค่าft ขึ้นๆลงๆ

สำปรับปีแรก น่าจะจบเพียงเท่านี้ ถ้าปีหน้ามีโอกาส จะมาอัพเดทตัวเลขอีกทีว่าขายไฟทั้งปีได้เท่าไหร่