ผมได้ย้ายบ้านเข้าอยู่ วันที่ 1 กย. โดยตอนเข้าอยู่ มีค่าไฟค้างอยู่ 2 พัน ผมก็จ่ายๆไปไม่คิดมาก
แต่หลังจากอยู่ครบเดือน บิลค่าไฟมา 10,682 บาท
ซึ่งแพงมาก
ตอนแรกผมคิดว่าเป็นไปได้ที่แอร์ห้องข้างล่างอาจจะกินไฟเยอะ เพราะประตูห้องเค้าทำไม่ดี เป็นบานเลื่อนที่ปิดไม่สนิททั้งด้านหน้าด้านหลัง มีช่องให้แอร์ออกทุกทาง
เดือนต่อมา ผมเลยช่วยกันประหยัดไฟ โดยพยายามหาอะไรมาปิดช่อง และเปิดแอร์ห้องข้างล่างเฉพาะตอนนอน
ส่วนแอร์ห้องข้างบน ยังเปิดทั้งวันเหมือนเดิม แต่ตั้ง 28 องศา แค่พอไม่ร้อน
บิลมา 9,232 บาท ลดไปประมาณ 1,400 บาท
ผมว่าไม่ใช่ล่ะ เลยติดต่อการไฟฟ้าเข้ามาเช็ค เค้าเช็คให้แค่มิตเตอร์ ลองปิด-เปิดแอร์ห้องข้างบนดู การไฟฟ้าเค้าบอกว่า แอร์ห้องข้างบนมีปัญหา น่าจะกินไฟเป็นพันหน่วย/เดือน
ผมเลยไปตามช่างแอร์ ที่เค้าบอกว่าเช็คระบบไฟได้มาดู ช่างแอร์มาบอกว่าเช็คไฟลงกราว์ด อะไรของเค้าแล้ว สรุปเค้าบอกว่า ไม่น่าจะใช่ที่แอร์ มีความเป็นไปได้ที่ระบบไฟในบ้านอาจจะรั่วเข้าโครง หรือไม่ก็มีการขโมยไฟใช้ ต้องเปิดฝ้าเช็คทั้งหมด แต่มีค่าใช้จ่าย 5-6 พันบาท
ก็ยังไม่ได้มีการตกลงกัน ล่าสุดเจ้าของบ้านเค้ากำลังจะให้ช่างที่คอนโดเค้ามาเช็คให้
+++++++++++
คำถามที่ผมอยากจะรบกวนขอความคิดเห็นคือ
1. อยากรบกวนถามผู้ที่มีความรู้ ความชำนาญ ว่ากรณีตามรายละเอียดที่ผมอธิบายไปทั้งหมด มันมีสาเหตุอะไรที่เป็นไปได้บ้างครับ ที่ค่าไฟสูงกว่าปกติ หรือมันปกติครับ? ควรจะเช็คอะไร?ยังไง? ควรจะระวังอะไรไหม?
2. สมมุติว่าสาเหตุมาจากแอร์เสีย(แอร์เป็นของเจ้าของบ้าน ที่ติดตั้งไว้อยู่แล้ว) หรือไฟรั่วที่โครงสร้าง หรือมีการขโมยไฟใช้ (ซึ่งสาเหตุทั้งหมด ถ้าเกิด ก็คือเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนผมเข้าอยู่)
เพื่อนๆคิดว่าค่าใช้จ่ายในการตรวจเช็ค การซ่อมแซม อาจจะรวมไปถึงค่าไฟส่วนเกินที่เสียไป 2-3 เดือน ควรจะอยู่ในความรับผิดชอบของผู้เช่า หรือเจ้าของบ้าน(ผู้ให้เช่า)ครับ?
3. ถ้าสรุปว่าผู้เช่า ควรจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าคิดว่าเจ้าของบ้าน(ผู้ให้เช่า)ควรเป็นคนรับผิดชอบ เพราะไม่ใช่ความผิดผู้เช่า ผู้เช่าต้องมาแบกรับภาระจากบ้านที่ปัญหาอยู่ก่อนแล้ว ...ควรจะคุยกับเจ้าของบ้านยังไงครับ?
