ฉันจะหนีจากครอบครัวที่ไม่ใช่ save zone ได้อย่างไร

อายุ25แล้วค่ะ ไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง ตั้งแต่เด็กโดนบังคับให้เรียนนู้นนี่นั่นอยู่ตลอด ด้วยความถูกสอนให้เป็นเด็กดีเชื่อฟังพ่อแม่ เลยทำตามทุกอย่าง สุดท้าย เรียนไปร้องให้ไปจนจบ ป.ตรี จบ2ใบ ทรมานมากไม่ชอบสักอย่าง จบมา ทำงานก็ต้องทำธุรกิจต่อจากที่บ้าน ก็ไม่ได้ชอบเลยทำงานอย่างทรมาน ทุกอย่างเกิดจากความจำยอมที่ไม่อยากทะเลาะ ทุกวันนี้ทำงานมีเท่าไรให้ที่บ้านหมด ไม่เคยได้เอาไปใช้ส่วนตัวเลย ย้ำค่ะ ไม่เคยได้เอาไปใช้ส่วนตัวเลย แล้วยังมีปัญหาเรื่องเงินที่พ่อแม่ทำๆไว้ให้แก้อีกมหาสาร เป็นหนี้นอกระบบบ้าง ในระบบบ้าง หมายศาลบ้าง เราก็ทำงานตามใช้ไปค่ะ ตอนไปทำสัญญาอะไร แอบไปลงทุนอะไร เราไม่เคยรู้เรื่องเลย แต่พอโดนโกงบ้างแหละ ต้องจ่ายดอกจ่ายค่างวดบ้างแหละ ต้องคืนเขาบ้างแหละ ค่อยมาบอกเราทั้งนั้น ทุกวันนี้เหมือนตายทั้งเป็นเลยค่ะ อ้อลืมบอกค่ะ เป็นครอบครัวหัวคิดคนจีนหน่อยๆ แล้วแม่ดันได้ลูกชายเป็นคนโตอีก ลูกสาวคนเล็กอย่างเราก็ซวยอยู่แล้วค่ะ เราจะไม่ได้โทษพ่อแม่นะคะ ทุกครอบครัวก็ล้วนอยากมีครอบครัวสุขสันต์กันทั้งนั้นแหละค่ะ ไม่มีครอบครัวไหนอยากประสบปัญหา หรืออยากให้คนในครอบครัวต้องมาลำบาก ตอนนี้เราปิดหนี้นอกระบบกับหนี้สำคัญๆให้ไปแล้ว หนักหนามาก ทรมานกว่าช่วงเรียนล้านเท่าเลย แต่ไม่รู้จะมีเจ้าไหนโผล่มาอีก เพราะที่ผ่านมาก็มีโผล่มาเรื่อยๆ แล้วสิ่งที่เจ็บปวดกว่าคือการที่พ่อแม่จะบอกว่าสิ่งที่ทำถูกเสมอ ใช่ค่ะพวกเขาไม่ผิดที่โดนหลอก โดนโกง หรือจะมีแนวคิดการเลี้ยงแบบของเขา เราเองที่รู้สึกบรรยากาศครอบครัวสำหรับเราไม่ใช่ save zone แต่อย่างที่บอกไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องไม่ดีในครอบครัวตัวเองหรอก พักหลังๆพูดบ้างแล้วค่ะ เราที่แบกภาระขนาดนี้ก็ถือว่ามีประสบการณ์พอตัวเลยสอนพวกเขาไป ผลที่ได้คือทะเลาะบ้านแตกค่ะ พ่อแม่บอกรับความก้าวร้าวเราไม่ได้ ทำไมเราคิดแบบนี้ พูดแบบนี้ เขาเสียใจนะ เราที่ไม่อยากทะเลาะกับพ่อแม่ก็สู้แค่นี้แหละ เปลี่ยนเขาไม่ได้ก็เปลี่ยนเราแทน หาวิธีหนีเพื่ออิสรภาพค่ะ

ทุกวันนี้แยกบ้านกันอยู่ อยู่คนละจังหวัดเลยค่ะ จึงพอได้มีอิสระอยู่บ้างที่จะตื่นนอนกินตอนไหนก็ได้ แต่ไม่ได้รอดขนาดนั้นนะคะ งานที่ทำๆก็เครียดมาก เกลียดมันยิ้มแต่ต้องทำเพื่อเงินที่ตนจะไม่ได้ใช้ และทำเพราะเห็นแก่หน้าพ่อหน้าแม่ เครียดกว่าคือที่บ้านยังคอยโทรส่งปัญหามาให้เรามาแก้ตลอด แอบคิดค่ะ ปัญหาพวกนี้ถูกส่งมาเพื่อให้เราแก้จริงๆหรอ แล้วถ้าไม่มีเราปัญหาพวกนี้มันจะไม่มีใครมาแก้เลย ก็คงเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายปัญหามันจะมีทางออกต่อให้ไม่มีเราก็ตาม คิดจะหยุดแล้วค่ะ ไม่ไหวแล้ว ความเครียดที่สะสมๆ มันทำร้ายเรามากๆ ส่วนตัวว่าสิ่งที่ทำให้ที่บ้านก็เยอะพอสมควรเลยนะ แล้วก็คิดว่าเราไม่ผิดด้วยที่เราอยากพัก อยากใช้ชีวิตของเราจริงๆบ้าง 

ทุกวันนี้เป็นซึมเศร้ากับเรื่องที่บ้านมาก เคยหนีโดยจะตายดูแล้วค่ะ แฟนเราช่วยทันแล้วก็เตือนสติไว้ ว่าถ้าตายก็ยิ่งไม่ได้มีชีวิตเป็นของตัวเอง แฟนแอบชี้ทางว่าไปใช้ชีวิตไกลๆดูไหม แต่ก็ยังอยู่ขั้นตอนทบทวนอยู่ค่ะ อะไรคุ้มดีคุ้มเสียกว่ากัน มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเรา นั่งคิดคนเดียวก็ได้มุมเดียว และเราไม่ได้เกิดมาคนแรกของโลก ต้องมีคนเจอเรื่องพวกนี้ปัญหาแบบนี้มาก่อนแล้วเขาผ่านมันมายังไง 

สอบถามผู้รู้ หรือ ผู้มีประสบการณ์คล้ายๆกันว่าเอาไงต่อ ไปตั้งหลัก หรือหนี หรือยังไง ผ่านมันมาได้อย่างไร แชร์ประสบการณ์กันหน่อย

ปล.ไม่ได้จะทิ้งพ่อทิ้งแม่นะคะ ขอมีชีวิตในแบบตัวเองเฉยๆ ถ้ามันไปรอดในแบบของเรา ก็ขอดูแลพวกเขาในแบบวิธีของเราน่าจะดีกว่าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่