ย้ายบ้านใหม่ ค่าไฟเป็นหมื่น คิดว่าเป็นความผิดผู้เช่า หรือผู้ให้เช่าครับ?
แต่หลังจากอยู่ครบเดือน บิลค่าไฟมา 10,682 บาท
ซึ่งแพงมาก
ตอนแรกผมคิดว่าเป็นไปได้ที่แอร์ห้องข้างล่างอาจจะกินไฟเยอะ เพราะประตูห้องเค้าทำไม่ดี เป็นบานเลื่อนที่ปิดไม่สนิททั้งด้านหน้าด้านหลัง มีช่องให้แอร์ออกทุกทาง
เดือนต่อมา ผมเลยช่วยกันประหยัดไฟ โดยพยายามหาอะไรมาปิดช่อง และเปิดแอร์ห้องข้างล่างเฉพาะตอนนอน
ส่วนแอร์ห้องข้างบน ยังเปิดทั้งวันเหมือนเดิม แต่ตั้ง 28 องศา แค่พอไม่ร้อน
บิลมา 9,232 บาท ลดไปประมาณ 1,400 บาท
ผมว่าไม่ใช่ล่ะ เลยติดต่อการไฟฟ้าเข้ามาเช็ค เค้าเช็คให้แค่มิตเตอร์ ลองปิด-เปิดแอร์ห้องข้างบนดู การไฟฟ้าเค้าบอกว่า แอร์ห้องข้างบนมีปัญหา น่าจะกินไฟเป็นพันหน่วย/เดือน
ผมเลยไปตามช่างแอร์ ที่เค้าบอกว่าเช็คระบบไฟได้มาดู ช่างแอร์มาบอกว่าเช็คไฟลงกราว์ด อะไรของเค้าแล้ว สรุปเค้าบอกว่า ไม่น่าจะใช่ที่แอร์ มีความเป็นไปได้ที่ระบบไฟในบ้านอาจจะรั่วเข้าโครง หรือไม่ก็มีการขโมยไฟใช้ ต้องเปิดฝ้าเช็คทั้งหมด แต่มีค่าใช้จ่าย 5-6 พันบาท
ก็ยังไม่ได้มีการตกลงกัน ล่าสุดเจ้าของบ้านเค้ากำลังจะให้ช่างที่คอนโดเค้ามาเช็คให้
+++++++++++
คำถามที่ผมอยากจะรบกวนขอความคิดเห็นคือ
1. อยากรบกวนถามผู้ที่มีความรู้ ความชำนาญ ว่ากรณีตามรายละเอียดที่ผมอธิบายไปทั้งหมด มันมีสาเหตุอะไรที่เป็นไปได้บ้างครับ ที่ค่าไฟสูงกว่าปกติ หรือมันปกติครับ? ควรจะเช็คอะไร?ยังไง? ควรจะระวังอะไรไหม?
2. สมมุติว่าสาเหตุมาจากแอร์เสีย(แอร์เป็นของเจ้าของบ้าน ที่ติดตั้งไว้อยู่แล้ว) หรือไฟรั่วที่โครงสร้าง หรือมีการขโมยไฟใช้ (ซึ่งสาเหตุทั้งหมด ถ้าเกิด ก็คือเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนผมเข้าอยู่)
เพื่อนๆคิดว่าค่าใช้จ่ายในการตรวจเช็ค การซ่อมแซม อาจจะรวมไปถึงค่าไฟส่วนเกินที่เสียไป 2-3 เดือน ควรจะอยู่ในความรับผิดชอบของผู้เช่า หรือเจ้าของบ้าน(ผู้ให้เช่า)ครับ?
3. ถ้าสรุปว่าผู้เช่า ควรจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าคิดว่าเจ้าของบ้าน(ผู้ให้เช่า)ควรเป็นคนรับผิดชอบ เพราะไม่ใช่ความผิดผู้เช่า ผู้เช่าต้องมาแบกรับภาระจากบ้านที่ปัญหาอยู่ก่อนแล้ว ...ควรจะคุยกับเจ้าของบ้านยังไงครับ?